ศาลสูงสุดสหรัฐระงับคำสั่งฉีดวัคซีนโควิด พนง. บริษัทใหญ่
วอชิงตัน 14 ม.ค. – ศาลสูงสุดของสหรัฐสั่งระงับข้อกำหนดบังคับให้กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนรายใหญ่ในสหรัฐเข้ารับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัย หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ออกโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ศาลสูงสุดของสหรัฐระบุว่า ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน แต่รัฐบาลสหรัฐสามารถใช้ข้อกำหนดนี้ได้ในกลุ่มพนักงานที่ทำงานในสถานพยาบาล ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลสหรัฐอ้างว่าข้อกำหนดฉีดวัคซีนโควิดจะช่วยให้สหรัฐรับมือกับการระบาดของโรคโควิดได้ ส่วนประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งมีคะแนนนิยมลดลงอย่างมาก กล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของศาลสูงสุดสหรัฐที่สั่งระงับข้อกำหนดฉีดวัคซีนโควิดให้พนักงานบริษัทเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องชีวิตของพวกเขา เขาขอเรียกร้องให้ผู้นำธุรกิจรายอื่น ๆ เข้าร่วมกับกลุ่มธุรกิจที่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนโควิดในทันที และประกาศใช้ข้อกำหนดฉีดวัคซีนในบริษัทเพื่อปกป้องพนักงาน ลูกค้า และชุมชน ก่อนหน้านี้ รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนได้ออกข้อกำหนดพนักงานบริษัทเอกชนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด สวมหน้ากากอนามัย และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทุกสัปดาห์โดยที่บริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป และส่งผลกระทบต่อพนักงานบริษัทราว 84 ล้านคน อย่างไรก็ดี ผู้คัดค้านข้อกำหนดดังกล่าว เช่น ส.ส. พรรครีพับลิกัน และกลุ่มบริษัทหลายแห่ง มองว่า รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนออกข้อกำหนดที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลจนทำให้เกิดการคัดค้านทางกฎหมายในทันที.-สำนักข่าวไทย