เคลื่อนสรีรสังขาร หลวงพ่อพัฒน์ ถึงวัดห้วยด้วน
ศิษยานุศิษย์และเจ้าหน้าที่วัดผู้เกี่ยวข้อง เคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อพัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน กลับถึงนครสวรรค์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้
ศิษยานุศิษย์และเจ้าหน้าที่วัดผู้เกี่ยวข้อง เคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อพัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน กลับถึงนครสวรรค์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้
“หลวงพ่อพัฒน์” อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ มรณภาพ สิริอายุ 102 ปี 78 พรรษา บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างโพสต์อาลัย
ตำรวจยึดทรัพย์แก๊งไวยาวัจกร วัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ หนึ่งในไวยาวัจกร ยืนยันหนักแน่นตนซื่้อสัตย์ ไม่เคยโกงเงินวัดแม้แต่บาทเดียว บอกโดนกลั่นแกล้ง ด้าน ผบก.ปปป. มั่นใจพยานหลักฐานปฏิบัติการ “ปราบผีเปรต” เพียงพอเอาผิดแก๊งไวยาวัจกร
บก.ปปป.2 กพ.-บก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ขยายผล ยึดอายัดทรัพย์ ดำเนินคดี กลุ่มไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัดธารทหาร หรือวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ พลตำรวตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยถึงการเข้าตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มไวยาวัจกร วัดธารทหาร หรือ วัดห้วยด้วน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 3 คน เพื่อค้นหาทรัพย์สินที่ยักยอกไปจากวัดและหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม เจ้าอาวาสวัดฯ เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) เป็นการดำเนินงานต่อจากคดีเดิมที่ทาง บก.ปปป. เคยสรุปสำนวนเบื้องต้นส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งทาง ป.ป.ช.เห็นชอบให้ บก.ปปป.ดำเนินการสืบสวนต่อ และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยครั้งนั้น บก.ปปป.ได้แกะรอยเส้นทางการเงิน กลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ คือ นายเสนาะ ทองปรอน, นางชัญญา เพชรสายบัว และนางบุญเชิด สุขจิตร อย่างละเอียด ก่อนพบหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่าทั้ง 3 คน มีการนําเงินของวัดไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท จึงได้อายัติเงินดังกล่าวนำกลับมาส่งมอบคืนให้กับหลวงพ่อพัฒน์ แต่ยังเชื่อว่ามีเงินถูกทุจริตไปอีกหลายสิบล้าน เนื่องจากไม่มีการทำบัญชีการเงินชัดเจน เมื่อวานนี้ (1ก.พ.)เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสามารถยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องสงสัยกลุ่มเดิมได้เพิ่มเติมทั้ง เงินสด โฉนดที่ดินและทองรูปพรรณ พระเครื่อง และอาวุธปืน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เพื่อนำมาตรวจสอบว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะมุ่งเน้นค้นหาทรัพย์สินให้ได้มากที่สุดก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยยังเหลือที่ดินที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ เป็นที่ดินที่ไม่มีที่มาที่ไป และอาจมีการล็อบบี้ผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปกปิดข้อมูลที่ดินดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการเรียกเจ้าของที่ดินรายเดิมมาให้ปากคำ และหากยังปกปิดข้อมูลก็จะเข้าข่ายความผิดด้วย […]