วัคซีนซิโนแวก

ลอนดอน 17 ส.ค. – วารสารการแพทย์แลนเซตด้านโรคติดเชื้อ เผยแพร่ผลวิจัยที่ระบุว่า ความเสี่ยงจากอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกจะเพิ่มสูงขึ้นหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของซิโนแวกเข็มแรก ผลวิจัยดังกล่าวได้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วมการทดสอบกว่า 451,000 คน และพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทางคลินิก 28 คนที่มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกหลังฉีดวัคซีนของซิโนแวก ซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่าผู้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ที่มีอาการดังกล่าวเพียง 16 คน ผลวิจัยดังกล่าวยังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงโดยรวมของอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกที่เพิ่มสูงขึ้นหลังฉีดวัคซีนของซิโนแวก อย่างไรก็ดี ผลวิจัยระบุว่า วัคซีนของซิโนแวก ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าความเสี่ยงจากอาการข้างเคียง ทั้งนี้ ผลวิจัยดังกล่าวได้รับการจัดทำขึ้นในฮ่องกงและประเมินความเสี่ยงของอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนภายใน 42 วัน ขณะนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถติดต่อซิโนแวกเพื่อขอความเห็นจากเรื่องดังกล่าวได้ในทันที.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกง 16 ก.ค. – ผลการวิจัยของฮ่องกงระบุว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไบโอเอนเทคที่พัฒนาร่วมกับไฟเซอร์มีปริมาณแอนติบอดีมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนของซิโนแวกถึง 10 เท่า ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงที่ทำการศึกษาในกลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 1,442 คนและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์แลนเซ็ต ไมโครบเมื่อวานนี้ระบุว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของซิโนแวกมีปริมาณแอนติบอดี ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างจากระบบภูมิต้านทานของคน ในระดับใกล้เคียงหรือน้อยกว่าในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อและรักษาหายจากโรคโควิดแล้ว ทั้งยังมีหลักฐานเพิ่มเติมที่ชี้ว่า วัคซีนชนิด mRNA ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ เช่น วัคซีนของไบโอเอนเทคและโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาและเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ดีกว่าวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีดั้งเดิม เช่น วัคซีนที่ใช้เชื้อตายของไวรัส อย่างไรก็ดี วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีดั้งเดิมใช้ต้นทุนในการผลิตน้อยและง่ายต่อการเก็บรักษาหรือขนส่ง ทำให้เหมาะแก่การนำไปใช้ควบคุมการระบาดในกลุ่มประเทศที่ไม่ร่ำรวย คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงระบุในรายงานดังกล่าวว่า แอนติบอดีไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียวถึงความสำเร็จของวัคซีนในการป้องกันโรคบางชนิด แต่ความแตกต่างของปริมาณแอนติบอดีที่พบในผลการวิจัยครั้งนี้สามารถตีความได้ถึงความแตกต่างอย่างมากในเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งสองชนิด อย่างไรก็ดี เบน โคว์ลิง นักระบาดวิทยาและหนึ่งในคณะผู้เขียนผลการวิจัยดังกล่าวแนะนำว่า ผู้คนทั่วไปควรเข้ารับการฉีดวัคซีนของซิโนแวก หากไม่มีตัวเลือกอื่น เพราะการได้รับการป้องกันบ้างย่อมดีกว่าไม่ได้รับอะไรเลย. -สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 14 ก.ค. – หลายพื้นที่ของจีนจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่กลุ่มวัยรุ่นในเดือนนี้เพื่อควบคุมการระบาด ในขณะที่จีนฉีดวัคซีนไปแล้วราว 1,400 ล้านโดส หรือคิดเป็นร้อยละ 40 จากยอดฉีดวัคซีนทั่วโลก 3,470 ล้านโดส สื่อของทางการจีนและเจ้าหน้าที่หน่วยงานควบคุมโรคระดับท้องถิ่นของจีนระบุเมื่อวานนี้ว่า เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและเมืองจิงเหมินในมณฑลหูเป่ย์ทางตอนกลางของจีนจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนอายุ 15-17 ปีในเดือนนี้ และฉีดให้กลุ่มอายุ 12-14 ปีในเดือนสิงหาคม โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนอายุ 12-17 ปีทั้งหมดภายในสิ้นเดือนตุลาคม รองผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนเผยกับสำนักข่าวซินหัวของจีนเมื่อเดือนก่อนว่า จีนตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้ได้ร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งของจีนระบุว่า พวกเขาจะตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีนและบันทึกรายละเอียดส่วนบุคคลในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนในสถานที่สาธารณะ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตและสถานีรถไฟ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ก่อนหน้านี้ จีนอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด 2 ขนานที่พัฒนาขึ้นในประเทศ ได้แก่ วัคซีนของซิโนแวกและวัคซีนของซิโนฟาร์มที่ผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง ในเด็กอายุ 3-17 ปี ทั้งนี้ จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกราว 1,400 ล้านคน มักไม่ค่อยเปิดเผยยอดผู้ได้รับวัคซีนครบสองโดส แต่สถานีโทรทัศน์ของทางการจีนรายงานเมื่อเดือนก่อนว่า จีนมีอัตราฉีดวัคซีนทั่วประเทศกว่าร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 25 มิ.ย. – นักวิจัยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนเผยว่า แอนติบอดีที่ได้รับการกระตุ้นโดยวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สองขนานของจีนมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่ยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันอยู่ นายเฝิง จื่อเจี้ยน นักวิจัยและอดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของจีน ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งจีน หรือซีซีทีวี เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สองขนานของจีนจัดเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ซึ่งเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสที่ถูกทำให้ตายแล้วและแบ่งตัวในเซลล์มนุษย์ไม่ได้ อย่างไรก็ดี นายเฝิงไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และไม่ได้เอ่ยชื่อวัคซีนสองขนานของจีนที่เขากล่าวถึง เขากล่าวทิ้งท้ายว่า จากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในมณฑลกวางตุ้ง ไม่พบผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดมีอาการป่วยรุนแรง และผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงก็เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด จีนได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขึ้นมาทั้งหมด 7 ขนาน ในจำนวนนี้ มีวัคซีน 5 ขนานที่เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายและได้รับการนำมาใช้ในโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงวัคซีนของซิโนแวก ไบโอเทค และซิโนฟาร์มที่ได้รับการนำไปใช้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น บราซิล บาห์เรน และชิลี ขณะที่เจ้าหน้าที่ของจีนเผยว่า พบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาใน 3 เมืองของมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวในชุมชนทั้งหมด 170 คนนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-21 มิ.ย. ที่ผ่านมา […]

ชุมชนแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์สร้างแรงจูงใจให้ชาวบ้านเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการจับฉลากแจกข้าวสารกระสอบใหญ่ให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีน หลังพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวใจให้พวกเขามาฉีดวัคซีน

อินโดนีเซียพบแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 350 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งที่ได้รับการฉีดวัคซีนของซิโนแวค และมีอีกหลายสิบรายที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ปักกิ่ง 8 มิ.ย. – จีนอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของซิโนแวค เป็นกรณีฉุกเฉินในกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำสุด 3 ปี ถือเป็นประเทศแรกของโลกที่จะฉีดวัคซีนโควิดให้แก่เด็กเล็ก โฆษกของซิโนแวค บริษัทเวชภัณฑ์ของจีน เผยว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางการจีนได้อนุมัติใช้วัคซีนของซิโนแวคเป็นกรณีฉุกเฉินในกลุ่มเด็กอายุ 3-17 ปีแล้ว แต่เขาไม่ได้ยืนยันว่า จีนจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่เด็กในช่วงวัยดังกล่าวเมื่อใด และระบุเพียงว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนจะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลา โดยขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด และการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจีนในปัจจุบัน ทั้งนี้ ซิโนแวคได้เสร็จสิ้นการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระยะแรกในกลุ่มเด็กเล็กและวัยรุ่น โดยจะมีการตีพิมพ์ผลวิจัยในวารสารเดอะแลนซิต ในเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้านี้ สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ไม่เผยนามของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 ของจีน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จีนได้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขณะนี้จีนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนกว่า 777 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดกว่า 1,400 ล้านคน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของทางการจีน ระบุว่า จีนตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากร […]

ฮ่องกงอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของซิโนแวก บริษัทเวชภัณฑ์ของจีนเป็นกรณีฉุกเฉิน และจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

มะนิลา 11 ก.พ. – ฟิลิปปินส์คาดว่าจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 600,000 โดสของซิโนแวกที่จีนบริจาคให้ในเดือนนี้ โดยจะนำไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล นายแฮร์รี่ โร้ก โฆษกของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า ฟิลิปปินส์จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวกที่จีนบริจาคให้ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้อย่างแน่นอน แต่จะยังไม่นำมาใช้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอของฟิลิปปินส์ ขณะนี้ เอฟดีเอได้อนุมัติใช้วัคซีน 2 ขนานเป็นกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ วัคซีนของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์/ไบออนเทค เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการจะนำวัคซีนของซิโนแวก 100,000 โดสไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทหาร และอีก 500,000 โดสไปฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ฟิลิปปินส์ตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้างโดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 117,000 โดสที่ได้รับบริจาคผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก และคาดว่าจะได้รับวัคซีนดังกล่าวในเดือนนี้ ฟิลิปปินส์ยังได้เจรจาในข้อตกลงซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตวัคซีนอีกหลายแห่ง เช่น โมเดอร์นา สถาบันกามาเลยา แจสเซน ไฟเซอร์ แอสตราเซเนกา ซิโนแวก และโนวาแวกซ์ เพื่อให้ได้วัคซีนราว 148 ล้านโดส โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 2 และ […]