เคียฟ 20 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า หากยูเครนได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีเทียบเท่ากับรัสเซีย ก็สามารถจบสงครามในครั้งนี้ได้ ขณะที่ทางการยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัสเซียในการเปิดระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridor) เพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัย ออกจากเมืองมารีอูปอลในวันนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยผ่านคลิปวิดีโอว่า เขาได้พูดคุยและเจรจากับผู้นำประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมที่ยูเครนยังคงต้องออกมาร้องขอให้ชาติพันธมิตรช่วยส่งอาวุธที่เก็บไว้นานแรมปีให้แก่ยูเครน หากประเทศต่าง ๆ มีอาวุธและกระสุนที่ยูเครนจำเป็นต้องใช้ ก็ควรส่งมาให้ยูเครนเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพและรักษาชีวิตของประชาชนยูเครน ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเมืองคาร์คิฟในภูมิภาคดอนบาส และภูมิภาคดนิโปรเปตรอฟสก์ ทางตะวันออกของยูเครน อย่างหนักหน่วงมากขึ้น รวมถึงการตั้งเป้าโจมตีอาคารที่พักอาศัยของพลเรือนด้วย ขณะที่อิรินา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัสเซียในการเปิดระเบียงมนุษยธรรมเพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัย ออกจากเมืองมารีอูปอลในวันนี้ ทางการจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการอพยพประชาชนออกจากเมืองมารีอูปอลที่เผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรม ด้านนายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอลที่ออกจากเมืองไปแล้ว กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนว่า ยูเครนจะส่งรถโดยสาร 90 คันไปยังเมืองมารีอูปอลในวันนี้เพื่ออพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงวัยราว 6,000 คน โดยคาดว่ายังมีพลเรือนอีกราว 100,000 คนที่ติดอยู่ในเมืองดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย