ชี้จีน-สหรัฐ ควรเปิดเสรีการเดินทางหลังมีภูมิคุ้มกันหมู่
ปักกิ่ง 2 มี.ค. – นักระบาดวิทยาของจีนชี้ว่า จีนและสหรัฐควรยกเลิกมาตรการระงับการเดินทางระหว่างกันทั้งหมด หากสหรัฐประสบความสำเร็จในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยการฉีดวัคซีนได้ร้อยละ 90 ของประชากร ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ อู่ ซุนหยู หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีนกล่าวในงานเสวนารูปแบบออนไลน์ที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชิงหวาของจีนและสถาบันบรูกกิงส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองของสหรัฐว่า สหรัฐอาจสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประชาชนร้อยละ 90 จากทั้งหมดได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากเป็นเช่นนั้น สหรัฐและจีนอาจยกเลิกมาตรการกีดกันทางการเมืองทั้งหมด และหันมาพึ่งหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สหรัฐและจีนกลายเป็นสองประเทศแรกในโลกที่ยกเลิกมาตรการระงับการเดินทางระหว่างกัน และเปิดการเดินทางได้โดยเสรี เขายังระบุเพิ่มเติมว่า ตอนนี้จีนเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกในแง่การระบาดของโรคโควิด-19 และยังคาดว่าสหรัฐจะมีอัตราฉีดวัคซีนสูงกว่าร้อยละ 80 ภายในเดือนมิถุนายนนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงที่สุดในโลก โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 30 ล้านคน และผู้เสียชีวิตราว 514,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก แม้ว่าในขณะนี้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐมีแนวโน้มลดลงแล้วก็ตาม ทั้งนี้ สหรัฐฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่ประชาชนไปแล้วร้อยละ 15 จากประชากรทั้งหมด 382 ล้านคนจากข้อมูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่จีนฉีดวัคซีนไปแล้ว 40.5 ล้านโดสจากประชากรทั้งหมดราว 1,400 ล้านคนจากข้อมูลเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย