ฟูมิโอะ คิชิดะ

วอชิงตัน 13 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตันในระหว่างที่ผู้นำญี่ปุ่นเดินทางเยือนสหรัฐในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้เดินทางถึงสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายของภารกิจเยือน 5 ประเทศสมาชิกของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประธานในปีนี้และมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 7 ที่จังหวัดฮิโรชิมะในเดือนพฤษภาคมนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะกับประธานาธิบดีไบเดนจะเปิดการหารือระดับทวิภาคีร่วมกันเพื่อกระชับความสามัคคีของกลุ่มจี 7 ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เช่น รัสเซียบุกโจมตียูเครน วิกฤตอาหารและพลังงาน เอ็นเอชเคยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีคิชิดะจะอธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ของญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม เช่น การเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้และการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมจำนวนมาก ผู้นำญี่ปุ่นยังต้องการแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ตรงกันของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านความมั่นคง ความพร้อมด้านการป้องปราม และขีดความสามารถในการตอบสนองต่อความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงระดับทวิภาคี นอกจากนี้ คาดว่าผู้นำของทั้งสองประเทศจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น เซมิคอนดักเตอร์ คอมพิวเตอร์เชิงควอนตัม และเทคโนโลยีชีวภาพ.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 4 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เตรียมต้อนรับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ที่มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐในวันที่ 13 ม.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทำเนียบขาวของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีไบเดนเตรียมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีคิชิดะที่มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐในวันศุกร์ที่ 13 ม.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทั้งยังระบุว่า ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นจะหารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกาหลีเหนือ จีน และการโจมตียูเครนของรัสเซีย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนจะให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในฐานะประธานกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ในปีนี้ และการดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของญี่ปุ่นในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ต่อไป ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้เตือนประธานาธิบดีไบเดนเมื่อปีก่อนว่า การที่จีนต้องการยึดเกาะไต้หวันเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจีนอาจทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งครั้งใหม่ ซึ่งอาจทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเผชิญกับสถานการณ์ขัดแย้งเช่นเดียวกับยูเครน นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ประกาศยกเครื่องนโยบายด้านกลาโหมครั้งใหญ่ในเดือนธันวาคม ซึ่งรวมถึงการเพิ่มงประมาณด้านความมั่นคงและการทหาร เพื่อรับมือกับอิทธิพลของจีนอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

โตเกียว 27 ธ.ค. – นายเคนยะ อากิบะ รัฐมนตรีกำกับดูแลด้านการบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ฝั่งตะวันออกที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ ซึ่งถือเป็นรัฐมนตรีคนที่ 4 ที่ลาออกจากตำแหน่งนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น จัดตั้งคณะรัฐบาลในเดือนสิงหาคม การยื่นหนังสือลาออกของนายอากิบะมีขึ้นหลังจากที่มีรัฐมนตรี 3 คนลาออกไปก่อนหน้า เนื่องจากมีส่วนพัวพันกับเรื่องอื้อฉาว การระดมทุน และความสัมพันธ์กับโบสถ์แห่งความสามัคคี พรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ถูกเปิดโปงว่ามีความสัมพันธ์แนบแน่นกับโบสถ์แห่งนี้ ที่มารดาของผู้ลอบยิงสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เป็นสาวก จนทำให้ผลสำรวจคะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีคิชิดะตกต่ำลงอย่างมาก นายกรัฐมนตรีคิชิดะเผยหลังยืนยันเรื่องการลาออกของนายอากิบะว่า เขาขอน้อมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากเป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเหล่านี้เอง และยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปฏิบัติงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ได้อย่างสำเร็จลุล่วง ทั้งยังระบุว่า เขาได้แต่งตั้งนายฮิโรมิจิ วาตานาเบะ อดีตรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านการบูรณะฟื้นฟูฯ กลับมาดำรงตำแหน่งเดิมแทนนายอากิบะ ก่อนหน้านี้ พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นได้กล่าวหานายอากิบะว่ามีความเชื่อมโยงกับการละเมิดกฎหมายเลือกตั้งและมีความสัมพันธ์โบสถ์แห่งความสามัคคี อย่างไรก็ดี นายอากิบะได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวหลังยื่นหนังสือลาออกที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า เขาไม่เคยละเมิดกฎหมายของญี่ปุ่นแม้แต่เพียงข้อเดียว. -สำนักข่าวไทย

โตเกียว 27 ธ.ค. – ญี่ปุ่นจะออกข้อกำหนดให้ชาวจีนที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็วในจีน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะออกข้อกำหนดให้ชาวจีนที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ หากผู้ใดมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวก จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นเวลา 7 วัน โดยจะเริ่มใช้แนวทางนี้กับชาวจีนตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้จำกัดคำร้องขอเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของสายการบินต่าง ๆ ไปยังจีนอีกด้วย กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 77,256 คนรอบวันอาทิตย์ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 217 คน ขณะที่กรุงโตเกียวพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 8,428 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 481 คน และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 21 ติดต่อกัน ทั้งยังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ในนครหลวงเพิ่มขึ้น 18 คน ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28.3 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 55,500 คน. -สำนักข่าวไทย

นิวยอร์ก 21 ก.ย. – ผู้นำจากทั่วโลกที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ กล่าวประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ในขณะที่ผู้นำที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนประกาศเตรียมทำประชามติเพื่อเข้าร่วมกับรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นายดมิทโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่จัดประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในครั้งนี้ที่คาดว่าจะมีวาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นสงครามยูเครน เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ทั้งยังระบุผ่านทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาว่า ยูเครนมีสิทธิในการปลดแอกดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครอง และจะทำเช่นนั้นต่อไปโดยไม่สนใจคำพูดของรัสเซีย นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะล้มเลิกแผนทะเยอทะยานแบบผู้นำจักรวรรดิที่เสี่ยงต่อการทำลายทั้งยูเครนและรัสเซีย ก็ต่อเมื่อเขายอมรับว่าไม่สามารถชนะสงครามครั้งนี้ได้เท่านั้น นี่คือสาเหตุว่าทำไมจึงไม่มีใครยอมรับข้อตกลงสันติภาพของรัสเซีย และเป็นเหตุผลว่าทำไมยูเครนถึงต้องมีสิทธิที่จะป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย ส่วนนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมว่า ความน่าเชื่อถือของยูเอ็นกำลังตกอยู่ในระดับอันตราย เนื่องจากการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี และจำเป็นต้องปฏิรูปหน่วยงานดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ผู้นำที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซียในดินแดนที่รัสเซียยึดจากยูเครนได้ประกาศทำประชามติในแคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ในวันที่ 23-27 กันยายน ซึ่งนับเป็นพื้นที่ร้อยละ 15 จากพื้นที่ทั้งหมดของยูเครน โดยมีขนาดเทียบเท่ากับพื้นที่ของประเทศฮังการี.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 8 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น กล่าวน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เขาไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ต้องการจัดรัฐพิธีศพอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นให้มากพอ ขณะที่ไต้หวันระบุว่าจะส่งตัวแทนไปร่วมรัฐพิธีศพในวันที่ 27 กันยายน นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวต่อบรรดาสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นในประเด็นที่รัฐบาลญี่ปุ่นทุ่มงบจัดงานรัฐพิธีศพอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะจนทำให้เกิดกระแสต่อต้านเป็นวงกว้างว่า เขาขอน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องที่เขาไม่ได้อธิบายเหตุผลเกี่ยวกับการจัดรัฐพิธีศพให้มากพอ แต่แย้งว่าการตัดสินใจจัดรัฐพิธีศพไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้คะแนนนิยมในตัวเขาร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะนำเงินภาษีประชาชนไปจัดงานรัฐพิธีศพอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ เนื่องจากสาเหตุที่อดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะถูกสังหารเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กับลัทธิโบสถ์แห่งความสามัคคี ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรครัฐบาลญี่ปุ่นเผยวันนี้ว่า ผลการสืบสวนพบว่ามี ส.ส. 179 คนจากทั้งหมด 379 คนของพรรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความสามัคคี ในจำนวนนี้ มี ส.ส. 17 คนที่รับความช่วยเหลือในการเลือกตั้งจากลัทธิดังกล่าว ในขณะเดียวกัน โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน ระบุว่า ไต้หวันได้รับแจ้งเรื่องการจัดรัฐพิธีศพอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะจากรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว ไต้หวันกำลังพิจารณาส่งตัวแทนไปเข้าร่วมงานดังกล่าวโดยประสานงานกับรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง ขณะที่ญี่ปุ่นยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการส่งคำเชิญตัวแทนไต้หวันเข้าร่วมรัฐพิธีศพ ส่วนจีนยังไม่ได้ยืนยันว่าจะส่งตัวแทนคนใด หรือไม่เข้าร่วมงานดังกล่าว แต่โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า ญี่ปุ่นไม่ควรเปิดโอกาสให้ไต้หวันเล่นเกมการเมือง ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ จะเดินทางไปเข้าร่วมรัฐพิธีศพอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ซึ่งทำให้ตัวแทนของไต้หวันมีโอกาสพบปะกับเธอภายในงานดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 23 พ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นในวันนี้ว่า สหรัฐจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในด้านการปกป้องประเทศของญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับจีนและการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในช่วงเริ่มต้นหารือกับนายกรัฐมนตรีคิชิดะที่พระราชวังอากาซากะ ซึ่งเป็นสถานที่รับรองอาคันตุกะรัฐบาลในกรุงโตเกียวว่า ความเป็นพันธมิตรของสหรัฐกับญี่ปุ่นคือรากฐานแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สหรัฐจะยังคงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในด้านการปกป้องประเทศของญี่ปุ่น ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงว่า ก่อนหน้าที่จะพบกับผู้นำญี่ปุ่น ประธานาธิบดีไบเดนได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะของญี่ปุ่นเป็นเวลาสั้น ๆ ที่หน้าทางเข้าพระราชวังอากาซากะ และถวายพระพรในนามประชาชนชาวอเมริกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในระดับบุคคลของทั้งสองประเทศ สำนักข่าวรอยเตอร์สคาดการณ์ว่า สหรัฐกับญี่ปุ่นจะหารือเกี่ยวกับแผนขยายขีดความสามารถทางทหารของญี่ปุ่นเพื่อรับมือกับจีนที่ขยายอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ ย้ำจุดยืนร่วมกันต่อเรื่องรัสเซียบุกโจมตียูเครนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งจะหารือประเด็นเกาหลีเหนือและประเด็นอื่น ๆ ในระดับภูมิภาค หลังจากนั้นประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางไปพบกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปฝึกเป็นสายลับในเกาหลีเหนือเมื่อหลายปีก่อน จุดสนใจของการเยือนญี่ปุ่นในวันนี้จะอยู่ที่เรื่องประธานาธิบดีไบเดนเตรียมเปิดตัวกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความเจริญรุ่งเรือง (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity) ซึ่งเป็นโครงการที่จะเชื่อมโยงมาตรฐานทำงานร่วมกันของหลายประเทศในด้านต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน พลังงานสะอาด ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการค้าทางดิจิทัล ประธานาธิบดีไบเดนมีกำหนดเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วัน และจะมีการจัดประชุมระหว่างประเทศสมาชิกในกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคง 4 ฝ่าย หรือควอด ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น อินเดีย […]