ติ๊กต๊อก

หุ้นของเมตา (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม ร่วงกว่าร้อยละ 20 เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังเมตาประกาศว่ามียอดผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายวันต่ำกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวของแอปเปิลและแพลตฟอร์มคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่างติ๊กต๊อก (TikTok)

วอชิงตัน 14 ก.ค. – เฟซบุ๊ก อิงค์ จะจัดสรรเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,600 ล้านบาท) ให้แก่ผู้ผลิตเนื้อหาบนสื่อโซเชียลมีเดีย หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไปจนถึงสิ้นปีหน้า ถือเป็นการเปิดศึกแย่งชิงผู้สร้างสรรค์เนื้อหาที่มีฝีมือมาจากติ๊กต๊อก แอปพลิเคชั่นวิดีโอสั้นยอดนิยมของจีน ที่เพิ่งประกาศฉลองยอดดาวน์โหลดมากถึง 3,000 ล้านครั้ง เฟซบุ๊ก อิงค์ ระบุว่า บริษัทจะเพิ่มการลงทุนที่รวมถึงโปรแกรมโบนัสที่จ่ายให้แก่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่บรรลุเป้าหมายสำคัญบางรายการที่กำหนดไว้บนแอปพลิเคชั่น โดยจะใช้นโยบายนี้ในอินสตราแกรมด้วย และจะมอบทุนให้ผู้ใช้งานเพื่อนำไปพัฒนาเนื้อหา เฟซบุ๊กจะมอบโบนัสดังกล่าวให้ผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น ขณะที่นักเล่นเกมออนไลน์และผู้สร้างสรรค์วิดีโอบนแพลตฟอร์มหลักของเฟซบุ๊กจะได้รับโบนัสรายเดือนหากพวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญ เช่น การโพสต์วิดีโอถ่ายทอดสดครบตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนดเพื่อรับดาวที่ผู้ชมส่งให้เพื่อแสดงถึงความใส่ใจในขณะรับชมการถ่ายทอดสด ส่วนโบนัสบนอินสตราแกรมจะใช้งานผ่านระบบรีลส์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์แบ่งปันวิดีโอสั้นคล้ายติ๊กต๊อก และคอนเทนต์ครีเอเตอร์จะได้รับเงินโดยขึ้นอยู่กับผลงานของวิดีโอ นโยบายดังกล่าวของเฟซบุ๊กถือเป็นการทุ่มเม็ดเงินเพื่อดึงดูดคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่มีแฟนตัวยงมาจากแพลตฟอร์มยูทูบของอัลฟาเบท อิงค์ และแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อกของจีน ก่อนหน้านี้ ติ๊กต๊อกเพิ่งประกาศจัดสรรเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 65,200 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนคอนเทนครีเอเตอร์เป็นเวลา 3 ปี ขณะที่สแนปแชต แอปพลิเคชั่นวิดีโอแชตชื่อดังของสหรัฐเคยจ่ายเงินให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ทั้งหมดวันละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32.6 ล้านบาท) เพื่อให้โพสต์วิดีโอสั้นยอดนิยมบนแพลตฟอร์มของตน และระบุว่ายังคงใช้เงินเดือนละหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ผ่านฟีเจอร์ […]

นายจาง อี้หมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทไบต์แดนซ์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นเจ้าของติ๊กต๊อก (Tik Tok) แอปพลิเคชันทำคลิปสั้นของจีนแจ้งแก่พนักงานในบริษัทว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ โดยที่นายเหลียง ยูโป หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ จะขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าวแทน

ปักกิ่ง 27 ม.ค. – จีนระบุว่าการที่รัฐบาลอินเดียตัดสินใจใช้คำสั่งแบน 59 แอปพลิเคชันของจีนที่รวมถึงติ๊กต๊อก แอปทำคลิปสั้นของจีนต่อไปนั้นเข้าข่ายละเมิดกฎเกณฑ์ด้านความเป็นธรรมทางธุรกิจขององค์การการค้าโลก และทำให้บริษัทของจีนได้รับความเสียหาย โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำอินเดียออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนจะยืนกรานคัดค้านการกระทำของรัฐบาลอินเดียที่มักนำประเด็นความมั่นคงแห่งชาติมาใช้เป็นข้ออ้างในการสั่งแบนแอปพลิเคชันของจีนบนโทรศัพท์มือถือ และรัฐบาลอินเดียควรเร่งแก้ไขการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าต่าง ๆ ในทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความเสียหายต่อความร่วมมือทวิภาคี เมื่อวานนี้ รัฐบาลอินเดียประกาศคำสั่งแบนแอปพลิเคชันของจีนครั้งใหม่ ซึ่งถือเป็นรอบที่ 4 นับตั้งแต่เกิดปัญหาข้อพิพาทในพื้นที่เส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริง (Line of Actual Control) ในเขตลาดักห์ทางตอนเหนือของอินเดียที่มีพรมแดนติดกับจีนในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ทำให้มีจำนวนแอปพลิเคชันจีนที่ถูกแบนไปแล้วทั้งสิ้น 267 แอปพลิเคชัน ทั้งนี้ จีนและอินเดียได้สั่งการให้กองทัพทหารตรึงกำลังตามแนวพรมแดนที่ตกเป็นกรณีพิพาทมาเป็นเวลา 7 เดือนแล้ว ขณะที่การเจรจาทางทหารของทั้งสองประเทศประสบความล้มเหลวในการถอนกำลังทหารและลดระดับความรุนแรงในจุดที่เป็นพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดนหลายแห่ง.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 19 ก.ย.- จีนประณามสหรัฐที่สั่งห้ามดาวน์โหลดติ๊กต๊อก แอปพลิเคชันทำคลิปสั้น และห้ามใช้วีแชท แอปอเนกประสงค์ที่ได้ชื่อว่าซูเปอร์แอปด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงวันนี้ประณามการกระทำของสหรัฐว่า เป็นการข่มเหงรังแกที่ละเมิดบรรทัดฐานการค้าสากล โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาเรื่องภัยความมั่นคง หากสหรัฐยืนกรานจะทำเช่นนี้ต่อไป จีนจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของธุรกิจจีนอย่างแน่วแน่ แต่ไม่ได้ระบุในรายละเอียด ขณะเดียวกันมีเสียงวิจารณ์ในสหรัฐว่า คำสั่งห้ามแบบครอบคลุมทั้งที่ยังไม่เห็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงอย่างชัดเจน เป็นการจำกัดสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรีของชาวอเมริกันและผู้พำนักอาศัยในสหรัฐ นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐแถลงเมื่อวานนี้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แสดงออกถึงวิธีการและแรงจูงใจที่จะใช้แอปเหล่านี้คุกคามความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายต่างประเทศ และเศรษฐกิจของสหรัฐ จึงมีคำสั่งห้ามใช้วีแชทในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ และห้ามดาวน์โหลดการอัปเดตติ๊กต๊อกโดยจะให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน เพื่อเปิดทางให้ไบแดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต๊อกทำข้อตกลงกับธุรกิจอเมริกันเรื่องปกป้องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ในสหรัฐตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กังวลว่าจะถูกทางการจีนสอดแนม การห้ามใช้วีแชทจะกระทบชาวจีนในสหรัฐที่ใช้แอปนี้ติดต่อกับคนที่บ้าน แต่ไม่กระทบบริการในจีนที่ครอบคลุมหลากหลายทั้งการสนทนา ซื้อของ ชำระเงิน และอื่น ๆ ขณะที่ติ๊กต๊อกมีผู้ใช้งานในสหรัฐประมาณ 100 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

ไบแดนซ์ บริษัทเทคโนโลยีจีนเผยว่า โต่วอิน (抖音) หรือติ๊กต๊อกที่ใช้เฉพาะในจีนมีผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอวันละ 600 ล้านรายเมื่อเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นถึงครึ่งหนึ่งจากเมื่อต้นปี

ปักกิ่ง 14 ก.ย.- สื่อทางการจีนรายงานว่า ไบแดนซ์ของจีนจะไม่ขายกิจการติ๊กต๊อก แอปพลิเคชันทำคลิปสั้นในสหรัฐให้ทั้งไมโครซอฟท์และออราเคิล หลังจากไมโครซอฟท์เผยว่าถูกปัดข้อเสนอซื้อ และสื่อสหรัฐรายงานว่าออราเคิลได้รับความไว้ใจจากไบแดนซ์ เว็บไซต์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ซึ่งเป็นสื่อภาษาอังกฤษของทางการจีนรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ไบแดนซ์จะไม่ขายติ๊กต๊อกให้แก่สองบริษัทนี้ และจะไม่ให้รหัสต้นฉบับหรือซอร์สโค้ดแก่ผู้ซื้อในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใดก็ตาม สื่อจีนรายงานดังกล่าวหลังจากไมโครซอฟท์ บริษัทซอฟต์แวร์ใหญ่ของสหรัฐเผยเมื่อวานนี้ว่า ไบแดนซ์ได้แจ้งให้ทราบว่าจะไม่ขายกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐให้แก่ไมโครซอฟท์ แม้บริษัทมั่นใจว่า ข้อเสนอซื้อนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในสหรัฐ และปกป้องผลประโยชน์ประเทศในเวลาเดียวกันก็ตาม ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอรัลรายงานอ้างแหล่งข่าวในวันเดียวกันว่า ออราเคิล บริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สหรัฐที่เป็นผู้เสนอซื้ออีกราย มีโอกาสเหนือกว่าในการเจรจาที่เข้มข้นในช่วงหลายวันมานี้ และน่าจะได้รับเลือกให้เป็นหุ้นส่วนเทคโนโลยีที่ไว้ใจได้สำหรับกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 1 ส.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยว่า จะห้ามใช้ TikTok แอปพลิเคชันทำคลิปสั้นยอดนิยมของจีนในสหรัฐ ตามที่ทางการกังวลว่าแอปนี้อาจตกเป็นเครื่องมือของหน่วยข่าวกรองจีน ประธานาธิบดีทรัมป์เผยกับสื่อบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ตามที่มีความกังวลเรื่อง TikTok เขาจะห้ามใช้แอปนี้ในสหรัฐ โดยจะดำเนินการทันทีในวันเสาร์ด้วยการใช้อำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินหรือคำสั่งบริหาร ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันมีข่าวสะพัดว่า ทรัมป์จะขอให้บริษัทในสหรัฐที่ให้บริการติ๊กต๊อกแยกตัวจากไบแดนซ์ที่เป็นบริษัทแม่ในจีน นายเควิน เอ ไมเออร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของ TikTok และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหรือซีโอโอ (COO) ของไบแดนซ์ โพสต์เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า TikTok ไม่ใช่บริษัทการเมือง ไม่เคยรับโฆษณาทางการเมือง และไม่มีวาระซ่อนเร้น วัตถุประสงค์เดียวของบริษัทคือเป็นแพลตฟอร์มให้ทุกคนได้สนุกสนาน บริษัทตกเป็นเป้าหมายล่าที่สุด แต่ขอยืนยันว่าบริษัทไม่ใช่ศัตรู TikTok เปิดตัวเมื่อปี 2559 แต่ได้รับความนิยมหลังจากควบรวมกิจการกับ Musical.ly แอปของสหรัฐในปี 2561 ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาเชื่อว่า การใช้แอปนี้มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงแทบเป็นศูนย์ แต่ไบแดนซ์ที่เป็นบริษัทแม่อาจถูกทางการจีนกดดันให้เซ็นเซอร์เนื้อหาได้.-สำนักข่าวไทย