fbpx

ครอบครัวจอร์จ ฟลอยด์เรียกร้องปฏิรูปตำรวจ

ครอบครัวของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำชาวเมืองมินนีแอโปลิสเข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดนและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ เรียกร้องให้เร่งปฏิรูปตำรวจ ในวันครบรอบ 1 ปีที่เขาเสียชีวิตหลังจากถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอ

“ไบเดน” เรียกร้องให้รัฐสภาผ่านกฎหมายปฏิรูปตำรวจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเรียกร้องให้รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจในนามของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตหลังถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอ ก่อนถึงวันครบรอบการเสียชีวิต 1 ปีในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

ศาลตัดสินคดี “จอร์จ ฟลอยด์” เอาผิดตำรวจฆาตกรรม 3 กระทง

ศาลตัดสินคดีฆาตกรรมนายจอร์จ ฟลอยด์ เมื่อปีที่แล้ว ที่ทำให้เกิดกระแสต้านการเหยียดผิวไปทั่วโลก ให้นายตำรวจผู้ก่อเหตุมีความผิดฆาตกรรมทั้ง 3 กระทง

ศาลตัดสินอดีตตำรวจผิวขาวมีความผิดคดี “จอร์จ ฟลอยด์”

มินนีแอโพลิส 21 เม.ย. – นายเดเร็ค เชาวิน อดีตตำรวจผิวขาวของเมืองมินนีแอโพลิสในสหรัฐ ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน หลังการพิจารณาคดีดังกล่าวถือเป็นบททดสอบความรับผิดชอบครั้งใหญ่ของตำรวจในสหรัฐ คณะตุลาการใช้เวลาพิจารณาคดีไม่ถึง 11 ชั่วโมง ก่อนตัดสินให้นายเชาวิน วัย 45 ปี มีความผิดตามข้อหาทั้งหมด 3 กระทง ได้แก่ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยประมาท ขณะที่กลุ่มคนที่มารวมตัวกันอยู่ด้านนอกห้องพิจารณาคดีของเมืองมินนีแอโพลิส ซึ่งได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ต่างส่งเสียงยินดีและร่ำไห้ด้วยความโล่งใจ เมื่อศาลประกาศคำพิพากษาหลังใช้เวลาไต่สวนคดีถึง 3 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ใส่กุญแจมือนายเชาวิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการประกันตัวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หลังผู้พิพากษาของเฮนเนพินเคาน์ตีในเมืองมินนีแอโพลิสอ่านคำตัดสินที่เป็นเอกฉันท์ของคณะลูกขุนที่เป็นชาย 5 คน หญิง 7 คน และมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเชาวินออกจากห้องพิจารณาคดีในทันที โดยที่เขาสวมหน้ากากอนามัยและไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ขณะที่นายฟิโลนิส ฟลอยด์ น้องชายของนายจอร์จ ฟลอยด์ เข้าไปสวมกอดอัยการ ทั้งนี้ นายเชาวินต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปีจากข้อหารุนแรงที่สุดคือ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ซึ่งจะมีกำหนดบทลงโทษจะมีขึ้นในภายหลัง […]

ทรัมป์ ปลดฟ้าผ่า รมต.กลาโหม

วอชิงตัน 10 พ.ย.- ผู้นำสหรัฐปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ขัดแย้งกันมานานเรื่องนโยบาย ส่งสัญญาณว่าจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในการดำรงตำแหน่งหาทางเรียกคะแนนหลังพ่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตว่า ได้ปลดนาย มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากตำแหน่งแล้ว และผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ นายคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ ทั้งนี้โดยให้มีผลในทันที ขณะที่วุฒิสภามีแนวโน้มว่าจะยังไม่รับรองการเสนอชื่อ จนกว่าทรัมป์จะหมดวาระในเดือนมกราคม ที่ผ่านมาทรัมป์ มีความเห็นขัดแย้งกับเอสเปอร์ในหลายประเด็น และไม่พอใจอย่างยิ่งที่เอสเปอร์คัดค้าน ที่ทรัมป์ขู่จะใช้ทหารประจำการ เข้าปราบปรามการประท้วงต่อต้านความอยุติธรรมทางเชื้อชาติ จากกรณี จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจ ในมินนิแอโพลิสเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ขอสงวนชื่อเผยว่า หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้แจ้งให้เอสเปอร์ทราบล่วงหน้าไม่กี่นาทีเรื่องทรัมป์จะทวีตปลดเขาออกจากตำแหน่ง ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เอสเปอร์รู้ตัวดี และได้เตรียมลาออก หรือเตรียมรับการถูกปลดมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทรัมป์ได้รับเลือกกลับมาเป็นสมัยที่สอง ทั้งนี้โดยทรัมป์ยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขาแพ้การเลือกตั้งให้กับ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย

...