ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 47 จังหวัด เข้มจับรถควันดำ
กรุงเทพฯ 7 มี.ค. – กรมควบคุมมลพิษ เผยผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 พบเกินมาตรฐาน 47 จังหวัดอธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุเข้มตรวจจับรถควันดำ ย้ำตรวจจับ-ปรับจริง-ห้ามใช้รถควันดำ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยผลการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2566 ณ 07:00 น. พบเกินค่ามาตรฐานใน 47 จังหวัด ได้แก่ จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ ส่วนผลตรวจวัดตามรายภาคมีดังนี้ – ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 61 – 133 มคก./ลบ.ม. – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 45 -76 มคก./ลบ.ม. – ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 44 – 84 มคก./ลบ.ม. – ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 52 – 73 มคก./ลบ.ม. – ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 17 – 32 มคก./ลบ.ม. – กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 54 – 108 มคก./ลบ.ม. กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียงรายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์วันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 66 เป็นต้นไปสถานการณ์มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่บริเวณ 17 จังหวัดภาคเหนือยังคงมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงในพื้นที่ภาคเหนือทั้งตอนบนและล่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 14 มี.ค. 66 นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า การสะสมของฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล รวมทั้งเมืองหลักในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน มียานยนต์เป็นแหล่งกำเนิดที่สำคัญ โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซล ซึ่งตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 ได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะ โดยภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดทำโครงการ และมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันและลดฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะ เช่นโครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” สนับสนุนส่วนลดสำหรับค่าบำรุงรักษาและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อลดควันดำ และมีมาตรการตรวจรถควันดำ ได้เพิ่มจุดตรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตรวจจับ ระงับการใช้รถควันดำจนกว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องปรามมิให้มีรถควันดำเข้ามาในเขตเมือง เป็นต้น สำหรับตรวจรถควันดำตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 คพ. ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำแบ่งเป็นพื้นที่ กทม. ตรวจสอบสะสม 109,696 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐานสะสม 23,707 คัน ห้ามใช้สะสม 1,503 คันและพื้นที่ต่างจังหวัด ตรวจสอบสะสม 55,635 คัน พบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐาน 1,367 คัน ห้ามใช้สะสม 1,367 คัน จากสถิติในภาพรวมพบรถยนต์ควันดำเกินค่ามาตรฐานมีจำนวนประมาณ 15% จากรถยนต์ที่เรียกตรวจ รัฐจะเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการตรวจจับควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” บังคับใช้บทลงโทษสูงสุด ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำทุกประเภท ครอบคลุมถนนสายหลัก สายรอง ทั้งขาเข้า – ออก ทั้งนี้ประชาชนสามารถนำรถยนต์เข้ารับบริการได้ที่โครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถยนต์ จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย TOYOTA ISUZU MITSUBISHI NISSAN MAZDA FORD HONDA SUZUKI และ HINO ซึ่งมีจำนวน 1,774 ศูนย์บริการฯ รองรับรถยนต์เข้าร่วมโครงการฯ 426,000 คันสนับสนุนส่วนลดสำหรับค่าบำรุงรักษาและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อลดควันดำ.-สำนักข่าวไทย