ชายเกาหลีใต้ขับรถพุ่งชนร้านค้าเหตุไม่ได้ถุงพลาสติก

โซล 17 ม.ค. – ชายชาวเกาหลีใต้ขับรถยนต์พุ่งชนร้านขายของชำแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางใต้ของเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าของร้านไม่ให้ถุงพลาสติกหลังซื้อของในร้าน ตำรวจเกาหลีใต้เผยเมื่อวันจันทร์ว่า ชายชาวเกาหลีใต้ไม่เผยนามคนหนึ่งถูกตำรวจจับกุมตัวในที่เมืองกอเจในจังหวัดคยองซัง ทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ในข้อหาทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นและก่ออาชญากรรมเพื่อแก้แค้น หลังชายคนดังกล่าวขับรถยนต์พุ่งชนร้านขายของชำแห่งหนึ่งเมื่อเวลา 22.30 น. เมื่อวันเสาร์ จนทำให้สินค้าในร้านเสียหาย ก่อนที่ชายคนนี้จะลงจากรถและเข้าไปทำร้ายร่างกายเจ้าของร้าน โดยที่ชายผู้ก่อเหตุอยู่ในสภาพมึนเมา แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ยังระบุว่า ช่วงเกิดเหตุ ชายคนนี้ได้เข้าไปซื้อไอศกรีมในร้านสะดวกซื้อดังกล่าวและขอถุงพลาสติก แต่เจ้าของร้านไม่ให้ถุงพลาสติก เนื่องจากต้องปฏิบัติตามคำสั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกในร้านค้าตามประกาศของกระทรวงสิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ จนทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจจนตัดสินใจขับรถยนต์พุ่งชนร้านและใช้กำลังทำร้ายเจ้าของร้านในที่สุด ทั้งนี้ ครอบครัวของเจ้าของร้านขายของชำได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ และปฏิเสธคำร้องของชายคนดังกล่าวที่ต้องการเจรจาไกล่เกลี่ย เนื่องจากต้องการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด ก่อนหน้านี้ ชายคนนี้เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านขายของชำมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

เด็กชายจีนขับรถยนต์พาน้องสาวซิ่ง 120 กม./ชม.

ปักกิ่ง 22 ก.ค. – เด็กชายจีน วัย 12 ปี ตัดสินใจขโมยรถยนต์พ่อ และขับรถพาน้องสาวนั่งรถเล่น เนื่องจากทั้งสองรู้สึกเบื่อ ก่อนตำรวจพบตัวเด็กทั้งคู่ที่อีกมณฑลหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปถึง 200 กิโลเมตร โดยมีช่วงหนึ่งที่เด็กชายขับรถด้วยความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เว็บไซต์ข่าวเดอะเปเปอร์ (The Paper) ของจีน รายงานว่า เด็กชายชาวเมืองหูโจวในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ใช้น้องสาวให้ไปขโมยกุญแจรถยนต์เอสยูวีในขณะที่พ่อแม่ของทั้งสองคนออกไปทำงานเมื่อวันจันทร์ โดยที่เด็กชายขับรถพาน้องสาวออกจากบ้านเมื่อเวลา 10.00 น. จากนั้น พ่อของเด็กกลับถึงบ้านในเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกัน แต่พบว่าลูก ๆ และรถยนต์หายไปจากบ้าน เขาจึงรีบโทรแจ้งตำรวจเพื่อรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจของมณฑลเจ้อเจียงได้ออกตามหารถยนต์คันดังกล่าวจนพบตัวเด็กชายและน้องสาวที่มณฑลเจียงซู ซึ่งอยู่ห่างจากมณฑลเจ้อเจียงราว 200 กิโลเมตร เด็กชายรับสารภาพกับตำรวจว่า เขาเริ่มรู้สึกกลัวหลังขับรถไปได้ระยะหนึ่งจนต้องเลี้ยวรถออกจากถนนทางหลวงและหยุดจอดรถที่ลานจอดรถใกล้โรงเรียนแห่งหนึ่งก่อนตำรวจพบตัวเขากับน้องสาวในเวลาต่อมา ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า เด็กชายขับรถคันดังกล่าวบนทางหลวงในมณฑลเจ้อเจียงด้วยความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอีกคลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เด็กชายขับรถเลี้ยวปาดหน้ารถยนต์อีกคัน จนทำให้ผู้ขับรถคันนั้นต้องหักหลบกะทันหัน เด็กชายคนดังกล่าวยังระบุว่า เขาใช้น้องสาวไปขโมยกุญแจรถยนต์ของพ่อ และขับรถโดยใช้ประสบการณ์จากการสังเกตเวลาพ่อขับรถ รวมถึงการเล่นเกมขับรถยนต์ […]

แม่ชาวอังกฤษขับรถพาลูกไปฉีดวัคซีนโควิดที่อิตาลี

ลอนดอน 5 ม.ค. – คุณแม่ชาวอังกฤษลงทุนขับรถพาลูกสาว วัย 9 ปี จากอังกฤษไปอิตาลีเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางยาวนานกว่าสิบชั่วโมงและมีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ อังกฤษยังคงไม่อนุมัติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ยกเว้นเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง ทำให้นางอลิซ โคลัมโบ คุณแม่ชาวอังกฤษ ต้องลงทุนขับรถยนต์จากเมืองเคนต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ไปยังนครมิลานของอิตาลี เพื่อให้ลูกสาว ซึ่งมีสัญชาติอิตาเลียน ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด โดยที่อิตาลีอนุมัติให้ฉีดวัคซีนให้เด็กอายุระหว่าง 5-11 ปีแล้ว นางโคลัมโบเผยกับบีบีซีว่า เธอยอมทำเช่นนี้เพื่อปกป้องลูกสาว ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต เธอยอมเสี่ยงกับวัคซีนโควิดที่รู้จักดีพอมากกว่าที่จะเสี่ยงกับเชื้อโควิดที่ยังมีข้อมูลน้อยมาก และรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากกับผลกระทบหลังติดเชื้อโควิดและป่วยเป็นระยะยาวนาน หรือภาวะลองโควิด (Long Covid) ทั้งนี้ คุณแม่ชาวอังกฤษและลูกสาวได้ขับรถยนต์จากอังกฤษไปอิตาลีโดยใช้เวลายาวนานถึง 13 ชั่วโมง โดยตัดสินใจไม่ใช้บริการเที่ยวบินเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิดในท่าอากาศยานและบนเครื่องบิน ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษระบุว่า กำลังพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกาศคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่เด็กส่วนใหญ่ในช่วงอายุดังกล่าวมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะมีอาการป่วยรุนแรงหลังติดเชื้อโควิด ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 13.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 148,000 […]

...