‘ไบเดน’ ผ่าตัดเอาเซลล์มะเร็งออกจากผิวหนัง

วอชิงตัน 5 ก.ย. – โฆษกของนายโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่านายไบเดน ได้เข้ารับการผ่าตัดเอาเซลล์มะเร็งออกจากผิวหนังไปเมื่อเร็วๆ นี้ และขณะนี้กำลังฟื้นตัวเป็นอย่างดี การผ่าตัดครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายไบเดนเปิดเผยว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจาย ซึ่งทีมแพทย์อธิบายว่าโรคนี้รุนแรงแต่ก็ไวต่อฮอร์โมน หมายความว่ามีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อการรักษา นายไบเดนเคยเป็นบุคคลที่อายุมากที่สุดที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในขณะที่เขาได้รับชัยชนะในปี 2020 แต่สถิตินั้นได้ถูกทำลายลงเมื่อปีที่แล้ว เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 79 ปี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ก่อนหน้านี้นายไบเดนเคยเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกที่ผิวหนังออกระหว่างการตรวจสุขภาพตามปกติเมื่อปี 2566 ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเนื้องอกดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นเซลล์มะเร็งผิวหนังที่ร้ายแรงน้อย สุขภาพกายและความเฉียบคมทางจิตใจของนายไบเดนเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาได้ประกาศยุติการลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่ 2 อย่างกะทันหันในเดือนกรกฎาคม 2024 เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ผลงานในการโต้วาทีกับนายทรัมป์ ที่น่าผิดหวังได้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางภายในพรรคเดโมแครต นับตั้งแต่พ้นจากตำแหน่ง นายไบเดน วัย 82 ปี ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะเท่าใดนัก โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เขาได้กล่าวปกป้องสำนักงานประกันสังคมจากการเสนอให้มีการปรับลดงบประมาณจากรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์.-813.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ลงนามในคำสั่งเพื่อลดภาษีรถยนต์ญี่ปุ่นให้มีผลบังคับใช้

วอชิงตัน/โตเกียว 5 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ลงนามในวันพฤหัสบดีในคำสั่งเพื่อลดภาษีนำเข้ารถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากญี่ปุ่น ซึ่งได้มีการประกาศไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมให้มีผลบังคับใช้ การลงนามครั้งนี้เป็นการทำให้ข้อตกลงระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากการเจรจาที่กินเวลาหลายเดือน โดยข้อตกลงที่จะลดภาษีรถยนต์ญี่ปุ่นเหลือร้อยละ 15 จากเดิมร้อยละ 27.5 จะมีผลบังคับใช้ในอีก 7 วันหลังจากมีการประกาศคำสั่งอย่างเป็นทางการ คำสั่งพิเศษนี้ยังรับประกันด้วยว่าภาษีร้อยละ 15 ที่ตกลงกันไว้ในเดือนกรกฎาคมจะไม่ถูกนำไปรวมกับภาษีที่สูงกว่าอยู่แล้ว เช่น ภาษีเนื้อวัว และสำหรับสินค้าที่เคยมีภาษีต่ำกว่าร้อยละ 15 จะถูกปรับขึ้นเป็นร้อยละ 15 โดยมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 7 สิงหาคม นอกจากนี้ยังให้คำมั่นว่าจะไม่มีการเก็บภาษีกับเครื่องบินพาณิชย์และชิ้นส่วนอะไหล่ด้วย ภาษีที่นายทรัมป์เรียกเก็บจากสินค้าทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของญี่ปุ่นและผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างหนัก เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทโตโยต้ากล่าวว่าคาดว่าจะได้รับผลกระทบเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์จากภาษีของนายทรัมป์ที่เรียกเก็บจากรถยนต์ที่นำเข้าสหรัฐ นายเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่นได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์แสดงความโล่งใจจากการเจรจาการค้าที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนจนทำให้สมาชิกสภานิติบัญญัติในโตเกียวไม่พอใจ การเดินทางไปสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเป็นการเดินทางครั้งที่ 10 ของเขาเพื่อการเจรจาดังกล่าว ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ซึ่งเป็นอีกผู้ส่งออกคู่แข่งของญี่ปุ่นยังคงรอคำสั่งพิเศษที่ครอบคลุมข้อตกลงการค้าที่คล้ายคลึงกันกับสหรัฐรวมถึงภาษีร้อยละ 15 สำหรับสินค้านำเข้าจากผู้ผลิตรถยนต์อย่างฮุนได มอเตอร์ และ เกีย ซึ่งลดลงจากร้อยละ 25เจ้าหน้าที่การค้าของเกาหลีใต้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าประเทศของเขากำลังประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากคำสั่งพิเศษที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น คำสั่งของนายทรัมป์ในวันพฤหัสบดียังย้ำว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะลงทุน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐในโครงการที่จะได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลสหรัฐ.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ บอกจีนควรพูดถึงสหรัฐใน ‘พิธีสวนสนามอันสวยงาม’

วอชิงตัน 4 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่า “พิธีอันสวยงาม” ของจีนที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ควรจะกล่าวถึงบทบาทที่สหรัฐมีต่อความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่น นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เขาคิดว่าการสวนสนามครั้งใหญ่ที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ เป็นพิธีที่สวยงามมากและน่าประทับใจมาก ๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียในไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าโดยกล่าวเป็นนัยว่าบรรดาผู้นำต่างชาติที่พบปะกันในกรุงปักกิ่งอาจกำลังสมคบคิดต่อต้านสหรัฐก็ได้ นายทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาดูประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นเพื่อนของเขากล่าวสุนทรพจน์เมื่อคืนนี้ แต่เขาคิดว่าสหรัฐควรถูกกล่าวถึงในสุนทรพจน์นั้นด้วย เพราะสหรัฐได้ช่วยเหลือจีนอย่างมาก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ทำให้การฉลองครบรอบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามเป็นงานแสดงครั้งสำคัญของรัฐบาลและเพื่อแสดงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับประเทศที่ขัดแย้งกับสหรัฐ นายสีกล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่สองว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการ “ฟื้นฟูครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน” เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า นายสีได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลต่างประเทศและมิตรประเทศที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนจีน แต่เขาไม่ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของสหรัฐในสงครามแต่อย่างใด นายทรัมป์โพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียลของเขาขณะชมการถ่ายทอดพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ ที่มีประะานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียและนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเข้าร่วมด้วย โดยกล่าวว่า โปรดฝากความคิดถึงอันอบอุ่นของผมไปยังนายปูตินและนายคิมในขณะที่คุณกำลังสมคบคิดต่อต้านสหรัฐ ในขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่าพวกไม่ได้สมคบคิดใด ๆ และว่าคำกล่าวของทรัมป์เป็นการประชดประชัน.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ปูติน’ แย้มพร้อมเจรจา ‘เซเลนสกี’

ปักกิ่ง 4 ก.ย. – ผู้นำรัสเซียเผย พร้อมที่จะจัดการเจรจากับประธานาธิบดียูเครน หากยอมเดินทางมายังกรุงมอสโก แต่ยังต้องรอดูต่อไปว่าการพบปะครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงต่อสื่อมวลชนปิดท้ายการเดินทางเยือนประเทศจีนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยระบุว่า เขาพร้อมที่จะจัดการเจรจากับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี หากผู้นำยูเครนเดินทางมายังกรุงมอสโก แต่ยังต้องรอดูต่อไปว่าการพบโดยระบุปะครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ ปูตินย้ำว่า เขาเปิดกว้างเสมอสำหรับการพบกับเซเลนสกี แต่ย้ำจุดยืนเดิมที่เคยระบุหลายครั้งว่า การพบปะดังกล่าวจะต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าอย่างรอบคอบ และต้องนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และว่าในความเห็นของเขา หากต้องการให้การเจรจาเกิดความคืบหน้า ยูเครนจำเป็นต้องยกเลิกกฎอัยการศึก จัดการเลือกตั้ง และจัดประชามติเกี่ยวกับประเด็นดินแดน 4 แห่งของยูเครน ที่รัสเซียผนวกเป็นของตนในปี 2565 แต่รัฐบาลยูเครนและประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ปฏิเสธ โดยมองว่าเป็นความพยายามยึดครองดินแดนอย่างผิดกฎหมาย ที่ได้รับแรงหนุนจากการทำสงครามในลักษณะการล่าอาณานิคม ในส่วนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แสดงความเห็นจากทำเนียบขาวว่า เขาไม่มีข้อความใดจะส่งถึงประธานาธิบดีปูติน เพราะปูตินย่อมรู้ดีว่าจุดยืนของเขาอยู่ตรงไหน และเขาจะตัดสินใจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พร้อมกับแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนเมื่อถูกนักข่าวตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนยังไม่ดำเนินการใดๆ ต่อต้านรัสเซีย ที่แสดงความสนใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการยุติสงครามในยูเครน โดยทรัมป์บอกว่าการขึ้นภาษีต่ออินเดียเพิ่มเติม เพื่อลงโทษกรณีซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ทำให้รัสเซียเสียหายทางเศรษฐกิจไปแล้วหลายแสนล้านดอลลาร์ นั่นเป็นแค่มาตรการแรก เขายังไม่เริ่มขั้นต่อไปด้วยซ้ำ ถ้อยแถลงดังกล่าวของทรัมป์มีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากทรัมป์กล่าวว่าเขาผิดหวังในตัวปูตินอย่างมาก และแสดงความเห็นว่า ผู้นำรัสเซียกำลังจับมือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง […]

‘ทรัมป์’ ปัดข่าวลือเรื่องมีปัญหาสุขภาพ

วอชิงตัน 3 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันอังคาร ปฏิเสธข่าวที่เผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ว่าเขามีปัญหาสุขภาพ พร้อมระบุว่าในช่วงวันหยุดวันแรงงานที่ผ่านมาเขามีภารกิจมากมาย ทั้งการให้สัมภาษณ์กับสื่อและการไปเยือนสนามกอล์ฟของเขาที่รัฐเวอร์จิเนีย นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาวเมื่อถูกถามถึงข่าวที่ว่านี้ โดยเขาระบุว่าเป็น “ข่าวปลอม” นายทรัมป์ในวัย 79 ปี ได้กลายเป็นบุคคลที่มีอายุมากที่สุดที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการคาดเดาเรื่องสุขภาพของเขากันอย่างแพร่หลายทางโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเอ็กซ์ โดยมีการอ้างถึงการที่นายทรัมป์ไม่มีกำหนดปรากฎตัวในงานสาธารณะต่าง ๆ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และการให้สัมภาษณ์กับ ยูเอสเอ ทูเดย์ (USA Today) ของรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี โดยหลังจากถูกถามในระหว่างการสัมภาษณ์ว่าเขาพร้อมที่จะรับบทบาทผู้บัญชาการทหารสูงสุดหรือไม่ นายแวนซ์กล่าวอย่างมั่นใจว่า นายทรัมป์มีสุขภาพดีแต่ก็กล่าวว่าเขาพร้อมที่จะก้าวขึ้นมารับหน้าที่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับประธานาธิบดี นายทรัมป์ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด ชานกรุงวอชิงตัน จากผลการตรวจอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาว พบว่าเขามีจังหวะการเต้นของหัวใจปกติและไม่มีปัญหาสุขภาพที่สำคัญ และเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า นายทรัมป์มีอาการขาบวมและมีรอยฟกช้ำที่มือขวา หลังจากมีภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นข้อเท้าที่บวมและรอยฟกช้ำที่มือบางส่วนถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่แพทย์ประจำตัวของเขา แถลงว่า ผลการตรวจยืนยันว่าปัญหาที่ขาเกิดจาก “ภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง” […]

ศาลอุทธรณ์ชี้ภาษี ‘ทรัมป์’ ส่วนใหญ่ผิดกฎหมาย

วอชิงตัน 30 ส.ค. – ศาลอุทธรณ์สหรัฐประกาศว่าภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่เจ้าตัวจะสู้ต่อในชั้นฎีกา และยืนยันว่ามาตรการภาษียังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ศาลอุทธรณ์กลางในกรุงวอชิงตันของสหรัฐมีคำตัดสินด้วยมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 4 เสียงยืนตามศาลการค้าที่มีคำตัดสินไปเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าการจัดเก็บภาษีศุลกากรตามนโยบายของทรัมป์ส่วนใหญ่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ศาลระบุว่า แม้กฎหมายสหรัฐ จะให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ภายหลังการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ แต่อำนาจดังกล่าวมิได้รวมถึงการจัดเก็บภาษีศุลกากร อากร หรือการเก็บภาษีในลักษณะอื่นแต่อย่างใด แต่คำตัดสินของศาลจะยังไม่มีผลไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคมเพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาต่อไป หลังจากที่ศาลมีคำตัดสินออกมา นายทรัมป์ได้โพสต์ผ่านทางแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลของเขาระบุว่า คำตัดสินของศาลไม่ถูกต้อง และยืนยันว่ามาตรการภาษียังคงมีผลบังคับใช้อยู่ พร้อมประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาต่อไป มาตรการภาษีของทรัมป์นั้นถือได้ว่าเป็นเสาหลักของนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐ โดยนายทรัมป์ใช้มาตรการทางภาษีเพื่อกดดันทางการเมืองและการเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่กับประเทศที่ส่งสินค้าไปยังสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ สั่งลดธงครึ่งเสาไว้อาลัยเหยื่อเหตุกราดยิงในโรงเรียน

วอชิงตัน 28 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีคำสั่งให้ลดธงลงครึ่งเสาทั่วทำเนียบขาว และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เพื่อไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียนคาทอลิก ที่เมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา คำสั่งดังกล่าวของนายทรัมป์ยังครอบคลุมถึง “อาคารหน่วยงานของรัฐและสถานที่สาธารณะทั้งหมด หน่วยทหารทุกแห่งและบนเรือรบของกองทัพเรือทั้งหมดของรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตันและทั่วประเทศและดินแดนในความครอบครองของสหรัฐ” คำสั่งนี้จะให้ลดธงครึ่งเสาไปจนถึงวันอาทิตย์ เหตุการณ์กราดยิงดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธเมื่อ โรบิน เวสต์แมน ชายวัย 23 ปี พร้อมอาวุธปืน 3 กระบอก ได้กราดยิงใส่นักเรียนที่กำลังเข้าร่วมพิธีมิสซาในโบสถ์ เป็นเหตุให้มีเด็กเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 17 คน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะปลิดชีพตัวเองในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองมินนิอาโปลิส ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่พบว่ามีคลิปวิดีโอที่ผู้ต้องสงสัยได้บันทึกไว้แสดงให้เห็นว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมีความหลงใหลในตัวผู้ก่อเหตุสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในอดีต ขณะที่ คาช พาเทล (Kash Patel) ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ระบุว่า เอฟบีไอจะสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ในฐานะ “การก่อการร้ายภายในประเทศและอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่มุ่งเป้าไปที่ชาวคาทอลิก”.-813.-สำนักข่าวไทย

จีนชี้ข้อเสนอเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐ-รัสเซีย ‘ไม่สมเหตุสมผล’

ปักกิ่ง 27 ส.ค. – จีนกล่าววันพุธว่า การขอให้จีนเข้าร่วมการเจรจาสามฝ่ายเพื่อลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐและรัสเซียนั้นเป็นเรื่องที่ “ไม่สมเหตุสมผลและเป็นจริงไปไม่ได้” กัว จื้อคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวเช่นนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่าได้หารือเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และต้องการให้จีนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย นายกัวกล่าวว่า กองกำลังนิวเคลียร์ของจีนและสหรัฐฯไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย และสภาพแวด้านความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงนโยบายนิวเคลียร์ของทั้งสองประเทศก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นายกัวกล่าวด้วยว่า จีนดำเนินนโยบายไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน และมีนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ด้านนิวเคลียร์เพื่อการป้องกันตนเอง พร้อมเสริมว่าจีนจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันสะสมอาวุธกับประเทศอื่นใด เขากล่าวว่า ประเทศที่มีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดควรทำหน้าที่พิเศษและความรับผิดชอบที่มีลำดับความสำคัญในการลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างจริงจัง ก่อนการพบกับประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “หนึ่งในสิ่งที่สหรัฐกำลังพยายามทำกับรัสเซียและจีนคือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก.-813.-สำนักช่าวไทย

‘ทรัมป์’ เยี่ยมตำรวจ-ทหาร ที่ปราบปรามอาชญากรรมในกรุงวอชิงตัน

วอชิงตัน 22 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศวานนี้ว่า การปราบปรามอาชญากรรมในเมืองหลวงของสหรัฐประสบความสำเร็จแล้ว ขณะที่เขาเดินทางไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ภายใต้แผนการของเขา ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่าแนวทางดังกล่าวรุนแรงเกินไป นายทรัมป์เดินทางไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ตำรวจอุทยานแห่งชาติสหรัฐ ในย่านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมนำพิซซ่าและแฮมเบอร์เกอร์มามอบให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อแสดงการสนับสนุน ประธานาธิบดีกล่าวกับเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบหลายร้อยนายโดยไม่ได้อ้างอิงหลักฐานใด ๆ ว่าความพยายามของพวกเขากำลังส่งผลให้อาชญากรรมลดลง ทำให้กรุงวอชิงตันแตกต่างจากเดิมเหมือนกับเป็นคนละสถานที่เลยและตอนนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว นายทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านความปลอดภัยสาธารณะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าเมืองหลวงกำลังประสบกับกระแสอาชญากรรมรุนแรง เขาได้ส่งกำลังทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางออกปฎิบัติหน้าที่ตามท้องถนนและกล่าวว่าจะเข้าควบคุมสำนักงานตำรวจของเมืองเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นการใช้อำนาจของประธานาธิบดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การปราบปรามดังกล่าวรวมถึงการเพิ่มปฏิบัติการหยุดตรวจค้น การลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในย่านที่พักอาศัย และมีรายงานว่าประชาชนถูกหยุดตรวจโดยไม่มีการอธิบายที่มาที่ไปเท่าที่ควร นายทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการของเขาและบอกกับเจ้าหน้าที่ที่รวมตัวกันว่ากรุงวอชิงตันกำลังฟื้นตัว และสหรัฐกำลังจะมีเมืองหลวงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของเมืองได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่าอาชญากรรมรุนแรงแพร่ระบาด โดยชี้ไปที่สถิติของรัฐบาลกลางและของเมืองที่แสดงให้เห็นว่าอาชญากรรมรุนแรงได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ที่อัตราอาชญากรรมรุนแรงพุ่งสูงขึ้นในปี 2023.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐย้ำยุโรปต้องรับผิดชอบความมั่นคงยูเครน

วอชิงตัน 21 ส.ค. – รองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์ ของสหรัฐกล่าวย้ำว่า ยุโรปจะต้องเป็นผู้รับภาระในการดูแลความมั่นคงให้กับยูเครน ซึ่งเรื่องนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยพูดไปแล้ว นายแวนซ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องฟ็อกซ์นิวส์ว่าประเทศต่างๆ ในยุโรป จะต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายและการส่งทหารเข้าไปดูแลความมั่นคงให้กับยูเครน ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนให้เร็วที่สุด และการรับประกันความมั่นคงให้กับยูเครนเป็น หนึ่งในเรื่องที่ยูเครนให้ความสำคัญในลำดับตั้นๆ เมื่อวันก่อนนายทรัมป์เคยบอกว่าสหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงแต่อาจจะช่วยสนับสนุนทางอากาศซึ่งสหรัฐมีศักยภาพทางด้านนี้มากกว่าชาติยุโรป นอกจากนี้สหรัฐยังจะจำกัดการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนน้อยลงจากเดิมด้วย โดยนายทรัมป์ต้องการถ่ายโอนความรับผิดชอบเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยูเครนไปให้ชาติพันธมิตรในยุโรปมากขึ้น ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์เมื่อวานนี้ นายแวนซ์ระบุว่าสหรัฐไม่ควรต้องแบกภาระนี้ และประธานาธิบดีทรัมป์ก็คาดหวังให้ยุโรปเป็นผู้มีบทบาทนำในเรื่องยูเครนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไรก็ตาม เพราะประเทศยุโรปกับยูเครนอยู่บนผืนทวีปเดียวกัน ซึ่งนั่นคือความมั่นคงร่วมกันของยุโรป และประธานาธิบดีทรัมป์ได้พูดเรื่องนี้อย่างชัดเจนไปแล้วว่ายุโรปจะต้องก้าวขึ้นมามีบทบาทนำแทนสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

เผย ‘มัสก์’ ระงับแผนการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่

วอชิงตัน 20 ส.ค. – หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (Wall Street Journal) รายงานวันอังคาร อ้างแหล่งข่าววงในว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก กำลังระงับแผนการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ของตัวเองอย่างเงียบๆ โดยได้บอกกับพันธมิตรของเขาว่า เขาต้องการมุ่งเน้นความสนใจไปที่บริษัทของเขาเป็นหลัก มัสก์ไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว แต่ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า ข่าวจากวอลสตรีทเตอร์นัล ไม่มีอะไรที่ควรจะถือว่าเป็นเรื่องจริง มัสก์ เปิดตัว ‘พรรคอเมริกา’ (America Party) เมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากเกิดความเห็นไม่ตรงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องร่างกฎหมายการลดภาษีและค่าใช้จ่าย รายงานระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา มัสก์ได้ให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์กับรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ และยอมรับกับคนใกล้ชิดว่าการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่จะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับแวนซ์ วอลสตรีท เจอร์นัลเปิดเผยว่า มัสก์และคนสนิทได้บอกกับบุคคลที่ใกล้ชิดของแวนซ์ว่า มัสก์กำลังพิจารณาที่จะใช้ทรัพยากรทางการเงินส่วนหนึ่งของเขาเพื่อสนับสนุนแวนซ์ หากเขาตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2028 มัสก์ ซีอีโอของเทสลาและสเปซเอ็กซ์ใช้เงินเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพื่อช่วยให้ทรัมป์และพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ได้รับเลือกตั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียไม่สนใจเจรจากับยูเครน

มอสโก 20 ส.ค. – การยุติสงครามในยูเครนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกระลอกเมื่อรัสเซียแสดงท่าทีไม่ให้ความสำคัญกับการเจรจากับยูเครนตามที่ผู้นำสหรัฐกำลังผลักดันให้มีการเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเพิ่งบอกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐว่าเขาเปิดรับแนวคิดในการเจรจาโดยตรงกับนายวลาดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แต่มาในวันรุ่งขึ้น นายเซอร์เก ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกลับปรับลดความสำคัญของการเจรจาดังกล่าวลงส่งผลให้ความพยายามในการยุติสงครามในยูเครนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น นายราฟลอฟกล่าวว่าการประชุมใดๆก็ตามจะต้องมีการเตรียมการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นจึงดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมด ขณะที่นายดมิทรี โปเลียนสกี รองผู้แทนรัสเซียประจำสหปราะชาชาติบอกว่าไม่มีใครปฏิเสธโอกาสในการเจรจาโดยตรง แต่ก็ไม่ควรเป็นการเจรจาเพียงแค่ว่าได้มาพบปะกันเท่านั้น มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ปูตินได้แนะกับทรัมป์ว่าเซเลนสกีสามารถเดินทางมาเจรจาที่กรุงมอสโกได้ แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยูเครนไม่มีวันยอมรับอย่างแน่นอน ซึ่งข้อเสนอนี้อาจจะเป็นวิธีการของรัสเซียในการเสนอทางเลือกที่ยูเครนจะไม่มีวันยอมตกลงได้ การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับผู้นำรัสเซีย และผู้นำยูเครนรวมทั้งผู้นำพันธมิตรในยุโรปในช่วงไม่มีกี่วันมานี้ อาจทำให้ทรัมป์ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเกี่ยวกับความซับซ้อนของสงครามและช่องหว่างระหว่างข้อเรียกร้องของรัสเซียกับจุดยืนของยูเครน ทรัมป์ยอมรับว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข พร้อมกับยอมรับด้วยว่าปูตินอาจจะไม่สนใจที่จะยุติการสู้รบ และเป็นไปได้ที่ผู้นำรัสเซียจะไม่ต้องการทำข้อตกลง ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นปูตินจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างแน่นอน แต่ทรัมป์ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม.-816.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 154
...