ไฟป่าในสหรัฐก่อมลพิษทางอากาศในนครนิวยอร์ก

ไฟป่าที่กำลังลุกลามไปทั่วภาคตะวันตกของสหรัฐและแคนาดา ซึ่งรวมถึงไฟป่าครั้งใหญ่ที่เผาไหม้มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ในรัฐออริกอนของสหรัฐ ทำให้กลุ่มควันและเขม่าถูกพัดไปทางทิศตะวันออกจนกลายเป็นมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายได้ไกลถึงนครนิวยอร์ก

ไฟป่าในสหรัฐยังลุกลามหนักเพราะอากาศแปรปรวน

ออริกอน 19 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของสหรัฐ ต้องเผชิญกับอันตรายที่เพิ่มขึ้นจากกระแสลมแปรปรวนและสภาพป่าที่แห้งแล้งในรัฐออริกอน เมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่พวกเขาพยายามควบคุมไฟป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐในกลุ่มไฟป่าที่กำลังลุกลามในหลายพื้นที่รัฐทางตะวันตกของสหรัฐ ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น กลายเป็นหนึ่งในไฟป่าครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของรัฐออริกอน และกำลังเผาผลาญพื้นที่กว่า 1,210 ตารางกิโลเมตร ซึ่งกินพื้นที่ขนาดใกล้เคียงกับขนาดของนครลอสแอนเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ทางเหนือของชายแดนรัฐแคลิฟอร์เนีย และควบคุมเพลิงไหม้ได้เพียงร้อยละ 25 เท่านั้น ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาหลายรายคาดการณ์ว่า สภาพอากาศที่เอื้อให้เกิดไฟป่ารุนแรงจะยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวไปจนถึงวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น และอาจเกิดฟ้าผ่าในรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่ทางใต้ของรัฐออริกอน ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ ในนครแซคราเมนโตของรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า สภาพอากาศที่แห้งแล้งและฟ้าผ่า ทำให้มีโอกาสเกิดไฟป่าครั้งใหม่ได้ ในขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นได้สั่งให้ประชาชนจำนวนมากอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงประชาชนราว 2,000 คน ที่อาศัยอยู่ในย่านชนบทริมทะเลสาบ และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่อยู่ใกล้ไฟป่าบูตเลกที่เผาผลาญบ้านเรือน 67 หลัง และสิ่งปลูกสร้าง 100 หลัง สภาพอากาศที่แห้งแล้งและคลื่นความร้อนรุนแรงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดไฟป่าที่ยากต่อการควบคุม ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐมีอุณหภูมิสูงขึ้นและแห้งแล้งมากขึ้นในรอบ 30 ปี และจะทำให้สภาพอากาศเลวร้าย เกิดไฟป่าบ่อยขึ้น และสร้างความเสียหายมากขึ้นเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐอพยพประชาชนหลายร้อยหนีไฟป่าในรัฐออริกอน

ออริกอน 15 ก.ค. – ไฟป่าในพื้นที่ตอนกลางค่อนไปทางใต้ของรัฐออริกอนในสหรัฐยังคงเผาไหม้ลุกลามเป็นวงกว้างเป็นวันที่ 9 เมื่อวานนี้ ทำให้บ้านเรือนเกือบ 2,000 หลังตกอยู่ในอันตรายและประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเรือนโดยไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง รัฐออริกอน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์หรือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ระบุว่า ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ได้เผาไหม้พื้นที่กว่า 212,000 เอเคอร์ (ราว 536,300 ไร่) ในช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีบ้านเรือนเสียหาย 21 หลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ เสียหาย 54 หลัง ขณะที่ศูนย์ประสานงานของหน่วยงานภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐเผยว่า ไฟป่าบูตเลกทำให้มีบ้านเรือนราว 1,926 หลังตกอยู่ในอันตราย ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานป่าไม้ของรัฐออริกอนกล่าวว่าได้สั่งอพยพประชาชนเกือบ 400 คนออกจากบ้านเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัย และยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่า ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ทางรัฐออริกอนได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 1,300 คนลงพื้นที่ควบคุมไฟป่าบูตเลก ซึ่งเป็นไฟป่าขนาดใหญ่อันดับเจ็ดนับตั้งแต่บันทึกข้อมูลไฟป่าในปี 2443 ทั้งนี้ ไฟป่าบูตเลกยังเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มไฟป่าอย่างน้อย 10 แห่งที่กำลังลุกลามทั่วภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ และเผาไหม้พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฟรีมองต์-วิเนมาที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองพอร์ตแลนด์ในรัฐออริกอนราว 400 กิโลเมตรตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม.-สำนักข่าวไทย

หุบเขามรณะในสหรัฐอุณหภูมิพุ่ง 54 องศาเซลเซียส

แคลิฟอร์เนีย 12 ก.ค. – คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมฝั่งตะวันตกของสหรัฐทำให้อุณหภูมิที่หุบเขามรณะ หรือเดธวัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 54 องศาเซลเซียส และกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนระอุที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ (NWS) เผยว่า บันทึกอุณหภูมิที่หุบเขามรณะได้สูงถึง 54 องศาเซลเซียสเมื่อวันเสาร์ ซึ่งหากได้รับตรวจสอบก็จะกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนระอุที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นความร้อนสูงที่ปกคลุมหลายพื้นที่ของภูมิภาค และเตือนประชาชนว่าอุณหภูมิสูงอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงวัย ในขณะเดียวกัน เครื่องวัดอุณหภูมิที่ตั้งอยู่ด้านนอกศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวดังกล่าวบันทึกอุณหภูมิก่อนถึงเวลา 16.00 น. ในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นได้สูงถึง 56.6 องศาเซลเซียส แม้เจ้าหน้าที่หน่วยงานอุทยานแห่งชาติระบุว่า เครื่องวัดอุณหภูมิมักวัดอุณหภูมิได้สูงกว่าที่ทางการรายงานก็ตาม คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมในหลายพื้นที่ของภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์หรือตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ ยังส่งผลกระทบต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าและทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่หลายแห่ง ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ในพื้นที่ทางใต้ของรัฐออริกอนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เผาไหม้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฟรีมองต์-วิเนมาแล้วราว 364,000 ไร่จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ ขณะนี้ไฟป่ายังคงลุกลามไปตามเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างรัฐออริกอนกับรัฐแคลิฟอร์เนีย จนทำให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองรัฐวิตกกังวลว่าอาจเกิดไฟดับที่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและภาคธุรกิจจำนวนมาก. -สำนักข่าวไทย

อพยพประชาชนหนีไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ไฟไหม้ป่าราว 3,300 ไร่ ใกล้ย่านที่พักอาศัย ชานเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ทางการออกคำสั่งอพยพประชาชนเกือบ 1,000 คน พร้อมเร่งดับไฟ

แคลิฟอร์เนียอพยพประชาชนกว่า 8,000 คน หนีไฟป่า

ประชาชนในเขตริเวอร์ไซด์ ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย กว่า 8,000 คน ถูกสั่งให้อพยพออกจากที่อยู่อาศัยไปยังที่ปลอดภัย หลังไฟป่าที่กำลังลุกลามอย่างรุนแรงอยู่ทางตะวันออกของนครลอสแอนเจลิส ขยายวงกว้างออกเป็นกว่า 10,000 ไร่

ผลกระทบจากไฟป่าสหรัฐ

สหรัฐ 13 ธ.ค.-​ผลกระทบจากไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย เนื่องจากพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาในช่วงฤดูฝนส่งผลให้ก้อนหินและดินจำนวนมหาศาลบนภูเขาที่ต้นไม้จำนวนมากถูกไฟป่าเผาผลาญ ถล่มลงมาในหลายพื้นที่ ที่เมืองมาลิบู เกิดเหตุดินและหินถล่มเนื่องจากฝนตกหนัก เจ้าหน้าที่ต้องปิดใช้ทางหลวงริมชายหาดสายหนึ่ง คาดว่าจะมีฝนโหมกระหน่ำลงมาอีกทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย  เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งต้องปิดร้านร่วม 16 วันในช่วงที่เกิดไฟป่า ตัดสินใจเปิดร้านต่อแม้จะหวาดเกรงอันตรายจากดินถล่ม ขณะที่ชาวบ้านอีกจำนวนมากยังคงไร้ที่อยู่อาศัย บางพื้นที่ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้  ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คน สูญหายอีกจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

ยอดเสียชีวิตจากไฟป่าที่สหรัฐ เพิ่มเป็น 74 คน

ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแคลิฟอร์เนียทั่วทั้งรัฐเพิ่มเป็น 74 คนแล้ว และมีรายงานผู้สูญหายจากไฟป่าแคมป์อีกกว่า 1,000 คน เพิ่มจากเมื่อวันก่อน 631 คน

ชะตากรรมเหยื่อไฟป่าสหรัฐ ต้องอาศัยค้างแรมหน้าซูเปอร์มาร์เก็ต

จำนวนผู้อพยพหนีไฟป่าครั้งรุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้อพยพจำนวนหนึ่งต้องไปนอนค้างอ้างแรมกันที่ลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง เพื่อรอรับบริจาคเสื้อผ้า อาหาร และ สิ่งของยังชีพอื่นๆ

สถานการณ์ไฟป่าสหรัฐยังวิกฤติ ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 44 คน

สถานการณ์ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 44 คนแล้วและยังมีผู้สูญหายอีกนับร้อยคน

ไฟป่าแคลิฟอร์เนียยังลุกลามไม่หยุด

สหรัฐ 5 ส.ค.-ไฟป่าครั้งร้ายแรงในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงลุกลามไม่หยุด ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 7 คน โดยเหยื่อไฟป่ารายล่าสุด เป็นคนงานติดตั้งสายไฟฟ้าของบริษัทไฟฟ้าท้องถิ่น ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 7.3 แสนไร่ ซึ่งมากกว่าพื้นเฉลี่ยที่ถูกไฟไหม้ในปีก่อนๆ ถึง 5 เท่า นอกจากนี้ยังมีอาคารและบ้านเรือนประชาชนถูกไฟเผาผลาญ 1,500 หลัง ขณะที่ทางการมีคำสั่งให้ประชาชนอพยพเพิ่มอีก.-สำนักข่าวไทย

1 2
...