ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศไม่ถอยเรื่องดาวเทียมสอดแนม

เปียงยาง 29 พ.ค. – นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ประกาศว่า ศักยภาพการสอดแนมทางอวกาศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่เกาหลีเหนือจะปกป้องตนเองจากภัยของศัตรู ดังนั้น เกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าจะมีศักยภาพดังกล่าวเป็นของตนเอง สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ซึ่งเป็นสื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมกล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมสถาบันวิทยาศาสตร์กลาโหมของเกาหลีเหนือที่ก่อตั้งครบ 60 ปีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมว่า การครอบครองดาวเทียมสอดแนมทางทหารเป็นภารกิจสำคัญที่จะเสริมสร้างการป้องปรามเพื่อป้องกันประเทศ และการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศจากภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำและการยั่วยุของกองทัพสหรัฐ ถึงแม้การปล่อยดาวเทียมสอดแนมเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมไม่บรรลุเป้าหมาย ก็ไม่ควรท้อใจหรือกลัว แต่ควรพยายามให้มากขึ้นและเรียนรู้จากความล้มเหลว ผู้นำเกาหลีเหนือยังได้ตำหนิเกาหลีใต้ที่วิพากษ์วิจารณ์การปล่อยดาวเทียมของเกาหลีเหนือ และเตือนว่าเกาหลีใต้กำลังเล่นกับไฟจากการส่งฝูงบินเอฟ-35 สเตลธ์ขึ้นฝึกซ้อมโจมตีเพื่อแสดงแสนยานุภาพทางทหาร หลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมได้ไม่กี่ชั่วโมง การปล่อยดาวเทียมจารกรรมของเกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ล้มเหลว เนื่องจากเครื่องยนต์จรวดท่อนแรกระเบิดกลางอากาศ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การปล่อยดาวเทียมครั้งล่าสุดนี้เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของเกาหลีเหนือ เพราะใช้เครื่องยนต์ใหม่ที่มีออกซิเจนเหลวและปิโตรเลียมเป็นเชื้อเพลิง บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนืออาจได้รับความช่วยเหลือเรื่องการสร้างจรวดจากรัสเซีย เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรดวงแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 หลังจากล้มเหลวมา 2 ครั้ง โดยคาดว่าใช้ระบบการปล่อยจรวดที่พัฒนามาสำหรับการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปหรือไอซีบีเอ็ม (ICBM).-814.-สำนักข่าวไทย

เอฟบีไอเกรงจะเกิดเหตุร้ายในสหรัฐแบบกราดยิงในรัสเซีย

วอชิงตัน 11 เม.ย.- สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐจะแจ้งต่อคณะกรรมการในสภาผู้แทนราษฎรว่า เอฟบีไอกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายในสหรัฐ คล้ายกับเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสถานที่แสดงคอนเสิร์ตของรัสเซีย รอยเตอร์รายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอซึ่งจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณในวันนี้เตรียมจะกล่าวกับคณะกรรมาธิการว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในประสบการณ์การทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมา เขาพบว่า มักมีช่วงเวลาที่ภัยคุกคามมากมายต่อความปลอดภัยสาธารณะและความมั่นคงแห่งชาติจะเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างฉับพลัน เจ้าหน้าที่สหรัฐมีความกังวลมาโดยตลอดว่า บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ถูกกระตุ้นจากสงครามในกาซาจะก่อเหตุโจมตีในสหรัฐ และขณะนี้เอฟบีไอกำลังกังวลยิ่งขึ้นว่า อาจจะเกิดเหตุโจมตีในสหรัฐที่มีการเตรียมการวางแผน คล้ายกับที่กลุ่มไอซิส-เค (ISIS-K) กราดยิงสังหารหมู่ที่สถานที่แสดงคอนเสิร์ตชานกรุงมอสโกของรัสเซียเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 145 คน ผู้อำนวยการเอฟบีไอจะขอให้คณะกรรมาธิการต่ออายุโครงการสอดแนมของสหรัฐที่จะหมดอายุในเดือนเมษายนนี้ ด้วยการยืนยันว่าเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการต่อต้านปรปักษ์ของสหรัฐ ผู้อำนวยการเอฟบีไอจะกล่าวเรื่องนี้หลังจากเมื่อวานนี้สภาผู้แทนราษฎรไม่ให้ความเห็นชอบแผนการปรับปรุงโครงการนี้ โดยที่ สส.ทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นว่า ยังไม่มีมาตรการที่ดีพอในการจำกัดอำนาจของรัฐบาลด้านการสอดแนม.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือยืนยันแผนปล่อยดาวเทียมจารกรรมหลายดวงในปีนี้

เกาหลีเหนือประกาศวันนี้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันการพัฒนากิจการด้านอวกาศพร้อมกับยืนยันแผนสำหรับการปล่อยดาวเทียมจารกรรมหลายดวงในปีนี้ หลังจากประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมจารกรรมดางแรกสำเร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

เกาหลีเหนือแจ้งญี่ปุ่นเรื่องแผนปล่อยดาวเทียมสัปดาห์นี้

ญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้แจ้งอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการปล่อยดาวเทียมในสัปดาห์นี้โดยคาดว่าอย่างเร็วที่สุดก็จะเป็นวันพุธนี้

รัสเซียขังนักข่าวที่ทำงานให้สื่อสหรัฐอีก 3 เดือน

ศาลในกรุงมอสโกของรัสเซียขยายเวลาคุมขังนายอีวาน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าวที่ทำงานให้แก่สื่อสหรัฐ ต่อไปอีก 3 เดือน หลังจากถูกจับกุมในเดือนมีนาคม ข้อหาสอดแนม

จีนเปิดโปงแผนจารกรรมความลับของซีไอเอ

จีนกล่าววันนี้ว่า เมื่อมานานมานี้ เจ้าหน้าที่จีนสามารถเปิดโปงการจรกรรมความลับของสำนักงานข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ ของสหรัฐ .ซึ่งมีพลเมืองขาวจีนที่มีนามว่า “เจิ้ง” เข้ามาเกี่ยวข้องในการจัดหาช้อมูลสำคัญที่เป็นความลับเพื่อแลกกับเงิน

กฎหมายต่อต้านการสอดแนมฉบับแก้ไขใหม่ของจีนมีผลบังคับใช้

กฎหมายต่อต้านการจารกรรมความลับฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ของจีนมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ โดยกฎหมายฉบับใหม่นี้มีการขยายขอบเขตของสิ่งที่ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ถือเป็นการจารกรรมความลับเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ

ออสเตรเลียขวางสร้างสถานทูตรัสเซียใกล้รัฐสภา

ซิดนีย์ 15 มิ.ย.- ออสเตรเลียขัดขวางการที่รัสเซียจะสร้างสถานทูตแห่งใหม่ใกล้อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา หลังจากหน่วยข่าวกรองเตือนว่า มีความเสี่ยงเรื่องการสอดแนมและเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของออสเตรเลีย รัสเซียได้เช่าที่ดินผืนหนึ่งที่อยู่ห่างจากบริเวณรัฐสภาของออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์ราประมาณ 400 เมตรและกำลังวางโครงสร้างเพื่อสร้างสถานทูตแห่งใหม่ รัฐบาลออสเตรเลียพยายามยกเลิกสัญญาเช่า แต่ศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตเมื่อเดือนพฤษภาคม จึงได้ผ่านร่างกฎหมายใหม่ในวันนี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เนื้อหากฎหมายไม่ได้ห้ามรัสเซียตั้งสถานทูตในออสเตรเลีย แต่ห้ามสร้างใกล้อาคารรัฐสภา และยอมรับว่ารัสเซียอาจมีสิทธิได้รับการชดเชยทางการเงิน นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียกล่าวกับสื่อว่า รัฐบาลเร่งร่างกฎหมายนี้อย่างรวดเร็วหลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ เพราะได้รับคำแนะนำด้านความมั่นคงอย่างชัดเจนมากว่า มีความเสี่ยงจากการที่สถานทูตแห่งใหม่ของรัสเซียตั้งอยู่ใกล้อาคารรัฐสภา รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจว่าที่ดินดังกล่าวจะไม่กลายเป็นสถานที่ทางการทูตอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี เขาคาดว่า รัสเซียจะตอบโต้ออสเตรเลียในเรื่องนี้ ด้านแหล่งข่าวทางการทูตของรัสเซียเผยว่า สถานทูตกำลังขอคำแนะนำทางกฎหมาย หลังจากที่ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่ รัสเซียเช่าที่ดินนี้ในปี 2551 จากสำนักงานเมืองหลวงแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางออสเตรเลีย และได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในปี 2554 โดยจะย้ายจากที่ตั้งปัจจุบันซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐหลังใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่เก่าแก่ของกรุงแคนเบอร์ราที่แวดล้อมไปด้วยโรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ผับ และสถานีบริการน้ำมัน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐขอให้จีนเปิดช่องทางสื่อสาร

วอชิงตัน 14 มิ.ย.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้จีนเปิดช่องทางการสื่อสารกับสหรัฐ เป็นการเรียกร้องก่อนที่เขาจะเดินทางไปจีน เพื่อเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกนับจากปี 2561 นายบลิงเคนจะเดินทางถึงกรุงปักกิ่งของจีนในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายนนี้ หลังจากยกเลิกกำหนดการเยือนกะทันหันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาเผยว่า ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ในวันนี้ตามเวลาจีน ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือเรื่องความพยายามในการคงช่องทางการสื่อสาร หารือประเด็นทวิภาคีและประเด็นโลก ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า นายบลิงเคนได้ย้ำเรื่องความสำคัญของการคงช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้สามารถจัดการความสัมพันธ์ทวิภาคีได้อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการคำนวณผิดพลาดและการเกิดดวามขัดแย้ง นายบลิงเคนได้พูดชัดเจนว่า สหรัฐจะเดินหน้าใช้การข้องเกี่ยวทางการทูตในการหยิบยกประเด็นที่กังวลและประเด็นที่อาจร่วมมือกันได้ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า นายฉิน กัง ได้เตือนนายบลิงเคนระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ว่า ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศเผชิญความยากลำบากและความท้าทายใหม่ ๆ มาตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าฝ่ายใดต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะจีนมีมุมมองและวิธีการจัดการกับความสัมพันธ์สหรัฐตามหลักการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อยู่เสมอ เรื่องการให้เกียรติกัน การอยู่ร่วมอย่างสันติ และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย นายบลิงเคนจะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่จะเยือนจีนเป็นคนแรก นับจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ สมัยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ไปเยือนในเดือนตุลาคม […]

ผู้นำเม็กซิโกวิจารณ์สหรัฐเรื่องข่าวกรองรั่ว

เม็กซิโกซิตี 18 เม.ย.- ประธานาธิบดีเม็กซิโกเผยว่า เม็กซิโกจะไม่ยอมทนให้สหรัฐสอดแนมหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศ หลังจากข่าวเรื่องข้อมูลข่าวกรองรั่วทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตของ 2 ประเทศเกิดความตึงเครียดครั้งใหม่ ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ของเม็กซิโกกล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่ควรใช้การสอดแนมมาสืบหาว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงของเม็กซิโกกำลังทำสิ่งใด และการนำข้อมูลไปปล่อยให้แก่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในสหรัฐยิ่งเป็นการกระทำที่โอหังอย่างยิ่ง ผู้นำเม็กซิโกหมายถึงเรื่องที่วอชิงตันโพสต์รายงานข่าวช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยอ้างเอกสารลับของสหรัฐที่รั่วไหลว่า ความตึงเครียดระหว่างหน่วยงานในกองทัพเม็กซิโกมีแนวโน้มจะเลวร้ายลงอีก กองทัพสหรัฐประเมินว่า กองทัพเรือเม็กซิโกไม่พอใจที่ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์มีท่าทีจะให้กองทัพบกมีหน้าที่ความรับผิดชอบมากขึ้น เช่น ควบคุมน่านฟ้าของประเทศทั้งหมด อย่างไรก็ดี วอชิงตันโพสต์ไม่ได้ระบุว่า ข้อมูลนี้ได้มาจากการดักฟังเจ้าหน้าที่เม็กซิโกหรือไม่ ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ วัย 69 ปี ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2561 รัฐบาลของเขาได้ปฏิรูปกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในปี 2564 มุ่งจำกัดปฏิบัติการของสายลับต่างชาติในเม็กซิโก หลังจากสหรัฐจับกุมผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเม็กซิโกในรัฐบาลชุดก่อนข้อหาค้ายาเสพติด.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นขอให้จีนปล่อยตัวชายญี่ปุ่น

โตเกียว 27 มี.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องในวันนี้ให้จีนปล่อยชายชาวญี่ปุ่นที่ถูกจีนควบคุมตัวโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายจีน นายฮิโรกาซุ มัตสึโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงข่าวว่า สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่งได้รับแจ้งในเดือนนี้ว่า ชายชาวญี่ปุ่นวัย 50 ปีเศษถูกควบคุมตัวในกรุงปักกิ่งเนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายภายในของจีน รัฐบาลญี่ปุ่นได้เรียกร้องอย่างแข็งขันทันทีที่ทราบข่าว ให้มีการปล่อยตัวพลเรือนญี่ปุ่นโดยทันที และกำลังหารือเรื่องการติดต่อทางกงสุลกับชายผู้นี้ อย่างไรก็ดี โฆษกไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อหา หรือช่วงเวลาที่เขาถูกจับกุม เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า เอสเตลลาส ฟาร์มา บริษัทผู้ผลิตยาของญี่ปุ่นยืนยันว่า ชายผู้นี้เป็นพนักงานของบริษัท ถูกจีนควบคุมตัวตั้งแต่ต้นเดือนนี้โทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายจีน ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่า เขาถูกทางการจีนควบคุมตัวขณะเตรียมตัวเดินทางกลับญี่ปุ่น และอาจถูกตั้งข้อหาสอดแนม จีนเคยควบคุมตัวอาจารย์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งในเดือนตุลาคม 2562 ฐานต้องสงสัยว่าสอดแนม ก่อนปล่อยตัวกลับประเทศในเดือนถัดมา จากนั้นในเดือนมีนาคม 2563 กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า ได้ควบคุมตัวชายชาวจีนที่มีรายงานว่าทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นและรับสารภาพว่าทำหน้าที่สอดแนม.-สำนักข่าวไทย

เผยนายกฯ ญี่ปุ่นไม่ให้ทูตจีนเข้าพบเพื่ออำลาตำแหน่ง

โตเกียว 25 มี.ค.- แหล่งข่าวหลายแหล่งเผยว่า นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นไม่ให้เอกอัครราชทูตจีนเข้าเยี่ยมคารวะเพื่ออำลาเนื่องในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง เป็นการปฏิบัติที่ไม่ปกติและบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ตึงเครียด เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์อ้างแหล่งข่าวว่า นายข่ง ซ่วนโย่วแจ้งเรื่องขอเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนมกราคม แต่รัฐบาลไม่ให้เข้าพบโดยอ้างเรื่องตารางงาน และได้ให้นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศพบแทนก่อนที่นายข่งจะเดินทางออกจากญี่ปุ่นในปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นไม่มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ แหล่งข่าวมองว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นปัญหาด้านพิธีการทางการทูต เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีตำแหน่งสูงกว่าเอกอัครราชทูต แต่ญี่ปุ่นเห็นว่า ควรต้องดำเนินมาตรการตอบโต้จีน หลังจากนายยูตากะ โยโกอิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำจีนไม่มีโอกาสได้เยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเพื่ออำลาเนื่องในโอกาสพ้นจากตำแหน่งเมื่อปี 2563 แหล่งข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีคิชิดะไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมการให้เอกอัครราชทูตต่างประเทศเข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องจากกระแสสังคมในญี่ปุ่นกำลังไม่พอใจเรื่องเรือจีนล่วงล้ำน่านน้ำใกล้หมู่เกาะเซนกากุที่อยู่ในความยึดครองของญี่ปุ่นหลายครั้ง จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะนี้เช่นกันและเรียกว่าเตียวหยู นอกจากนี้ยังมีความไม่พอใจเรื่องจีนอาจเคยส่งบอลลูนสอดแนมเหนือน่านฟ้าญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4
...