รมว. หญิงโปรตุเกสลาออกจากเหตุสั่งปิดบริการสูติฉุกเฉิน

ลิสบอน 30 ส.ค.- นางมาร์ตา เตมิโด รัฐมนตรีสาธารณสุขของโปรตุเกสลาออกในวันนี้ หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องสั่งปิดบริการฉุกเฉินด้านสูติกรรม ทำให้สตรีมีครรภ์เสี่ยงอันตรายจากการถูกส่งตัวระหว่างโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขโปรตุเกสแถลงว่า เตมิโดวัย 48 ปี ตัดสินใจลาออก เพราะตระหนักว่า ตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีต่อไป ด้านนายกรัฐมนตรีอันโตนีโอ กอสตาของโปรตุเกสแถลงว่า อนุมัติการลาออกของเธอแล้ว และขอขอบคุณในสิ่งที่ได้ทำมา รวมถึงความสำเร็จในการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เตมิโอตัดสินใจลาออกหลังจากมีข่าวได้ไม่กี่ชั่วโมงว่า สตรีมีครรภ์คนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ เพราะเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นในขณะที่รถฉุกเฉินกำลังส่งตัวเธอจากโรงพยาบาลซานตามาเรีย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในกรุงลิสบอน ไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง เนื่องจากโรงพยาบาลแรกไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการคลอดบุตร รัฐบาลโปรตุเกสตัดสินใจปิดบริการฉุกเฉินด้านสูติกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ตามโรงพยาบาลที่มีแพทย์ไม่เพียงพอในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ทำให้พรรคฝ่ายค้านและทางการท้องถิ่นวิจารณ์รัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะนโยบายนี้ทำให้สตรีมีครรภ์ต้องเสี่ยงเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ไกลออกไป.-สำนักข่าวไทย

เผยสตรีมีครรภ์ตายพร้อมลูกหลังรัสเซียโจมตี รพ. เด็ก

มารีอูปอล 14 มี.ค. – สื่อของสหรัฐรายงานว่า เหตุโจมตีโรงพยาบาลแม่และเด็กในยูเครนของรัสเซียเมื่อวันพุธ ทำให้สตรีมีครรภ์ต้องสูญเสียลูกในท้องและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากที่เธอเข้าโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อคลอดบุตร ซึ่งทำให้ทั่วโลกต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการโจมตีและทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ยูเครนอ้างว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย สำนักข่าวเอพีรายงานวันนี้ว่า คลิปวิดีโอและภาพถ่ายหลังเกิดเหตุรัสเซียโจมตีโรงพยาบาลแม่และเด็ก ซึ่งบันทึกไว้โดยนักข่าวของเอพี แสดงให้เห็นว่า สตรีมีครรภ์กำลังนอนลูบหน้าท้องส่วนล่างที่เปื้อนเลือดอยู่บนเปลในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังหามเธอผ่านซากปรักหักพังของโรงพยาบาลในเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อม เพื่อส่งตัวเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง นพ. ติมัวร์ มาริน ศัลยแพทย์ผู้รักษาสตรีมีครรภ์คนดังกล่าว เผยว่า เหตุโจมตีโรงพยาบาลทำให้ผู้เป็นแม่ได้รับบาดเจ็บจากกระดูกเชิงกรานหักและสะโพกหลุด คณะแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าคลอด แต่พบว่าทารกไม่หายใจแล้ว ต่อมา คณะแพทย์ได้พยายามเร่งช่วยชีวิตของสตรีมีครรภ์เป็นเวลากว่า 30 นาที แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของทางการรัสเซีย ซึ่งถูกทั่วโลกประณามว่าก่ออาชญากรรมสงคราม อ้างว่า โรงพยาบาลแม่และเด็กถูกกลุ่มหัวรุนแรงของยูเครนยึดไว้เป็นที่ตั้งฐานทัพโดยไม่มีผู้ป่วยหรือคณะแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่สถานทูตรัสเซียประจำอังกฤษอ้างผ่านทวิตเตอร์ว่าภาพถ่ายเกี่ยวกับเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นข่าวปลอม ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกทวิตเตอร์ลบทิ้งเมื่อวันศุกร์.-สำนักข่าวไทย

“หมอยง”วัคซีนที่ใช้ทั่วโลกช่วยลดรุนแรง-เสียชีวิต

“หมอยง”เชื้อเดลตา ทำวัคซีนทั่วโลกประสิทธิภาพลดลง แต่ยังสามารถลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้ แนะเร่งฉีดกลุ่มเสี่ยง-สตรีมีครรภ์ ระบุกำลังศึกษาวิจัยการฉีดเข็ม 3 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

บราซิลระงับฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาให้แก่สตรีมีครรภ์

บราซิเลีย/รีโอเดจาเนโร 11 พ.ค. – บราซิลประกาศระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาให้แก่สตรีที่ตั้งครรภ์ทั่วประเทศ หลังพบสตรีมีครรภ์ในรัฐรีโอเดจาเนโรเสียชีวิตจากภาวะหลอดเลือดสมองแตกที่อาจมีความเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขบราซิลเผยว่า คำสั่งระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวมีขึ้นเพื่อใช้เป็นมาตรการป้องกัน หลังอันวิซา (Anvisa) ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมด้านสุขภาพของบราซิล ประกาศคำเตือนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาให้แก่สตรีมีครรภ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะนี้ ทางการบราซิลกำลังสืบสวนกรณีเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ คำสั่งระงับฉีดวัคซีนมีผลบังคับใช้เฉพาะวัคซีนของแอสตราเซเนกา โดยที่บราซิลยังคงใช้วัคซีนของซิโนแวกและไฟเซอร์ดังเดิม รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐรีโอเดจาเนโรระบุว่า สตรีตั้งครรภ์ในรัฐรีโอเดจาเนโรเสียชีวิตหลังได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ขณะที่อันวิซาเผยว่า หญิงคนดังกล่าวอายุ 35 ปี ตั้งครรภ์ได้ 23 สัปดาห์ และเสียชีวิตจากภาวะหลอดเลือดสมองแตกเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อ 5 วันก่อน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงของภาวะหลอดเลือดสมองแตกได้รับการประเมินว่า อาจมีความเชื่อมโยงจากกรณีที่หญิงคนดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ในขณะเดียวกัน แอสตราเซเนการะบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทไม่ได้รวมกลุ่มสตรีมีครรภ์และสตรีที่ให้นมบุตรไว้ในการทดลองทางคลินิกของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ผลการศึกษาในสัตว์ไม่มีข้อบ่งชี้ถึงอันตรายทั้งทางตรงและทางอ้อมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์หรือพัฒนาการของทารกในครรภ์.-สำนักข่าวไทย

เผยหลายกระทรวงในอินโดนีเซียไม่รับคนท้อง คนพิการ คนหลากหลายทางเพศ

ผู้ตรวจการรัฐสภาอินโดนีเซียเผยว่า หลายกระทรวงไม่รับสมัครสตรีมีครรภ์ ผู้ทุพพลภาพและผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้าทำงาน

ชัวร์ก่อนแชร์ : หญ้าพันงู รักษาโรคไตเบาหวาน เกาต์ จริงหรือ ?

บนสังคมออนไลน์แชร์บทความที่บอกว่าสมุนไพรต้น “หญ้าพันงู” สามารถช่วยรักษาโรคนิ่ว โรคไต โรคเบาหวาน โรคเกาต์ ได้ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

อินเดียแจ้งไข้ซิการะบาด

อินเดียแจ้งไข้ซิการะบาด เพราะพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว 80 คนตั้งแต่เดือนก่อน ในจำนวนนี้ 22 คนเป็นสตรีมีครรภ์ในรัฐราชสถาน

แนะรัฐเร่งยกเลิก ใช้สาร”พาราควอต” กำจัดอาหารอาบสารพิษ

ในเวทีเสวนาเผยข้อมูลพิษของยาฆ่าหญ้าพาราควอต ผลวิจัยพบเสี่ยงเป็นโรคผิวหนัง พาร์กินสัน ระบบประสาทเชื่อมโยงสตรีมีครรภ์และทารกแรกเกิด เร่งรัฐบาลฟันธงยกเลิกการนำเข้า

ทดสอบแอปคนท้องขอที่นั่งบนรถไฟใต้ดินโตเกียว

บริษัทไอทีแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นทดสอบแอปพลิเคชั่นให้สตรีมีครรภ์ขอที่นั่งบนรถไฟฟ้าใต้กรุงโตเกียวที่ขึ้นชื่อเรื่องแน่นขนัดจากผู้โดยสารที่พร้อมสละที่นั่งให้

รัฐบาลอินเดียแนะสตรีมีครรภ์งดเนื้อสัตว์และเพศสัมพันธ์

รัฐบาลอินเดียมีคำแนะนำหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ และงดมีเพศสัมพันธ์

ผลศึกษาเบื้องต้นชี้ซิกาทำให้ทารกศีรษะเล็กแต่กำเนิดจริง

ผลการศึกษาเบื้องต้นในบราซิลยืนยันว่า มีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการติดเชื้อไวรัสซิกาในสตรีมีครรภ์กับการที่ทารกสมองเสียหายเพราะมีศีรษะเล็ก

1 2
...