ไฟป่าในสหรัฐยังลุกลามหนักเพราะอากาศแปรปรวน
ออริกอน 19 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของสหรัฐ ต้องเผชิญกับอันตรายที่เพิ่มขึ้นจากกระแสลมแปรปรวนและสภาพป่าที่แห้งแล้งในรัฐออริกอน เมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่พวกเขาพยายามควบคุมไฟป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐในกลุ่มไฟป่าที่กำลังลุกลามในหลายพื้นที่รัฐทางตะวันตกของสหรัฐ ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ที่ทวีความรุนแรงขึ้น กลายเป็นหนึ่งในไฟป่าครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของรัฐออริกอน และกำลังเผาผลาญพื้นที่กว่า 1,210 ตารางกิโลเมตร ซึ่งกินพื้นที่ขนาดใกล้เคียงกับขนาดของนครลอสแอนเจลิสในรัฐแคลิฟอร์เนีย ไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ทางเหนือของชายแดนรัฐแคลิฟอร์เนีย และควบคุมเพลิงไหม้ได้เพียงร้อยละ 25 เท่านั้น ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาหลายรายคาดการณ์ว่า สภาพอากาศที่เอื้อให้เกิดไฟป่ารุนแรงจะยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวไปจนถึงวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น และอาจเกิดฟ้าผ่าในรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่ทางใต้ของรัฐออริกอน ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ ในนครแซคราเมนโตของรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า สภาพอากาศที่แห้งแล้งและฟ้าผ่า ทำให้มีโอกาสเกิดไฟป่าครั้งใหม่ได้ ในขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นได้สั่งให้ประชาชนจำนวนมากอพยพออกจากพื้นที่ไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงประชาชนราว 2,000 คน ที่อาศัยอยู่ในย่านชนบทริมทะเลสาบ และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่อยู่ใกล้ไฟป่าบูตเลกที่เผาผลาญบ้านเรือน 67 หลัง และสิ่งปลูกสร้าง 100 หลัง สภาพอากาศที่แห้งแล้งและคลื่นความร้อนรุนแรงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดไฟป่าที่ยากต่อการควบคุม ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐมีอุณหภูมิสูงขึ้นและแห้งแล้งมากขึ้นในรอบ 30 ปี และจะทำให้สภาพอากาศเลวร้าย เกิดไฟป่าบ่อยขึ้น และสร้างความเสียหายมากขึ้นเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย