คณะภาคีฯ มรดกโลกสำรวจผืนป่ากุยบุรี “ซาฟารีเมืองไทย”
ประจวบคีรีขันธ์ 23 ก.ย.- รองผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์และเครือข่ายอนุรักษ์ฯ สรุปข้อมูลรอบด้านแผนจัดการเชิงนิเวศป่ากุยบุรีหรือ “ซาฟารีเมืองไทย” เสนอภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกลงพื้นที่สัมผัสข้อเท็จจริง นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานมูลนิธิช้างป่าบ้านพ่อ และประธานเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี (POWER of Kuiburi) พร้อมด้วยนายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตคิวบา เอกอัครราชทูตคูเวต และกงสุลสเปนประจำประเทศไทย คณะทูตานุทูตรัฐภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะหน่วยประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก นำข้อมูลเข้าที่ประชุม เพื่อเสนอให้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เข้ารับการพิจารณาเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ นายพงษ์พันธ์ และตัวแทนเครือข่ายอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี ได้บรรยายสรุปการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่ออนุรักษ์ช้างป่า รวมถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า การจัดการทุ่งหญ้าสำหรับสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จากนั้นเอกอัครราชทูตและคณะฯ เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ทุ่งหญ้าแหล่งอาหารสัตว์ และกิจกรรมชมสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ โดยเฉพาะโขลงช้างป่าและโขลงกระทิงของป่ากุยบุรีจนได้รับการขนานให้เป็น “ซาฟารีเมืองไทย” และเป็นสถานที่ชมสัตว์ป่าที่ได้รับความนิยมในระดับเอเชีย.-สำนักข่าวไทย