นักศึกษาหญิง

ลัคเนา 15 ก.พ. – กลุ่มชายหลายสิบคนในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดและตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย ออกมาชุมนุมสนับสนุนคำสั่งห้ามสวมฮิญาบในชั้นเรียน หลังกลุ่มนักศึกษาหญิงมุสลิมในอินเดียเพิ่งประท้วงคัดค้านคำสั่งห้ามสวมฮิญาบในชั้นเรียนที่รัฐกรณาฏกะเมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มชายอินเดียหลายสิบคนได้เดินทางไปยังวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขตอลีครห์ของรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกรุงนิวเดลี เพื่อยื่นหนังสือคำร้องให้เจ้าหน้าที่หาทางออกคำสั่งห้ามสวมฮิญาบในชั้นเรียนโดยเด็ดขาด ผู้อำนวยการของวิทยาลัยดังกล่าวระบุว่า กลุ่มชายเหล่านี้สวมผ้าคลุมพันรอบคอ ซึ่งเป็นการแต่งกายของชาวฮินดู แต่เขาไม่รู้จักคนกลุ่มนี้ ปัจจุบันวิทยาลัยไม่อนุญาตให้สวมเครื่องแต่งกายทางศาสนาในชั้นเรียน แต่สามารถแต่งกายลักษณะเช่นนั้นนอกห้องเรียนได้ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อสองปีก่อนเคยเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว และกำลังเกิดซ้ำขึ้นอีกครั้งในตอนนี้ อย่างไรก็ดี วิทยาลัยยังคงไม่อนุญาตให้นักศึกษาสวมเครื่องแต่งกายทางศาสนาในชั้นเรียน เพราะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกายสำหรับทุกคนที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ ทางการรัฐกรณาฏกะที่อยู่ทางตอนใต้ของอินเดียได้สั่งปิดการเรียนการสอนในวิทยาลัยหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังออกนโยบายใหม่ที่ห้ามไม่ให้นักศึกษาสวมฮิญาบในชั้นเรียน จนทำให้นักศึกษาหญิงชาวมุสลิมออกมาชุมนุมคัดค้านคำสั่งดังกล่าวและปะทะกับกลุ่มนักศึกษาชาวฮินดู ทั้งนี้ ชาวมุสลิมในอินเดียระบุว่า คำสั่งห้ามสวมฮิญาบเป็นการกดทับประชากรมุสลิมในอินเดียที่มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 13 ซึ่งต่างจากประชากรฮินดูที่มีสัดส่วนมากที่สุดในอินเดีย จากประชากรทั้งหมด 1,350 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

คาบูล 7 ก.ย. – นักศึกษาชาวอัฟกานิสถานทั่วประเทศเริ่มกลับไปเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันประกาศยึดอำนาจการปกครองประเทศ โดยที่มหาวิทยาลัยบางแห่งใช้ม่านกั้นกลางห้องเรียนเพื่อแยกนักศึกษาหญิงกับชายออกจากกัน อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในหลายเมืองใหญ่ของอัฟกานิสถาน เช่น กรุงคาบูล เมืองกันดาฮาร์ และเมืองเฮรัต เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า นักศึกษาหญิงถูกแยกออกจากนักศึกษาชายในห้องเรียน สอนแยก หรือจำกัดให้อยู่ในพื้นที่บางส่วนของมหาวิทยาลัยเท่านั้น นักศึกษาหญิง วัย 21 ปี ของมหาวิทยาลัยคาบูลที่กลับมาเรียนในห้องที่มีม่านกั้นระหว่างนักศึกษาชายกับหญิง กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เธอรู้สึกแย่มากเมื่อเข้าห้องเรียน และคิดว่าอัฟกานิสถานกำลังถอยหลังกลับไปอยู่ในสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งยังระบุว่า ก่อนที่กลุ่มตาลีบันยึดอำนาจปกครองประเทศ นักศึกษาหญิงสามารถนั่งเรียนในห้องเดียวกับนักศึกษาชายซึ่งมีการนั่งแยกจากกัน แต่ไม่มีการใช้ม่านกั้นกลางห้องอย่างชัดเจนเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ สมาคมมหาวิทยาลัยเอกชนของอัฟกานิสถานได้เผยแพร่เอกสารที่กำหนดข้อปฏิบัติต่าง ๆ ในการเปิดเรียน เช่น การบังคับให้นักศึกษาหญิงต้องสวมฮิญาบและการทำทางเข้ามหาวิทยาลัยแยกต่างหากสำหรับนักศึกษาหญิง ทั้งยังระบุว่า มหาวิทยาลัยควรให้อาจารย์ผู้หญิงเป็นผู้สอนนักศึกษาหญิงเท่านั้น และควรแยกสอนนักศึกษาหญิงต่างหาก ทำการสอนเป็นกลุ่มย่อย หรือใช้ม่านกั้นในห้องเรียนเพื่อแยกนักศึกษาหญิงกับชาย อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นนโยบายอย่างเป็นทางการที่มาจากกลุ่มตาลีบันหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มตาลีบันเผยว่า การใช้ฉากกั้นนักศึกษาหญิงกับชายในห้องเรียน เช่น การใช้ผ้าม่าน เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เนื่องจากอัฟกานิสถานมีทรัพยากรและบุคลากรอย่างจำกัด วิธีดังกล่าวจึงทำให้อาจารย์หนึ่งคนสามารถสอนได้ทั้งนักศึกษาชายและหญิง.-สำนักข่าวไทย