ปากีสถานชี้กลุ่มติดอาวุธต้องการหยุดยั้งความร่วมมือกับจีน
นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุหลายครั้งในแคว้นบาโลชิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ต้องการหยุดยั้งโครงการพัฒนาที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับจีน
นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุหลายครั้งในแคว้นบาโลชิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ต้องการหยุดยั้งโครงการพัฒนาที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับจีน
เนปิดอว์ 30 พ.ค.- รายงานของกลุ่มนานาชาติ 2 กลุ่มระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเสียการควบคุมพื้นที่เป็นวงกว้าง รวมถึงการเข้าถึงพรมแดนระหว่างประเทศ เปิดทางให้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มแผ่อิทธิพลควบคุมพื้นที่ได้มากขึ้น คณะกรรมการที่ปรึกษาพิเศษเพื่อเมียนมา (SAC-M) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติที่รวมตัวกันรายงานและวิเคราะห์สถานการณ์ในมียนมาหลังการรัฐประหารปี 2564 ออกรายงานประเมินในวันนี้ว่า รัฐบาลเมียนมาสูญเสียการควบคุมเมืองต่าง ๆ คิดเป็นร้อยละ 86 ของพื้นที่ทั้งประเทศ และเป็นที่อาศัยของประชากรร้อยละ 67 ของประชากรทั้งประเทศ 55 ล้านคน โดยได้ละทิ้งพื้นที่สำคัญและถูกบีบให้ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับในพื้นที่ที่รัฐบาลยังควบคุมอยู่ในเวลานี้ ขณะเดียวกันไครซิสกรุ๊ป ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรออกรายงานประเมินว่า กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่มีชัยชนะทางทหารหลายครั้งกำลังรวบรวมการควบคุมพื้นที่ที่แผ่ขยายกว้างขึ้น และหลายกลุ่มกำลังเดินหน้าไปสู่การตั้งรัฐปกครองตนเอง การที่กองทัพสูญเสียพื้นที่มากขึ้นและกลุ่มผู้ปกครองชนชั้นนำไม่พอใจมากขึ้นได้ทำให้อนาคตทางการเมืองของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำคนปัจจุบันตกอยู่ในความไม่แน่นอน แม้ว่าเขาได้ตั้งเจ้าหน้าที่ที่จงรักภักดีให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงก็ตาม รายงานของทั้ง 2 กลุ่มนี้เสนอแนะว่า เนื่องจากรัฐบาลเมียนมากำลังสูญเสียการควบคุมพรมแดนเกือบทั้งหมดของประเทศ และองค์การการปกครองที่ไม่ใช่รัฐมีแนวโน้มจะแผ่ขยายมากขึ้น ประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา กลุ่มระดับภูมิภาค และประชาคมโลกจึงควรเพิ่มการติดต่อประสานงานกับกลุ่มต่อต้านและภาคประชาสังคม เพื่อเร่งจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนชาวเมียนมา ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่า มีชาวเมียนมากลายเป็นคนพลัดถิ่นในประเทศมากเป็นประวัติการณ์ คนกว่า 3 ล้านคนต้องอพยพเพราะการสู้รบที่ทวีความรุนแรงขึ้น.-814.-สำนักข่าวไทย
แบกแดด 5 ก.พ.- กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มในอิรักเรียกร้องให้สหรัฐถอนกำลังทหารออกจากอิรัก หลังจากสหรัฐใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรัก ขณะที่กองกำลังติดอาวุธในอิรักประกาศจะดำเนินการต่อต้านกำลังพลสหรัฐ สหรัฐได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับกลุ่มฮาชด์ ชาบี ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธทางตะวันตกของอิรักเมื่อคืนวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน บาดเจ็บ 36 คน นายโมห์เซน อัล-มันดาลาวี รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ของอิรักเดินทางไปยังจังหวัดอันบาร์ที่เป็นเป้าหมายโจมตีของสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ และเรียกร้องให้รัฐสภาเร่งดำเนินการตามมติที่เรียกร้องให้ถอนกองกำลังต่างชาติทั้งหมดออกจากอิรัก ขณะที่นายฟูอัด ฮุสเซน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศอิรักกล่าวระหว่างพบกับเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป แคนาดา บราซิล และออสเตรเลียว่า การโจมตีของสหรัฐได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินในอิรัก รัฐบาลอิรักไม่อนุญาตให้ใช้ดินแดนของอิรักเป็นสนามรบระหว่างประเทศที่เป็นปรปักษ์กัน และอิรักไม่ใช่สถานที่ให้ประเทศเหล่านี้ใช้เป็นที่แลกเปลี่ยนสารหรือแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ด้านนายฟาลีห์ อัล-ฟายัดห์ ประธานกลุ่มฮาชด์ ชาบีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐที่โจมตีทางกลุ่มถือว่ากำลังเล่นกับไฟ ขอเตือนฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าทำสิ่งอันตรายลักษณะเดียวกัน พร้อมกับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอิรักปกป้องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของอิรัก ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นจนกว่ากองกำลังต่างชาติจะออกจากดินแดนของอิรัก และเรียกร้องให้ขจัดความเป็นต่างชาติทุกอย่างออกจากอิรัก ส่วนกลุ่มต่อต้านแห่งอิสลามที่เป็นกองกำลังติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งในอิรักประกาศว่า จะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับกำลังพลสหรัฐจนกว่าจะ ถอนตัวออกไปจากอิรัก.-814.-สำนักข่าวไทย
ประชาชน 5 คนในเมืองของจีนที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนเมียนมา ได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้ จากกระสุนลูกหลงจากปืนใหญ่ข้ามชายแดนมาจากเมียนมา ในขณะที่การสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องแม้จะมีการเจรจากันก็ตาม
ย่างกุ้ง 5 ธ.ค.- สื่อทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายของเมียนมาเรียกร้องให้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่กำลังสู้รบกับกองทัพทั่วประเทศ หาทางออกด้วยวิถีทางการเมือง หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมารายงานว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายเตือนว่า หากองค์กรติดอาวุธยังคงโง่เขลาต่อไป ผู้อาศัยในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องจะได้รับผลกระทบที่เลวร้าย ดังนั้นองค์กรเหล่านี้จึงต้องคำนึงถึงชีวิตของประชาชน และต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยวิถีทางการเมือง เมียนมามีกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธมากกว่าสิบกลุ่ม ส่วนใหญ่ยึดครองดินแดนบริเวณชายแดน และสู้รบกับกองทัพตั้งแต่ประเทศได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มจับมือกันเปิดฉากโจมตีที่ตั้งทางทหารทั่วรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมในปฏิบัติการ Operation1027 ยึดเมืองและแหล่งการค้าสำคัญบริเวณชายแดนด้านติดกับจีน สหประชาชาติคาดว่า มีพลเรือนมากกว่า 250 คน เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าว และมีคนพลัดถิ่นทั่วเมียนมามากกว่า 500,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย
เล่าก์ก่าย 16 พ.ย.- เมืองเล่าก์ก่าย เมืองเอกของเขตปกครองตนเองโกก้าง ในรัฐฉานของเมียนมากลายเป็นเมืองร้าง เมื่อผู้คนแห่หนีการสู้รบของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธกับกองทัพเมียนมา ผู้คนหลั่งไหลเดินทางออกนอกเมืองนี้ที่มีพรมแดนติดกับจีน เพื่อหนีกองกำลังพันธมิตรกลุ่มชาติพันธุ์ที่กำลังคืบเข้ามาใกล้ คนงานก่อสร้างคนหนึ่งเผยว่า หนีออกจากเมืองตั้งแต่สัปดาห์ก่อน หลังจากนายจ้างไม่มีอาหารให้มาร่วม 2 สัปดาห์เพราะข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นมาก ช่างซ่อมรถยนต์คนหนึ่งเผยว่า ผู้คนพากันพักค้างแรมข้างทาง ทุกคนหวาดกลัวมากเพราะมีการยิงปืนใหญ่ออกมาจากเมืองเล่าก์ก่าย หลังจากกองทัพเริ่มใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เล่าก์ก่ายขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งการพนัน การค้าประเวณี และการหลอกลวงทางออนไลน์ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารปัจจุบันสร้างชื่อจากการขับไล่กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาหรือเอ็มเอ็นดีเอเอ (MNDAA) พ้นจากเมืองนี้ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารระดับภูมิภาคในปี 2562 แต่ขณะนี้กลุ่มนี้กำลังรุกคืบกลับเข้ามายังเมืองนี้อีกครั้ง นักวิเคราะห์ระบุว่า กองทัพเมียนมาได้ตั้งกลุ่มติดอาวุธขึ้นในเมืองนี้ ซึ่งร่ำรวยจากการผลิตยาเสพติด ดำเนินธุรกิจพนันและค้าประเวณีรองรับผู้ที่ข้ามพรมแดนมาจากฝั่งจีน ธุรกิจล่าสุดคือการเป็นศูนย์หลอกลวงออนไลน์ที่นำคนจากจีนและหลายประเทศมาบังคับทำงานหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติ สหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยในปีนี้ว่า อาจมีคนอย่างน้อย 120,000 คนถูกกักตัวไว้ตามศูนย์เหล่านี้.-สำนักข่าวไทย
นิวยอร์ก 16 พ.ย.- นายอันโตนีโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น มีความกังวลอย่างยิ่งต่อความขัดแย้งในเมียนมาที่ขยายวงกว้าง หลังจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเปิดฉากโจมตีกองทัพเมื่อเดือนตุลาคม โฆษกเลขาธิการยูเอ็นแถลงเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า นายกูแตร์เรสมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความขัดแย้งในเมียนมาที่ขยายวงกว้าง ทำให้มีคนพลัดถิ่นมากกว่า 200,000 คน การสู้รบในเมียนมารุนแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม เมื่อกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาหรือเอ็มเอ็นดีเอเอ (MNDAA) กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือทีเอ็นแอลเอ (TNLA) และกองทัพอาระกันหรือเอเอ (AA) เปิดฉากโจมตีกองทัพในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาที่มีพรมแดนติดกับจีน และเมื่อไม่กี่วันก่อนเอเอได้เปิดฉากโจมตีกองทัพในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตก ขณะที่กลุ่มนักรบต่อต้านรัฐบาลในรัฐคะยาที่มีพรมแดนติดกับไทยกำลังสู้รบกับกองทัพใกล้เมืองลอยก่อ (Loikaw) ที่เป็นเมืองเอกของรัฐ สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือโอซีเอชเอ (OCHA) อ้างรายงานเบื้องต้นจากภาคสนามว่า มีพลเรือนถูกสังหารอย่างน้อย 75 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย และมีคนได้รับบาดเจ็บ 94 คน.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของจีนกล่าวเรียกร้องให้เมียนมาร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพที่ชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ หลังจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่รบกับรัฐบาลทหารเมียนมา สามารถยึดฐานที่มั่น
จีนกล่าววันนี้เรียกร้องให้หยุดยิงในทันทีทางภาคเหนือของเมียนมาที่กลุ่มชาติพันธุ์ปะทะกับทหารเมียนมา หลังจากที่กองทัพเมียนมา กล่าวว่า สูญเสียการควบคุมเมืองทางยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือที่อยู่ติดกับชายแดนประเทศจีน จากการปะทะกับกลุ่มติดอาวุธ 3 กลุ่มที่เป็นชนกลุ่มน้อย
พรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน หรือ พีเคเค ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดและเป็นกลุ่มนอกกฎหมายในตุรกี ประกาศว่าจะระงับปฏิบัติการเป็นการชั่วคราว หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกีและซีเรีย
อิสตันบูล 14 พ.ย.- ตำรวจตุรกีหรือทูร์เคียเผยว่า จับกุมสตรีชาวซีเรียคนหนึ่งข้อหาวางระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คนบนถนนย่านชอปปิงในนครอิสตันบูล และว่าเธอทำงานให้กลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด สถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี (NTV) ที่เป็นของเอกชนในตุรกีรายงานอ้างตำรวจว่า สตรีรายนี้มีสัญชาติซีเรีย เธอรับสารภาพว่ารับคำสั่งมาจากพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานหรือพีเคเค (PKK) ที่ถูกตุรกีและพันธมิตรตะวันตกขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้าย ด้านรอยเตอร์รายงานว่า ตำรวจอิสตันบูลเผยว่า ควบคุมผู้ต้องสงสัยพัวพันกับเหตุระเบิดแล้ว 46 คน รวมสตรีชาวซีเรียที่ต้องสงสัยเป็นคนวางระเบิด เธอให้ปากคำเบื้องต้นว่า รับการฝึกจากกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในซีเรีย และเดินทางเข้าตุรกีผ่านภูมิภาคอัฟริน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย.-สำนักข่าวไทย
กูวาฮาตี 5 ธ.ค.- รัฐนากาแลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียประกาศจะสอบสวนและลงโทษผู้ทำให้เกิดเหตุกองทัพยิงด้วยความเข้าใจผิดในพื้นที่ห่างไกล ทำให้มีพลเรือนที่เป็นชนเผ่า 14 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง 1 นายเสียชีวิต มุขมนตรีรัฐนากาแลนด์กล่าวว่า จะสอบสวนและลงโทษผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ดังกล่าวที่เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดด้านข่าวกรอง ขณะที่นายอามิต ชาห์ รัฐมนตรีมหาดไทยอินเดียเผยว่า เจ็บปวดมากที่ทราบข่าวพลเมืองถูกยิงเสียชีวิตในเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมคนหนึ่งเผยว่า พลเรือนสิบกว่าคนและสมาชิกกองกำลังความมั่นคงจำนวนหนึ่งบาดเจ็บจากเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในและรอบหมู่บ้านที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา เหตุเกิดขึ้นในระหว่างที่สมาชิกกองปืนยาวอัสสัมกำลังปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในพื้นที่ดังกล่าว ตามที่ได้รับข่าวกรองว่ากลุ่มติดอาวุธเคลื่อนไหวในบริเวณนั้น และเห็นรถบรรทุกคันหนึ่งแล่นผ่านที่ตั้งแคมป์ จึงเปิดฉากยิงใส่ด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธ เป็นเหตุให้แรงงานเหมือนถ่านหินเสียชีวิต 6 คน จากที่อยู่บนรถรวมกว่า 30 คน ต่อมาข่าวได้แพร่สะพัดไปยังหมู่บ้านชนเผ่า จึงแห่กันมาล้อมที่ตั้งแคมป์ และเกิดการปะทะกัน เป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิต 8 คน ส่วนเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย รอยเตอร์รายงานว่า ชาวบ้านในรัฐนากาแลนด์ร้องเรียนอยู่บ่อยครั้งว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงมักโจมตีผู้บริสุทธิ์อย่างผิดพลาดในระหว่างปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย โดยในช่วงหลายปีมานี้ทางการอินเดียพยายามเกลี้ยกล่อมเมียนมาให้ผลักดันกลุ่มติดอาวุธพ้นจากแหล่งกบดานที่มีพรมแดนติดกับรัฐนากาแลนด์ รัฐมณีปุระ และรัฐอรุณาจัลประเทศของอินเดีย.-สำนักข่าวไทย