การฝ่าฝืนคำสั่งห้ามจุดประทัดในเทศกาลดิวาลีทำให้คุณภาพอากาศย่ำแย่
กรุงนิวเดลี ของอินเดียติดอันดับ 1 ของการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกในวันนี้ หลังจากที่บรรดาผู้เข้าร่วมงานฉลองเมินคำสั่งห้ามจุดประทัดเพื่อฉลองเทศกาลดิวาลี
กรุงนิวเดลี ของอินเดียติดอันดับ 1 ของการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกในวันนี้ หลังจากที่บรรดาผู้เข้าร่วมงานฉลองเมินคำสั่งห้ามจุดประทัดเพื่อฉลองเทศกาลดิวาลี
คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลีของอินเดียในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลดิวาลี เทศกาลแห่งแสงไฟของชาวฮินดู อยู่ระดับ 330 เป็นระดับอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง
นายกฯ พร้อมเปิดงาน “ดิวาลี” ลิตเติ้ลอินเดีย กระตุ้นท่องเที่ยวไทย
มุขมนตรีภูมิภาคเดลีของอินเดีย ซึ่งรวมถึงกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ เตรียมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพอากาศตามโรงงานและสถานที่ก่อสร้างต่างๆ
นิวเดลี 25 ต.ค.- สภาพอากาศในกรุงนิวเดลีของอินเดียเช้าวันนี้วัดปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ได้มากกว่าวันก่อนถึง 3 เท่า เนื่องจากผู้คนเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลีเมื่อวันจันทร์ด้วยการจุดดอกไม้ไฟ ทั้งที่ทางการสั่งห้ามและขู่จำคุก ไอคิวแอร์ (IQAir) ซึ่งบริษัทเฝ้าติดตามคุณภาพอากาศของสวิตเซอร์แลนด์เผยว่า ปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในกรุงนิวเดลีเช้าวันนี้มีตัวเลขดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 350 สูงกว่าวันจันทร์ถึง 3 เท่า และสูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัยขององค์การอนามัยโลกถึง 23 เท่า ก่อนจะลดลงเหลือ 145 ในช่วงเที่ยง แต่ก็ยังสูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกเกือบ 10 เท่า ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถแทรกเข้าไปในเซลล์ปอดและกระแสเลือด ทางการกรุงนิวเดลีประกาศตั้งแต่เดือนกันยายนห้ามจำหน่ายและจุดดอกไม้ไฟ ผู้ฝ่าฝืนจะถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน แต่คนในกรุงนิวเดลีที่มีประชากรประมาณ 20 ล้านคนยังคงซื้อหามาจุดได้ตามปกติ ควันจากดอกไม้ไฟ ร่วมกับการเผาพื้นที่ทางการเกษตรในฤดูหนาวและการปล่อยไอเสียจากยวดยานและโรงงาน ทำให้ชาวอินเดียเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเป็นจำนวนมาก นิตยสารการแพทย์แลนเซ็ตของอังกฤษออกรายงานในปี 2563 ว่า มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตคนในกรุงนิวเดลีเกือบ 17,500 คนในปี 2562 ขณะที่ไอคิวแอร์ระบุในรายงานปี 2563 ว่า เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก 30 แห่ง […]
ชาวอินเดียทั่วประเทศออกมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
นิวเดลี 25 ต.ค.- คนทั่วอินเดียพากันดีใจกับนายริชี ซูนัค ชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียที่เตรียมตัวจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษในวันนี้ หลังจากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมที่เป็นพรรครัฐบาลโดยไร้คู่แข่งเมื่อวันจันทร์ สถานีโทรทัศน์และสื่อสังคมออนไลน์ในอินเดียเต็มไปข่าวการแสดงความยินดีกับซูนัค อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษวัย 42 ปี ที่จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเชื้อสายเอเชียคนแรกของอังกฤษ ชาวอินเดียบางคนมองว่า เป็นความภาคภูมิใจของอินเดีย เพราะลูกหลานชาวอินเดียได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศที่เคยปกครองอินเดียมายาวนาน บางคนมองว่า การที่เขาได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลอังกฤษเมื่อวันจันทร์ ซึ่งตรงกับวันฉลองเทศกาลดิวาลีที่มีความสำคัญของประเทศ ถือเป็นโอกาสพิเศษอย่างยิ่ง เพราะเป็นปีที่อินเดียฉลองการมีเอกราชเป็นที่ 75 นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียทวีตแสดงความยินดีกับซูนัค และอวยพรวันดิวาลีให้แก่ชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียทุกคนที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมที่มีชีวิต เพราะความสัมพันธ์สมัยประวัติศาสตร์กำลังจะปรับเปลี่ยนไปเป็นความเป็นหุ้นส่วนที่ทันสมัย ครอบครัวของซูนัคมีภูมิลำเนาอยู่ในรัฐปัญจาบก่อนที่มีการแยกเป็นอินเดียและปากีสถาน หลังจากอังกฤษให้เอกราชในปี 2490 จากนั้นได้ย้ายไปอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 และลงหลักปักฐานในสหราชอาณาจักรช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 ซูนัคเกิดที่เมืองเซาท์แฮมป์ตัน ริมฝั่งทางใต้ของอังกฤษในปี 2523 ขณะที่อัคชาตา มูรตี ภรรยาวัยเดียวกันของเขาก็มีเชื้อสายอินเดียเช่นเดียวกัน เธอเป็นบุตรสาวของเอ็น อาร์ นารายานะ มูรตี ผู้ก่อตั้งอินโฟซีส บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอินเดีย ซูนัคประกาศตัวต่อสาธารณะมาโดยตลอดเรื่องมีเชื้อสายอินเดีย เรื่องไม่รับประทานเนื้อวัวตามความเชื่อของฮินดู และเรื่องรักในกีฬาคริกเกต.-สำนักข่าวไทย
นิวเดลี 24 ต.ค.- ชาวอินเดียที่เป็นฮินดูเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี (Diwali) ในวันนี้ ด้วยการจุดตะเกียงน้ำมันดินเผา และประดับไฟสีสันสดใสตามบ้านเรือนและถนนหนทางทั่วประเทศ เป็นเทศกาลที่เป็นสัญลักษณ์เรื่องแสงสว่างมีชัยเหนือความมืด เทศกาลดิวาลีเป็นวันหยุดราชการระดับประเทศ ผู้คนในอินเดียจะพบปะสังสรรค์กัน มอบของขวัญให้แก่กัน และในตอนเย็นจะมีพิธีสวดบูชาพระแม่ลักษมี เทวีแห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง ส่วนเมื่อค่ำวานนี้ มีการจุดตะเกียงน้ำมันดินเผามากกว่า 1 ล้าน 5 แสนดวง ให้สว่างไสวเป็นเวลานาน 45 นาทีตลอดริมฝั่งแม่น้ำสรภูในเมืองอโยธยา รัฐอุตตระประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย เจ้าหน้าที่เผยว่า มีอาสาสมัครมากกว่า 22,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา มาช่วยดูแลไฟตะเกียงไม่ให้ดับ หวังทำลายสถิติกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดปี 2564 ที่มีตะเกียงน้ำมันดินเผาสว่างไสวทั้งหมด 900,000 ดวง เอพีระบุว่า ชาวฮินดูมีความเชื่อว่า พระรามเกิดที่เมืองอโยธยา และเดินทางกลับบ้านเกิดหลังจากถูกเนรเทศไปอยู่ในป่านาน 14 ปี จึงจุดตะเกียงต้อนรับการกลับมาของเทพองค์นี้ หลายปีมานี้มีเสียงติงแสดงความกังวลเรื่องมลพิษทางอากาศจากการเฉลิมฉลอง เพราะนอกจากจุดตะเกียงน้ำมันดินเผาแล้ว ยังมีการจุดประทัดและดอกไม้ไฟ ขณะที่พื้นที่ทางเหนือของอินเดียมีปัญหามลภาวะในช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว จากการปล่อยไอเสียของยวดยานและการเผาเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร บางรัฐ รวมถึงกรุงนิวเดลีสั่งห้ามการจุดประทัดและดอกไม้ไฟ แต่ไม่ได้ผลเท่าใดนัก.-สำนักข่าวไทย
กรุงนิวเดลี นครหลวงของอินเดียถูกปกคลุมไปด้วยอากาศพิษในวันนี้ ในขณะที่ระดับมลพิษทางอากาศยังคงอยู่ในระดับสูงที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากชาวอินเดียที่ร่วมฉลองงานเทศกาลเมินคำสั่งห้ามจุดดอกไม้ไฟในระหว่างเทศกาลดิวาลี ที่สำคัญของชาวฮินดู ในขณะที่ชาวนาในรัฐที่อยู่ไกล้เคียงเผาทำลายโคนต้นข้าวที่เหลืออยู่หลังการเก็บเกี่ยว
รัฐบาลอินเดียลดภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซลก่อนถึงเทศกาลสำคัญ หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
ชาวอินเดียทางตอนเหนือของประเทศตื่นมาพบกับหมอกควันพิษหนักกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกในเช้าวันนี้ หลังผ่านพ้นเทศกาลดิวาลีเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากคนจำนวนมากจุดประทัดฉลองทั้งที่ทางการสั่งห้าม
รัฐบาลอินเดียขอร้องให้ประชาชนฉลองเทศกาลดิวาลีอยู่ที่บ้าน ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในกรุงนิวเดลีพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.