bus hit in Sudan bombardments

สงครามในซูดานทวีความรุนแรง สังเวย 127 ชีวิต

คาร์ทูม 11 ธ.ค.- สงครามกลางเมืองในซูดาน ประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังทวีความรุนแรง เมื่อการโจมตีจากกองกำลัง 2 ฝ่ายที่เป็นอริกันได้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 127 คนในเวลาเพียง 2 วัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า ช่วงวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา มีการโจมตีด้วยระเบิดถังน้ำมันและระดมยิงปืนใหญ่จากกองกำลังทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยถึง 127 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ชาวบ้านเปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ได้ระดมยิงปืนใหญ่โจมตีพื้นที่เขตออมเดอร์มัน ในรัฐคาร์ทูม ซึ่งเป็นพื้นที่ในการควบคุมของกองทัพซูดาน กลุ่มทนายความฉุกเฉินในซูดานเปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่บนรถโดยสารอย่างน้อย 14 คน ขณะที่ทางการท้องถิ่นซึ่งอยู่ในการควบคุมของกองทัพเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 65 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนเมื่อวันจันทร์ กองทัพได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่เมืองคับคาบิยาในรัฐดาร์ฟูร์เหนือ ทางตะวันตกของซูดาน สร้างความโกลาหลและสังหารผู้คนมากกว่า 100 คน เป็นอีกหนึ่งวันที่เกิดความสูญเสียหนักที่สุดจากการสู้รบในซูดาน ร่างผู้เสียชีวิตเกลื่อนไปทั่วตลาด ท่ามกลางซากปรักความเสียหายของร้านค้าและแผงลอย สงครามกลางเมืองในซูดานครั้งนี้ มีชนวนเหตุมาจากการแย่งชิงอำนาจของนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพ และเป็นผู้นำรัฐบาลทหารของซูดาน กับนายพลโมฮาเหม็ด ฮัมดัน […]

เขื่อนแตกในซูดาน ตายแล้ว 30 คน

คาร์ทูม 27 ส.ค.- ซูดานประสบวิกฤติเขื่อนแตกหลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดหลายวัน กระแสน้ำได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างน้อย 20 แห่ง  และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 คน แต่สหประชาชาติคาดว่า ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก  เหตุการณ์เขื่อนแตกเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เขื่อนอาร์บัต ทางภาคตะวันออกของซูดาน บ้านเรือนประชาชนราว 50,000 คนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตัวเลขดังกล่าวนับเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเขื่อนเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของเขื่อนยังไม่สามารถเข้าถึงได้ น้ำท่วมในครั้งนี้ยังทำให้ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่เผยว่า เขื่อนเริ่มแตกและมีดินโคลนสะสมในช่วงหลายวันที่ฝนตกหนัก โดยเป็นฝนที่มาเร็วกว่าปกติ เขื่อนแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำหลักของเมืองพอร์ตซูดาน ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลแดงที่กลายเป็นเมืองหลวงโดยพฤตินัยและเป็นฐานที่ตั้งของรัฐบาล หน่วยงานทางการทูต หน่วยงานบรรเทาทุกข์ และผู้พลัดถิ่นในประเทศจำนวนมาก นับตั้งแต่กองทัพและกองกำลังเคลื่อนที่เร็วที่เป็นกองกำลังกึ่งทหารเริ่มสู้รบกันในเดือนเมษายนปีนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายทุ่มสรรพกำลังไปกับการสู้รบ เป็นเหตุให้สาธารณูปโภคสำคัญอย่างเขื่อน ถนน สะพานไม่ได้รับการบูรณะทั้งที่มีสภาพย่ำแย่ตั้งแต่ยังไม่เกิดการสู้รบ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

วิกฤตมนุษยธรรมในซูดานทำอหิวาต์ระบาดหนัก

คาร์ทูม 23 ส.ค.- วิกฤตด้านมนุษยธรรมในซูดาน ซึ่งเป็นประเทศทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาที่ตกอยู่ในภาวะสงคราม ทำให้โรคอหิวาต์หรืออหิวาตกโรคระบาดรุนแรง นพ.ชีเบิล ซาห์บานี ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำซูดานเผยว่า สถานการณ์อหิวาต์แพร่ระบาดทวีความรุนแรงจากวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่เกิดจากสงครามกลางเมือง  เฉพาะเมื่อเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียวพบผู้ป่วยอหิวาต์มากถึง 658 คน ส่วนใหญ่อยู่ในอัล-กาดาริฟและจังหวัดคาสซาลาที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังมีผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในประเทศอยู่ใน 2 จังหวัดนี้เป็นจำนวนมาก องค์การอนามัยโลกกำลังเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วงฤดูฝนด้วยการจัดหาปัจจัยที่จำเป็น รวมทั้งร้องขอวัคซีนป้องกันอหิวาต์เพิ่มเติม โรคติดต่อหลายโรค เช่น อหิวาต์ ตาแดง กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในซูดาน เนื่องมาจากสงครามกลางเมืองที่ยาวนานส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสาธารณสุข ประกอบกับการมีฝนตกหนักและน้ำท่วมประจำปีทำให้เกิดปัญหาสุขอนามัยตามมา นอกจากนี้ซูดานยังเผชิญวิกฤตความหิวโหยครั้งใหญ่ที่สุดในโลก มีประชาชน 25.6 ล้านคนอยู่ในภาวะหิวโหยเฉียบพลัน ระบบสาธารณสุขย่ำแย่เพราะหลายพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปี 2566 โลกมีคนถูกบังคับพลัดถิ่นมากเป็นประวัติการณ์

เจนีวา 13 มิ.ย.- สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) เผยแพร่รายงานว่า นับจนถึงสิ้นปี 2566 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีคนถูกบังคับพลัดถิ่นมากเป็นประวัติการณ์ถึง 117.3 ล้านคน ยูเอ็นเอชซีอาร์ออกรายงานเรื่อง “แนวโน้มโลกเรื่องการพลัดถิ่น” ว่า ตัวเลขผู้ถูกบังคับพลัดถิ่นอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีการแก้ไขทางการเมืองในระดับโลกครั้งใหญ่ โดยพบว่า จำนวนผู้ถูกบังคับพลัดถิ่นเพิ่มขึ้นทุกปีตลอด 12 ปีที่ผ่านมา รายงานประเมินว่า ตัวเลขผู้ถูกบังคับพลัดถิ่นทั่วโลกน่าจะเกิน 120 ล้านคนเมื่อถึงสิ้นเดือนเมษายนปีนี้ คนเหล่านี้มีทั้งผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นในประเทศ ผู้ถูกบังคับพลัดถิ่นเพราะความขัดแย้ง การข่มเหง และความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุว่า สงครามในซูดานที่ดำเนินมาตั้งเดือนเมษายน 2566 เป็นหายนะที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง แต่ได้รับความสนใจน้อยกว่าเหตุการณ์อื่น ข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือไอโอเอ็ม (IOM) ระบุว่า สงครามระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็วได้ทำให้ประชาชนต้องอพยพจากบ้านเรือน 7.26 ล้านคน เพิ่มเติมจากที่พลัดถิ่นอยู่แล้ว 2.83 ล้านคนจากความขัดแย้งหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนที่กาซา สงครามที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ทำให้คน 1.7 ล้านคน […]

คู่ขัดแย้ง “ซูดาน” ตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมง เปิดทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 

กองทัพซูดาน และกองกำลังเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ ตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมง เปิดทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ก่อนหยุดยิงฝ่ายกองทัพซูดานโจมตีพื้นที่ยึดครองของฝ่ายตรงข้าม ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 17 คน

ทั่วโลกมีคนถูกบังคับพลัดถิ่นมากถึง 110 ล้านคน

เจนีวา 14 มิ.ย.- สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) เผยว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีคนถูกบังคับพลัดถิ่นมากเป็นประวัติการณ์ถึง 110 ล้านคน เนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ การเลือกปฏิบัติ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยูเอ็นเอชซีอาร์ระบุในรายงานประจำปีเรื่อง “แนวโน้มโลกเรื่องการบังคับพลัดถิ่น” ว่า สิ้นปี 2565 ทั่วโลกมีคนถูกบังคับพลัดถิ่นทั้งหมด 108 ล้าน 4 แสนคน เพิ่มขึ้น 19 ล้าน 1 แสนคนจากสิ้นปี 2564 ถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 2518 และหลังจากที่เกิดการสู้รบในซูดาน ตัวเลขผู้ถูกบังคับพลัดถิ่นได้เพิ่มเป็น 110 ล้านคนภายในเดือนพฤษภาคม รายงานระบุว่า ผู้ถูกบังคับพลัดถิ่นในปี 2565 ได้ลี้ภัยไปต่างประเทศจำนวน 35 ล้าน 3 แสนคน พลัดถิ่นอยู่ภายในประเทศจำนวน 62 ล้าน 5 แสนคน ขอลี้ภัยจำนวน 5 ล้าน 4 แสนคน และต้องการความคุ้มครองสากลจำนวน 5 […]

เมืองหลวงซูดานสู้รบกันอีกหลังพ้นหยุดยิง

คาร์ทูม 11 มิ.ย.- มีรายงานการสู้รบในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานอีกครั้งในวันนี้ หลังจากข้อตกลงหยุดยิงนาน 24 ชั่วโมงสิ้นสุดลง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังจากข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลงเมื่อเวลา 06:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 11:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยได้เพียงไม่นาน ก็เกิดการสู้รบครั้งใหม่ขึ้นทันทีทางตอนเหนือของเมืองออมดูร์มาน เมืองบาห์รี และกรุงคาร์ทูม ผู้อาศัยในกรุงคาร์ทูมแจ้งว่า มีการยิงปืนใหญ่บริเวณชานเมืองทางฝั่งตะวันออก และมีเสียงระเบิดและการปะทะกันในตัวเมือง กองทัพซูดานและกองหนุนเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหาร เปิดฉากสู้รบตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน เพราะขัดแย้งกันเรื่องแผนการยุบกองกำลังกึ่งทหารตามแผนการเปลี่ยนถ่ายการปกครองไปสู่พลเรือน หลังจากกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ที่ถูกขาดปกครองประเทศมานาน 30 ปี ในปี 2562.-สำนักข่าวไทย

ซูดานประกาศให้ทูตพิเศษยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา”

คาร์ทูม 9 มิ.ย.- รัฐบาลซูดานประกาศให้ทูตพิเศษของสหประชาชาติหรือยูเอ็น เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา กระทรวงต่างประเทศซูดานแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลซูดานได้แจ้งไปยังนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นแล้วว่า ซูดานได้ประกาศให้นายโฟลเกอร์ แพร์ธีส ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการยูเอ็นเรื่องซูดาน เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนานับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การประกาศนี้มีขึ้นหลังจากนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดานส่งหนังสือถึงยูเอ็นเมื่อเดือนพฤษภาคม กล่าวโทษนายแพร์ธีสว่า ทำให้การสู้รบระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารที่ดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายนทวีความรุนแรง และไม่เคารพอธิปไตยของซูดาน จึงขอให้ยูเอ็นปลดจากตำแหน่ง นายแพร์ธีส ชาวเยอรมัน วัย 65 ปี และคณะช่วยเหลือการเปลี่ยนถ่ายอย่างบูรณาการในซูดานของยูเอ็น (UNITAMS) ตกเป็นเป้าโจมตีของกองทัพและผู้ประท้วงในซูดานมาตั้งแต่ปลายปี 2565 ว่า เป็นต่างชาติแทรกแซงซูดาน ขณะนี้เขาปฏิบัติภารกิจอยู่ในกรุงแอดดิสอาบาบาของเอธิโอเปีย คณะช่วยเหลือฯ ตั้งขึ้นในปี 2563 เพื่อช่วยเหลือซูดานเปลี่ยนถ่ายการปกครอง หลังจากประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ที่ผูกขาดปกครองมาตั้งแต่ปี 2532 ถูกโค่นอำนาจในปี 2562 ที่ผ่านมาคณะช่วยเหลือฯ จะได้รับการต่ออายุเป็นรายปี แต่สัปดาห์ที่แล้วคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้ลงมติต่ออายุไปอีก 6 เดือนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

กองทัพซูดานเดินออกจากที่เจรจาหยุดยิง

กองทัพซูดานเดินออกจากสถานที่เจรจาหยุดยิงที่มีสหรัฐและซาอุดีอาระเบียเป็นคนกลาง โดยกล่าวหากองกำลังกึ่งทหารที่เป็นปรปักษ์กันว่า ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้

ยูเอ็นตกใจที่ซูดานขอให้ปลดทูตพิเศษ

นิวยอร์ก 27 พ.ค.- เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็นตกใจที่ผู้บัญชาการกองทัพซูดานขอให้ปลดทูตพิเศษด้านซูดาน โฆษกยูเอ็นแถลงเมื่อเย็นวันศุกร์ตามเวลานิวยอร์กของสหรัฐว่า นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นมีความภูมิใจในผลงานของนายโฟลก์เกอร์ แพร์เธส ทูตพิเศษด้านซูดานของเลขาธิการยูเอ็น และมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในตัวเขา จึงรู้สึกตกใจที่ได้รับจดหมายจากนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชากองทัพซูดานที่ขอให้ปลดนายแพร์เธส นายแพร์เธสและคณะทูตพิเศษในซูดานถูกผู้สนับสนุนกองทัพและผู้เคร่งศาสนาอิสลามประท้วงอยู่หลายครั้ง โดยกล่าวหาว่าเป็นการแทรกแซงจากต่างชาติ นายพลบูร์มานกำลังทำสงครามกับนายพลโมฮัมเหม็ด ฮัมดาน ดาโกล ผู้บัญชาการกองหนุนเคลื่อนที่เร็วซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหาร ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหยุดยิงเป็นวันที่ 5 จากทั้งหมด 1 สัปดาห์ที่สหรัฐและซาอุดีอาระเบียเป็นคนกลางเจรจา และมักกล่าวหาว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สัปดาห์ที่แล้วนายพลบูร์มานได้สั่งปลดนายพลดาโกลออกจากตำแหน่งรองประธานสภาอธิปไตยเปลี่ยนผ่าน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนรัฐบาลชั่วคราวของซูดาน และได้แต่งตั้งผู้สนับสนุนสายแข็งกร้าวให้ดำรงตำแหน่งใกล้ชิด ล่าสุดกระทรวงกลาโหมซูดานประกาศเมื่อวันศุกร์ให้ทหารเกษียณราชการและผู้ที่สามารถจับอาวุธได้ให้ไปรายงานตัวต่อหน่วยงานทหารที่ใกล้ที่สุดแล้วจับอาวุธเพื่อปกป้องตนเอง ครอบครัว และเพื่อนบ้าน แต่ได้แก้ไขประกาศในเวลาต่อมาว่า เรียกเฉพาะทหารกองเกินและทหารเกษียณราชการเท่านั้น สงครามในซูดานที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนทำให้มีคนล้มตายแล้วไม่ต่ำกว่า 18,000 คนตามข้อมูลของโครงการข้อมูลสถานที่และเหตุการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ (Armed Conflict Location and Event Data Project) ขณะที่ยูเอ็นประเมินว่า มีคนพลัดถิ่นในซูดานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และอพยพหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านราว 300,000 […]

หยุดยิง 7 วันในซูดาน เริ่มมีผลพรุ่งนี้

สหรัฐและซาอุดีอาระเบีย ออกคำแถลงร่วมที่กรุงเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า กลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์กันในซูดานได้ตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 7 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้

1 2 3 9
...