คองโก

กินชาซา 11 ม.ค.- แม่น้ำคองโกในทวีปแอฟริกามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบกว่า 60 ปี ทำให้เกิดน้ำท่วมทั่วสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกหรือดีอาร์ซี (DRC) และสาธารณรัฐคองโก มีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 300 คนแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม่น้ำคองโกเดิมชื่อแม่น้ำซาอีร์ เป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของทวีปแอฟริการองจากแม่น้ำไนล์ และเป็นแม่น้ำใหญ่อันดับ 3 ของโลกเมื่อคำนวณจากปริมาณการไหลของน้ำ ที่ราบลุ่มแม่น้ำคองโกครอบคลุมพื้นที่ 10 ประเทศ ในจำนวนนี้มีดีอาร์ซีและสาธารณรัฐคองโกรวมอยู่ด้วย สำนักงานจัดการแม่น้ำของดีอาร์ซีแจ้งว่า ระดับน้ำในแม่น้ำคองโกแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2566 ที่ราบน้ำท่วมถึงเกือบทั้งหมดของกรุงกินชาซา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจึงเสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยเมื่อวันพุธระดับน้ำสูงจากระดับน้ำทะเล 6.20 เมตร ใกล้แตะระดับ 6.26 เมตรซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2504 ประกอบกับมีฝนตกหนักผิดปกติในพื้นที่ลึกเข้าไปในฝั่ง ทำให้เกิดน้ำท่วม จึงขอเตือนให้ผู้อาศัยริมฝั่งแม่น้ำอพยพเพื่อความปลอดภัย กระทรวงสวัสดิการสังคมแจ้งเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า มีคนเสียชีวิตเพราะน้ำท่วมแล้วเกือบ 300 คน ครัวเรือนได้รับผลกระทบ 300,000 หลัง ด้านสาธารณรัฐคองโกที่มีกรุงบราซาวีลตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคองโก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 คน จากน้ำท่วมใน 8 จังหวัดจากทั้งหมด 12 จังหวัดทั่วประเทศ ครัวเรือนได้รับผลกระทบมากกว่า […]

เจ้าของร่วมรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

ปารีส 27 มิ.ย. – ผลวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ปี 2565 โลกสูญเสียป่าฝนคิดเป็นพื้นที่ใหญ่กว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือเนเธอร์แลนด์ หรือเทียบกับสูญเสียป่าขนาด 1 สนามฟุตบอล ในทุก 5 วินาที กลุ่มจับตาป่าโลก หรือโกลบอล ฟอเรสต์ วอทช์ สังกัดสถาบันทรัพยากรโลก หรือดับเบิลยูอาร์ไอ (WRI) เผยแพร่รายงานว่า ปี 2565 มีการทำลายป่าทั่วโลกมากกว่า 41,000 ตารางกิโลเมตร เป็นปีที่ป่าถูกทำลายมากเป็นอันดับ 4 ในรอบ 2 ทศวรรษ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 2564 ทั้งที่ผู้นำโลกประกาศในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่กลาสโกว์ ในปี 2564 ว่าจะหยุดยั้งและพลิกฟื้นการสูญเสียป่าภายในปี 2573 รายงานระบุว่า การทำลายป่าเขตร้อนทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 2,700 ล้านตัน เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในอินเดีย โลกกำลังสูญเสียป่าซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ การค้ำจุนสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของคนหลายล้านคน เพราะพืชพรรณและดินช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 30 […]

กัมปาลา 24 ต.ค.- กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาแถลงวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในกรุงกัมปาลาเพิ่มอีก 9 คน ทำให้พบรวมแล้ว 14 คนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อีโบลาเริ่มระบาดในยูกันดาตั้งแต่เดือนกันยายนในพื้นที่ชนบททางตอนกลางของประเทศ จากนั้นได้แพร่มายังกรุงกัมปาลาที่มีคนอยู่อาศัยมากกว่า 1 ล้าน 6 แสนคน เริ่มจากชายคนหนึ่งที่เดินทางมารักษาตัวในโรงพยาบาลกรุงกัมปาลาแล้วเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทางการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 คนเมื่อวันอาทิตย์ โดยที่ 7 คนเป็นคนในครอบครัวของเขา และ 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รักษาเขา และภรรยาของเจ้าหน้าที่รายนี้ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ติดเชื้อทุกรายอยู่ในหน่วยแยกกักโรคของโรงพยาบาลตั้งแต่แสดงอาการ จึงมีความเสี่ยงต่ำที่จะแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เชื้อไวรัสอีโบลาแพร่จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ อาการได้แก่ อ่อนแรงอย่างมาก ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ เจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย ผู้ติดเชื้อมีอัตราการเสียชีวิตราวครึ่งหนึ่ง สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดในยูกันดาเป็นสายพันธุ์ซูดานที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ต่างจากสายพันธุ์ซาอีร์ที่แพร่ระบาดเมื่อไม่นานมานี้ในสาธารณประชาธิปไตยคองโกที่อยู่ติดกัน กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาและองค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันและเข้าข่ายต้องสงสัยในยูกันดามากกว่า 90 คนแล้วนับตั้งแต่เริ่มการระบาด ในจำนวนนี้เสียชีวิต 44 คน.-สำนักข่าวไทย