ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : อาการแพ้ถั่ว

แพ้ถั่วอาการเป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน คนแพ้ถั่วจะต้องป้องกันอย่างไร ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.ชมดาว สินธุวณิชย์ ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การแพ้ถั่ว (Nut Allergy) เป็นอาการในกลุ่มแพ้อาหารชนิดหนึ่ง พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองกับโปรตีนในถั่ว จึงทำให้เกิดอาการแพ้ แต่การแพ้โปรตีนถั่วเกิดขึ้นเฉพาะบุคคลเท่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และในบรรดาถั่วที่แพ้กันโดดเด่น ได้แก่ ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง และถั่วเหลือง


อาการแพ้ถั่วที่พบได้บ่อยก็คือ มีอาการคันในช่องปาก ปากบวม น้ำตาไหล บางคนอาจมีอาการหายใจติดขัด แต่อาการจะหายไปในระยะเวลาไม่นาน

ในคนที่มีอาการแพ้ถั่วอย่างรุนแรงจะมีอาการอะนาไฟแล็กซิส (Anaphylaxis) คือมีปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่รุนแรงอย่างเฉียบพลัน เมื่อร่างกายได้รับสารกระตุ้นจากโปรตีนถั่ว จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ช็อกและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ เช่น เพิ่งจะได้รับโปรตีนถั่วไม่นานก็มีอาการหลอดลมตีบ หายใจติดขัด ถ้านำส่งสถานพยาบาลไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ หรือไม่ได้รับการฉีดยาที่เกี่ยวข้องที่ใช้รักษาอาการแพ้รุนแรง

กินถั่วดิบ กินถั่วผ่านความร้อน ถั่วชนิดไหนส่งผลกับร่างกายมากกว่ากัน ?


คนที่แพ้โปรตีนถั่วจะต้องสังเกตความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่าเมื่อกินถั่วดิบ และ/หรือ กินถั่วผ่านความร้อน อาการแพ้ที่เกิดขึ้นรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

มีการศึกษาพบว่าถั่วที่นำไปคั่วด้วยความร้อนจะทำให้เกิดอาการแพ้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้เกิดอาการรุนแรงกับทุกคน

ในคนบางกลุ่มที่แพ้ถั่วผ่านความร้อน เนื่องจากการให้ความร้อนกับถั่วจะส่งผลกับโปรตีนในถั่ว

เคยมีการศึกษาพบว่าการให้ความร้อนสูงด้วยการคั่วและทอด จะมีผลต่อโปรตีนในถั่วมากกว่าการต้มและการนึ่ง ทั้งนี้แต่ละคนมีอาการตอบสนองไม่เหมือนกัน

“แพ้ถั่ว” ป้องกันและรักษา ได้หรือไม่ ?

แพ้ถั่วสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน

การรักษาที่พบในต่างประเทศก็คือให้ผงถั่วปริมาณน้อย ๆ ภายใต้การควบคุมของแพทย์ วิธีนี้ใช้ระยะเวลานาน มีคนหายจากการแพ้ถั่วได้ แต่บางคนก็ใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล

ที่สำคัญก็คือ การแพ้ถั่วป้องกันไม่ได้ เพราะว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีความไวตอบสนองโปรตีนในถั่ว โดยระบบภูมิคุ้มกันคิดว่าโปรตีนถั่วเป็นอันตรายต่อร่างกายจะต้องกำจัดออกไป ทำให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร และถ้าเกิดอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้

เนื่องจากแพ้ถั่วสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงต้นของชีวิต (วัยเด็ก) หรืออาจเกิดขึ้นระยะหลังก็ได้ (วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่) โดยไม่รู้เลยว่าจะเกิดขึ้น

ปัจจุบันมีการทำนายเรื่องแพ้ถั่วจากการศึกษาทางยีน (DNA) แต่ผลที่ได้ยังไม่สามารถทำนายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นการทำนายความเสี่ยงเท่านั้น

“อันตราย” จากการแพ้ถั่ว

การแพ้ถั่วแต่ละชนิดมีความรุนแรงแตกต่างกัน

ถั่วลิสง ในคนที่แพ้ถั่วลิสงมากถ้ามีความรุนแรงก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งมักพบได้ในเด็กที่มีภูมิไวเกิน

ถั่วเหลือง เป็นถั่วที่ทำให้เกิดความรุนแรงน้อย ไม่ทำให้เสียชีวิต แต่จะเกิดความรำคาญและคุณภาพชีวิตค่อนข้างแย่ เพราะถั่วเหลืองเป็นองค์ประกอบในอาหารหลายชนิด (ซอส เครื่องปรุงต่าง ๆ)

อาหารบางอย่าง บางครั้งก็ไม่รู้ว่ามีถั่วเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย ผู้ประกอบการร้านอาหารจะต้องแจ้งผู้บริโภคทุกครั้ง

ดังนั้น คนที่เคยมีอาการแพ้ถั่วอย่างรุนแรงควรพกยาอีพิเพ็น (EpiPen) ติดตัวไว้ฉีดเวลาฉุกเฉินเพื่อลดอาการแพ้รุนแรงก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาล

อีพิเพ็น (EpiPen) คืออุปกรณ์บรรจุยาแก้แพ้อีพิเนฟรีน (Epinephrine) ในกระบอกฉีดคล้ายปากกา ใช้สำหรับฉีดเข้าร่างกายในกรณีฉุกเฉิน

อ่านฉลากอาหารด้วยความเข้าใจ ปลอดภัยจากการแพ้ถั่ว ?

คนที่แพ้ถั่วถ้าต้องการกินอาหารสำเร็จรูป ก่อนอื่นควรจะต้องอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจว่าไม่มีถั่วที่ตัวเองแพ้เป็นส่วนประกอบ

สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 367) พ.ศ.2557 ในการกำกับดูแลการแสดงฉลากและการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคภายในประเทศ คือการแสดงข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร หากมีการใช้หรืออาจปนเปื้อนในกระบวนการผลิตของส่วนประกอบ ได้แก่

1.ธัญพืชที่มีส่วนประกอบของกลูเตน เช่น ข้าวสาลี บาร์เลย์ เป็นต้น

2.ถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง

3.ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

4.ถั่วที่มีเปลือกแข็งและผลิตภัณฑ์จากถั่วที่มีเปลือกแข็ง

ผู้ประกอบการจะต้องแสดงข้อความ “ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร : มี… (ระบุชื่อสารก่อภูมิแพ้หรือสารที่ก่อภาวะภูมิไวเกิน)..”

นอกจากนี้ การกินอาหารนอกบ้านตามร้านอาหารทั่วไป และควรบอกคนทำอาหารด้วยว่า “แพ้ถั่ว” ชนิดใดบ้าง จะได้ระมัดระวังการปนเปื้อนถั่วชนิดต่าง ๆ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เขียนและเรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : อาการแพ้ถั่ว

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย