ชัวร์ก่อนแชร์ : 3 โรค 2 ภัย ที่ทุกวัยต้องระวังช่วงฤดูร้อน

ช่วงนี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด แดดแรง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลายชนิด โดยเฉพาะเชื้อที่ปนเปื้อนในน้ำและอาหาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัย และนำไปสู่โรคต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง

นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ร้อนจัดยังอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางอ้อมได้อีกด้วย

การตระหนักรู้และป้องกันอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเฝ้าระวัง “3 โรค 2 ภัย” ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และรักษาคุณภาพชีวิตของตนเองและคนรอบข้างให้ปลอดภัย


3 โรค ต้องระวัง!

1. โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)
โรคอาหารเป็นพิษ นับเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสบางชนิดได้เป็นอย่างดี หากบริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเหล่านี้เข้าไป อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และนำไปสู่ภาวะเจ็บป่วยได้

สาเหตุ : เกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสโปรโตซัว หรือสารพิษที่สร้างจากเชื้อแบคทีเรีย ความรุนแรงของโรคอาจทำให้เสียชีวิตได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดและปริมาณของเชื้อก่อโรค

อาการมักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันหลังรับประทานอาหารปนเปื้อน ได้แก่
– คลื่นไส้
– อาเจียน
– ปวดท้อง
– อาจถ่ายเหลว

จากข้อมูลโรคอาหารเป็นพิษย้อนหลัง 5 ปี (ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2567) โดย กองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 – 2567

2. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)
อุณหภูมิที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ “โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน” หนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในฤดูร้อน โดยเฉพาะเมื่อสุขอนามัยในการบริโภคไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

สาเหตุ : เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อเชื้อโรค หรือการล้างมือไม่สะอาดก่อนการเตรียมหรือปรุงอาหาร ทำให้ติดเชื้อไวรัส เช่น Rotavirus Norovirus และเชื้อแบคทีเรีย เช่น  Salmonella spp., E. Coli และยังสามารถเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว หรือหนอนพยาธิได้ นอกจากนี้ยังเกิดจากการได้รับยาหรือสารพิษต่าง ๆ เช่น ยาระบาย

อาการที่มักเกิดขึ้น
– ถ่ายเหลว
– ถ่ายเป็นน้ำ
– บางรายอาจถ่ายปนมูกเลือด
– อาจมีอาการอื่นร่วม เช่น มีไข้ อาเจียน หรือมีภาวะขาดน้ำ

ส่วนใหญ่มักหายได้เอง แต่หากมีอาการอยู่หลายวันอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ต่อเนื่อง ซึ่งหากสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไปอาจทำให้ช็อก หมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้

ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรค กองระบาดวิทยา ย้อนหลัง 5 ปี (ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2567) พบว่า มีรายงานผู้ป่วยสูงขึ้นในช่วงต้นปีและลดลงในช่วงกลางปีและปลายปี

3. โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)
แม้ว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งเป็นพาหะของโรค ทำให้เกิดความเครียดหรือหงุดหงิดได้ง่าย ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์กัดหรือข่วนมากขึ้น

สาเหตุ : เกิดจากการรับเชื้อไวรัส Rabies ผ่านทางน้ำลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ สุนัข โค กระบือ และแมว ตามลำดับ ที่ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีบาดแผล หรือเยื่อเมือกต่าง ๆ 

อาการที่มักเกิดขึ้น
ระยะแรกอาการไม่ชัดเจน 
ระยะต่อมาเมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางแล้ว จะทำให้เกิดการอักเสบของสมองและไขสันหลัง และเริ่มมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท เช่น 
– ปวดศีรษะ
– เจ็บเสียวบริเวณแผล
– กระสับกระส่าย
– กลัวแสง
– กลัวลม
– กลืนลำบาก โดยเฉพาะเมื่อดื่มน้ำ
– บางรายอาจแสดงอาหารซึม กล้ามเนื้อแขน ขา ใบหน้า ค่อย ๆ อ่อนแรงเป็นอัมพาต โดยเริ่มจากบริเวณแผล
ระยะสุดท้าย
– อาการรุนแรงจนกระทั่งหมดสติ
– เสียชีวิต เนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว

ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรค กองระบาดวิทยา ย้อนหลัง 5 ปี (ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2567) จากการสอบสวนโรคพบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต คือ ผู้ป่วยไม่พบแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังจากที่โดนกัดหรือข่วน


2 ภัยต้องดูแล!

1. ภัยจากอากาศร้อน
เป็นภัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับอุณหภูมิที่สูงขึ้น เมื่อร่างกายได้รับความร้อนหรือสร้างความร้อนมากเกินไปเกินกว่าระดับที่ร่างกายจะรับได้ ทำให้ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ หรือไม่สามารถปรับตัวต่อความร้อนได้จึงเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย เช่น โรคฮีตสโตรก และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

จากข้อมูลการเฝ้าระวังเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะอากาศร้อน (Hot Weather relates Deaths Surveillance) กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ของทุกปี พบว่าในปี พ.ศ. 2567 อุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น และหากจำแนกรายเดือนพบว่า มีการรายงานการเสียชีวิตมากที่สุดในเดือนเมษายน คิดเป็นร้อยละ 70 ซึ่งเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส

2. ภัยจากการจมน้ำ
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการชวนกันไปเล่นน้ำเพราะอากาศร้อน และขาดความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ รวมถึงทักษะการเอาชีวิตรอด

จากรายงานของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2557-2566) มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ เฉลี่ยปีละ 3,650 ราย หรือวันละ 10 ราย

คาดการณ์สถานการณ์จมน้ำ พบว่ายังคงมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม โดย

17 เมษายน 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เขียนและรวบรวม โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา

ดูคลิป ชัวร์ก่อนแชร์ เพิ่มเติม

ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : 5 เรื่องฮิต สารพัดสิ่งที่ห้ามทำช่วงหน้าร้อน จริงหรือ ?


ชัวร์ก่อนแชร์ : คลิปเด็กร้องเหมือนเสียงเห่า คือโรคพิษสุนัขบ้าจริงหรือ ?

ชัวร์ก่อนแชร์ : ถูกสุนัข-แมวกัดให้บีบเลือด จริงหรือ?

ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : 5 เรื่องฮิต สารพัดวิธีแก้ท้องเสีย จริงหรือ ?

อ้างอิง

ประกาศกรมควบคุมโรค เรื่องการป้องกันโรคและภัยสุขภาพ ที่เกิดในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ. 2568 – https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2/doe/files/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%202568.pdf

อากาศร้อน สัตว์หงุดหงิดง่าย ระวังถูกสุนัข-แมวกัด

https://www.thaihealth.or.th/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%94

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย