ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ป้องกันและรักษาโรคไอกรน

“ไอกรน” โรคติดต่อที่อาจรุนแรงในผู้ป่วยบางกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กเล็ก เป็นแล้วจะต้องรักษาอย่างไร ป้องกันด้วยวิธีใดได้บ้าง ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.นพ.นพพร อภิวัฒนากุล หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ถ้าตัวท่าน หรือลูกหลาน มีอาการไอ ไอนาน มีอาเจียนหลังไอ อาจจะต้องไปพบแพทย์ตรวจว่าเป็นไอกรนหรือไม่


ตรวจแล้วถ้าไม่ใช่ไอกรน เป็นโรคอื่นหรือไม่ ที่ทำให้ไอมากและไอนาน

ถ้าเป็นไอกรนจริง มียารักษา เพราะการรักษาง่ายมาก กินยา 5 วันก็หายแล้ว

การกินยารักษาไอกรน นอกจากทำให้ตัวเราเองอาการดีขึ้นแล้ว ยังลดโอกาสการแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้ด้วย


สมมุติมีประวัติสัมผัสโรค เช่น มีเด็กในบ้านป่วย แพทย์ยืนยันว่าเป็นโรคไอกรนแน่นอน และคนที่อยู่ในบ้านเดียวกันเริ่มมีอาการไข้คล้ายไข้หวัด ไอ มีน้ำมูก ควรจะต้องไปตรวจเพื่อจะได้รู้ว่าติดไอกรนด้วยหรือไม่

แนวทางการรักษาไอกรน

 การรักษาแต่เนิ่น ๆ จะทำให้หายจากโรคได้เร็ว ยับยั้งการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน

เนื่องจากโรคไอกรน (Whooping Cough) หรือโรคไอร้อยวัน (pertussis or whooping cough or 100-day cough) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis (B. pertussis) ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียสามารถใช้ได้ และมียากลุ่มแมคโครไลด์ (Macrolide) ได้แก่ อะซิโทรมัยซิน (Azithromycin) คลาริโทรมัยซิน (Clarithromycin) อีริโทรมัยซิน (Erythromycin) เป็นต้น

ยากลุ่มแมคโครไลด์ตัวที่นิยมใช้ก็คือ อะซิโทรมัยซิน ยาตัวนี้หาได้ไม่ยากเลย เมื่อใดมีอาการและไปพบแพทย์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไอกรน ก็จะได้รับยาอะซิโทรมัยซินมากิน 5 วันเท่านั้น

กรณีที่มีอาการไอแล้วไม่ไปพบแพทย์ ปล่อยให้มีอาการไอนาน 1-2 เดือน อาการก็จะดีขึ้นได้ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นก่อน

ป่วย “ไอกรน” สามารถกินยาแก้ไอ ได้หรือไม่ ?

การกิน “ยาแก้ไอ” เป็นเพียงบรรเทาอาการไอเท่านั้น ไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุไอกรนได้

ถ้าจะรักษาไอกรน จะต้องกินยาปฏิชีวนะ “อะซิโทรมัยซิน” กำจัดเชื้อไอกรนออกจากร่างกาย

 การดื่มน้ำ การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือกินยาแก้ไอ เรียกว่า เป็นการรักษาแบบประคับประคอง อาจจะทำให้อาการไอดีขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยกำจัดเชื้อให้หายไป

ก่อนอื่น จะต้องเข้าใจว่า “ไอกรน รักษาหายขาด แต่เป็นซ้ำได้” เพราะภูมิคุ้มกันร่างกายที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ตลอดชีวิต

การฉีดวัคซีนไอกรนก็ไม่ได้ป้องกันตลอดชีวิต ถึงแม้จะฉีดวัคซีนไอกรนช่วงวัยเด็ก 5 เข็ม หลังจากนั้นจะต้องฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี

เด็กที่เข้าสู่วัยรุ่น อายุ 11-12 ปี จะต้องฉีดวัคซีนไอกรนซ้ำ 1 ครั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคไอกรน และฉีดทุก 10 ปี

กรณีเพศหญิง ฉีดวัคซีนไอกรนทุกการตั้งครรภ์ ช่วงสัปดาห์ที่ 27-36 เพื่อเป็นการปกป้องทารกจากโรคไอกรนในช่วง 2-3 เดือนแรกหลังการคลอด

โรคไอกรน “ป้องกันได้”

“ไอกรน” เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถป้องกันได้ ดังต่อไปนี้

1. ฉีดวัคซีน ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนในเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป สามารถลดการติดเชื้อแบคทีเรียไอกรนได้ แต่ถ้าลดการติดเชื้อไม่ได้สามารถลดความรุนแรงของโรคได้

2. การแยกผู้ป่วยโรคไอกรนอย่างเหมาะสม เช่น ถ้ารู้ว่าคนนี้ป่วยเป็นโรคไอกรน กินยาปฏิชีวนะ 5 วันก็หาย ในช่วง 5 วันนี้จะต้องแยกจากผู้อื่น หรือถ้าจำเป็นจะต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง หลังจาก 5 วันไปแล้วผู้ป่วยโรคไอกรนก็จะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ

สมมุติว่ามีคนหนึ่งในบ้านป่วยเป็นโรคไอกรน คนรอบตัวที่สัมผัสผู้ป่วยถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดโรคไอกรน

ดังนั้น แพทย์จะให้ยาป้องกันกลุ่มเสี่ยงสูงก่อนที่จะเกิดอาการ และยาที่ใช้ป้องกันก็คือยาตัวเดียวกับที่ใช้รักษานั่นเอง ใช้ระยะเวลาเท่ากัน ก็คือ 5 วัน

ยาป้องกันไอกรนใช้ต่อเมื่อคนนั้นสัมผัสผู้ติดเชื้อและมีความเสี่ยงสูง ถ้าไม่ได้สัมผัสผู้ป่วยและไม่มีความเสี่ยงสูงก็ไม่จำเป็นต้องกินยา

ไม่ควรซื้อยามากินเพื่อป้องกันโรคไอกรน ?

เมื่อได้รับข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ว่ามี “ไอกรน” ระบาด ก็ยังไม่จำเป็นต้องไปซื้อยาปฏิชีวนะมากินเพื่อป้องกันโรค สิ่งสำคัญก็คือ ควรให้แพทย์ตรวจร่างกาย วินิจฉัยโรค และเป็นผู้สั่งจ่ายยาจะดีกว่าไปหาซื้อยามากินเอง เช่น

1. ป่วยเป็นไอกรนจริงหรือไม่

2. ป่วยรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

3. มีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง

สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ซื้อยาปฏิชีวนะมากินเอง เนื่องจาก

1. ยังไม่รู้ว่าเป็นโรคไอกรนจริงหรือไม่

2. การใช้ยาปฏิชีวนะสุ่มสี่สุ่มห้าอาจทำให้ร่างกายมีเชื้อดื้อยาอยู่ในตัวได้ เพราะถ้าป่วยเป็นโรคจริง ๆ เชื้อโรคก็จะเป็นเชื้อดื้อยา ทำให้การรักษายุ่งยากมากขึ้น

การซื้อยามากินเอง ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าโรคที่เป็นรุนแรงมากน้อยแค่ไหน มีภาวะแทรกซ้อนหรือยัง เพราะถ้าโรคที่เป็นรุนแรงยาที่กินก็อาจจะรักษาไม่หาย จะทำให้ระยะเวลาการรักษาที่ถูกต้องยาวนานออกไป ไม่ส่งผลดีต่อผู้ป่วย

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ป้องกันและรักษาโรคไอกรน

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]