ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีน HPV ไม่ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก จริงหรือ?

04 ธันวาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน HPV เผยแพร่ทางคลิปวิดีโอใน X ที่สหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่า ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) พบว่าการรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV ให้กับเด็กหญิง ไม่ช่วยลดโอกาสการป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกเหมือนที่หน่วยงานสาธารณสุขคาดไว้ เพราะหลังจากเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV ในสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ปี 2006 ปัจจุบันกลับพบว่ายอดผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกกลับเพิ่มขึ้น


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างที่บิดเบือนผลวิจัยที่พบว่าผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 เพิ่มขึ้นเพราะขาดการคัดกรองมะเร็ง ไม่ใช่เพราะวัคซีน
  2. ข้อมูลจาก CDC พบว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกลดลงอย่างมากนับตั้งแต่มีการรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV ให้กับเด็กผู้หญิงเมื่อปี 2006 เป้นต้นมา

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จากการตรวจสอบโดย Fact Checker ในต่างประเทศพบว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอคือ ดร.ปีเตอร์สัน ปีแอร์ แพทย์โรคผิวหนัง สมาชิกของ America’s Frontline Doctors องค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2019 โดยหลายปีที่ผ่านมา America’s Frontline Doctors ได้รับการจับตาจากการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง


มะเร็งระยะสุดท้ายเพิ่มขึ้น-มะเร็งทั่วไปลดลง

ดร.อเล็กซ์ เฟรนเคอร์ นักวิจัยของ UCLA และเจ้าของงานวิจัยที่ถูก America’s Frontline Doctors นำมากล่าวอ้าง ยืนยันต่อทาง Fact Checker หลายสำนักว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกที่ระบุในงานวิจัย คือยอดผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 หรือระยะสุดท้ายเท่านั้น

สวนทางกับข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ที่พบว่า ยอดผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกโดยรวมมีจำนวนลดลงนับตั้งแต่การรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV ในปี 2006

เฟรนเคอร์และคณะวิจัยสำรวจจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปยังกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย โดยพบว่าในช่วงปี 2001-2018 จำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 เพิ่มขึ้น 1-3% ต่อปี

ทีมวิจัยพบว่ากลุ่มสตรีผิวดำมีอัตราการป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 สูงสุดหรือ 1.55 รายต่อประชากร 100,000 ราย ส่วนกลุ่มสตรีผิวขาวมีอัตราการป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 น้อยกว่าที่ 0.92 รายต่อประชากร 100,000 ราย

แต่กลุ่มสตรีผิวขาวในช่วงอายุ 40 ปีตอนต้น กลับเป็นกลุ่มที่พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 มากที่สุดในทุกช่วงอายุ โดยพบอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 4.5% ต่อปี

ซึ่งทีมวิจัยพบว่า กลุ่มสตรีผิวขาวมีอัตราการเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกน้อยกว่ากลุ่มสตรีผิวดำถึง 2 เท่า จึงน่าจะเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 4 ในกลุ่มสตรีผิวขาวในช่วงอายุ 40 ปีตอนต้นมีจำนวนมากที่สุด

เฟรนเคอร์และคณะยังพบว่า ในกลุ่มสตรีที่อายุน้อยและได้รับวัคซีน HPV ในช่วงที่มีการรณรงค์ฉีดอย่างแพร่หลายหลังจากปี 2006 เป็นต้นมา คือกลุ่มที่พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกลดลงอย่างมาก

งานวิจัยปี 2020 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine เปรียบเทียบสัดส่วนการป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกของสตรีชาวสวีเดนอายุระหว่าง 10-30 ปี จำนวน 1.6 ล้านราย ในช่วงปี 2006-2017

โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ไม่รับวัคซีน HPV และกลุ่มที่รับวัคซีน HPV ยี่ห้อ Gardasil สูตร 4 สายพันธุ์ ซึ่งป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ก่อทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศและมะเร็งปากมดลูก

ทีมวิจัยพบว่า กลุ่มสตรีที่ได้รับวัคซีน HPV มีความเสี่ยงป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่างมาก โดยพบว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีน HPV ระหว่างอายุ 17-30 ปี ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ 53% ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีน HPV ก่อนอายุ 17 ปี ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ 90%

มาริสา ลูเบค ผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารด้านสุขภาพ ศูนย์ภูมิต้านทานและระบบทางเดินหายใจแห่งชาติสหรัฐฯ (NCIRD) อธิบายว่า จำเป็นต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลของวัคซีน HPV ต่อการป้องกันมะเร็งปากมดลูกอย่างชัดเจน เนื่องจากยังมีสตรีสูงวัยที่ไม่ได้รับวัคซีน HPV ตอนเป็นวัยรุ่นเหมือนเด็กสาวรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกเช่นเดิม ปัจจัยเสี่ยงอีกประการคือการไม่ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างทั่วถึง ดังนั้นวัคซีน HPV และการตรวจคัดกรองคือวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มะเร็งปากมดลูกคือมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 4 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเพศหญิงทั่วโลก

รายงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Cancer Institute) ระหว่างการสำรวจปี 2014-2018 พบว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดอันดับที่ 13 ในสหรัฐอเมริกา

สถาบันมะเร็งแห่งชาติของไทยระบุว่า มะเร็งปากมดลูกคือมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 5 ที่พบในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเพศหญิงในประเทศไทย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://apnews.com/article/fact-check-hpv-vaccine-effective-cancer-111862714979
https://www.reuters.com/article/fact-check/a-ucla-study-on-late-stage-cervical-cancer-rates-does-not-show-hpv-vaccine-is-in-idUSL1N32319K/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]