ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : อันตรายและการป้องกันไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกเป็นซ้ำแล้วเสี่ยงเสียชีวิตจริงหรือไม่ และควรป้องกันไข้เลือดออกด้วยวิธีใดจึงจะดีที่สุด ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ  รศ.ดร.นพ.นพพร อภิวัฒนากุล หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

อดีต มีความเชื่อกันว่า “โรคไข้เลือดออก” เป็น “โรคของเด็ก”


ปัจจุบัน โรคไข้เลือดออกเป็นได้ทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่วัยทำงาน ผู้สูงอายุ

ปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีการระบาดใหญ่ของโรคไข้เลือดออกสูงสุดในรอบ 10 ปี กลุ่มผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่พบมากที่สุดคือ เด็ก ตามด้วยวัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น ส่วนผู้สูงอายุพบน้อยที่สุด

อัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ในเด็กพบน้อยมาก ๆ ทว่าวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีอัตราการติดเชื้อน้อยกว่าเด็ก แต่ว่าเสียชีวิตสูงกว่า เพราะติดเชื้อไข้เลือดออกและเป็นโรคที่มีอาการรุนแรงมากกว่า


อัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกของวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นสูงกว่าเด็ก เพราะอะไร ?

 สาเหตุที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้วเสียชีวิต มีหลายกรณี เช่น

1. ตัวผู้ป่วยไม่คิดว่าตัวเองเป็นโรคไข้เลือดออกเพราะเป็นผู้ใหญ่ แต่คิดว่าไข้เลือดออกเป็นโรคของเด็ก จึงไม่ได้ระมัดระวังตัว

2. กินยาบางอย่างที่ไม่ควรกิน หรือไม่ได้ไปรับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม

3. ด้วยกลไกของภูมิคุ้มกันโรคระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ต่างกัน เช่น กรณีโควิด-19 ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุติดโควิด-19 มีอาการรุนแรงมากกว่าเด็กที่ติดโควิด-19

โรคไข้เลือดออกที่รุนแรงและอันตราย เกิดจากปัจจัยใด ?

โรคไข้เลือดออก รุนแรงหรือไม่รุนแรง มีหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น อายุ พันธุกรรม ลำดับการติดเชื้อ สายพันธุ์ของไข้เลือดออก

“ไข้เลือดออก” เกิดจากการติดเชื้อ “ไวรัสเดงกี” (Dengue Virus) ปัจจุบันมี 4 สายพันธุ์ คือ ไวรัสเดงกี 1, 2, 3, และ 4 ตามลำดับ หลังจากติดเชื้อสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์นั้นไปตลอด แต่ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์อื่นด้วยในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นสามารถติดเชื้อสายพันธุ์อื่น ๆ ได้อีก

ดังนั้น ถ้าหากเคยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้ว ก็ยังมีโอกาส “เป็นซ้ำ” ได้อีกจากสายพันธุ์อื่น

ยกตัวอย่างเช่น เคยติดไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 1 ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 1 ไปตลอดชีวิต แต่ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 2-3-4 ได้ แต่ภูมิคุ้มกันของสายพันธุ์ที่ 1 สามารถจะป้องกันสายพันธุ์ที่ 2-3-4 ได้อีกประมาณ 1-2 ปีแรก หลังจากนั้นก็จะติดเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 2-3-4 ได้

สำหรับการติดเชื้อไวรัสเดงกีครั้งที่ 2 อาการไม่รุนแรงเสมอไป มีเพียง “โอกาสเป็นรุนแรงได้” เท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคไข้เลือดออกที่อาการไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นการติดเชื้อครั้งที่ 2 โอกาสจะสูงขึ้นเท่านั้นเอง ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอาการรุนแรง ในทางตรงกันข้าม บางคนติดเชื้อโรคไข้เลือดออกครั้งแรกก็มีอาการรุนแรงมากแล้ว เพียงแต่โอกาสน้อยมากเท่านั้นเอง

มีโอกาสติดเชื้อไข้เลือดออกครบทั้ง 4 สายพันธุ์ หรือไม่ ?

มีนักวิทยาศาสตร์ที่ติดตามสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออก พบว่า ตลอดชีวิตของคนเรามีโอกาสติดเชื้อไข้เลือดออกครบทั้ง 4 สายพันธุ์ แต่โอกาสที่จะเป็นมีน้อยมาก ๆ

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่เสียชีวิต มาจากสาเหตุหลายอย่างด้วยกัน เช่น

1. มาถึงโรงพยาบาลด้วยอาการระยะวิกฤตินานแล้ว

2. ผู้ป่วยมีอาการช็อกมานาน พบว่าผู้ป่วยไข้เลือดออกที่ช็อกนานแล้ว ตับ ไต หัวใจ ทำงานน้อยลง ซึ่งจะทำให้กลับคืนมายาก การรักษาก็ยากและมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก

ผู้ป่วยไข้เลือดออกมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารู้เร็ว รักษาเร็ว ดูแลอย่างถูกต้องเร็ว โอกาสเสียชีวิตแทบจะเป็นศูนย์

ดังนั้น ถ้ารู้ว่าเข้าข่ายเป็นโรคไข้เลือดออก ควรปฏิบัติดังนี้

1. มีไข้ 2-3 วันแต่ไข้ไม่ลง มีอาการไอแต่ไม่มีน้ำมูก แนะนำให้ไปพบแพทย์ จะได้ตรวจเลือดว่าเป็นโรคไข้เลือดออกหรือไม่ ถ้าอาการไม่มากก็จะแนะนำให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน

2. กินยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ หลีกเลี่ยงยาลดไข้ไอบูโพรเฟน และยาแอสไพริน

3. กินอาหารอ่อน พักผ่อนให้เพียงพอ

หลังจากมีไข้แล้ว 3-4 วัน ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น กระสับกระส่าย ซึมลง ถึงแม้ไข้ลงแล้วก็ยังรู้สึกไม่สบายตัว ต้องกลับไปพบแพทย์ทันทีและต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ

ป้องกันโรคไข้เลือดออก อย่างไร ?

โรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษา วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกัน ได้แก่

1. ควบคุมยุงลาย อย่าให้ยุงลายแพร่พันธุ์ ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

2. อย่าให้ยุงกัด ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว นอนในมุ้ง และทายากันยุง

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ถึง 60 ปี แต่คนบางกลุ่มที่มีโรคประจำตัวและหญิงตั้งครรภ์ ยังไม่สามารถฉีดได้

ดังนั้น การป้องกันโรคไข้เลือดออกควรใช้หลาย ๆ กลยุทธ์ร่วมกันจะดีกว่า

การเข้าใจความเสี่ยงและตระหนักถึงอันตราย จะช่วยให้กำจัดสาเหตุและป้องกันได้ก่อนการเกิดโรค

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : อันตรายและการป้องกันไข้เลือดออก

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]