ชัวร์ก่อนแชร์: จุดจบ “เบอร์นี เมดอฟฟ์” ปีศาจแชร์ลูกโซ่

05 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


คดีแชร์ลูกโซ่ที่โด่งดังที่สุดในสหรัฐฯ ได้แก่คดีที่ก่อโดย เบอร์นี เมดอฟฟ์ นักการเงินชาวอเมริกัน ผู้ใช้ชื่อเสียงในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ ล่อล่วงให้ผู้คนและหน่วยงานต่าง ๆ นำเงินมาลงทุนนานนับทศวรรษ ประเมินความเสียหายกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สาเหตุที่มีคนหลงเชื่อ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเขาคือผู้กว้างขวางในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ในนิวยอร์ก เป็นผู้ริเริ่มการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเป็นอดีตประธานของตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq 3 สมัย (1990 1991 1993)


เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยังสร้างภาพผ่านกิจกรรมเพื่อการกุศล จนองค์กรไม่แสวงหากำไรหลายแห่งก็ตกเป็นเหยื่อของเขาจำนวนมาก ข้อมูลของสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์กพบว่า 10% ของเงินที่เขาฉ้อโกงมาจากองค์กรไม่แสวงหากำไร

แผนแชร์ลูกโซ่ของเมดอฟฟ์

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ซ่อนกิจการแชร์ลูกโซ่เอาไว้เป็นความลับในชั้นที่ 17 ของอาคาร Lipstick Building ที่ตั้งสำนักงาน Bernard L. Madoff Investment Securities LLC ของเขาเอง


ช่วงปี 2008 ก่อนที่แผนแชร์ลูกโซ่จะได้รับการเปิดโปง บริษัท Bernard L. Madoff Investment Securities LLC แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ส่วน

โดยชั้นที่ 19 ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริหารงานโดย มาร์ค และ แอนดรูว์ เมดอฟฟ์ ลูกชายทั้ง 2 คนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ โดย เบอร์นี เมดอฟฟ์ เป็นผู้ดูแล

ส่วนชั้นที่ 17 ดำเนินธุรกิจกองทุนบริหารความเสี่ยง ดำเนินการโดย เบอร์นี เมดอฟฟ์ และ ปีเตอร์ เมดอฟฟ์ น้องชายของเขา

โดยกิจกรรมในชั้นที่ 17 ถูกเก็บเป็นความลับอย่างแน่นหนา แม้แต่พนักงานในชั้นที่ 19 รวมถึงลูกชายทั้ง 2 คน ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชั้นที่ 17

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ใช้วิธีหาเหยื่อด้วยการอ้างว่า กองทุนบริหารความเสี่ยงของเขาให้ผลตอบแทนมากกว่า 10-20% ต่อปี ตามผลประกอบการที่เกิดขึ้นกับดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่ใช้วัดประสิทธิภาพหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ

พร้อมรับประกันความเสี่ยงด้วยมาตรการเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทใหญ่ และป้องกันเงินทุนด้วยกลยุทธ์ใช้สิทธิในการขายหุ้น (Put Options) ในกรณีหุ้นของบริษัทใดมีแนวโน้มอยู่ในช่วงตลาดขาลง

แต่แท้จริงแล้ว กองทุนบริหารความเสี่ยงดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ผลตอบแทนทั้งหมดมาจากการนำเงินทุนของเหยื่อรายใหม่ไปให้เหยื่อรายเก่า

ภาพลักษณ์ของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ซึ่งมักทำให้ผู้ลงทุนหลงเชื่อว่า การนำเงินมาลงทุนกับเขาเป็นโอกาสพิเศษที่หาได้ยาก เมื่อมีคนหวังจะถอนเงิน ก็จะได้รับคำขู่ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเนื่องจากจะไม่มีโอกาสได้กลับมาลงทุนกับบริษัทของเขาอีก

ความผิดปกติในกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

ผู้ที่พบความผิดปกติในกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เป็นรายแรก ๆ ได้แก่ แฮร์รี มาโคโปลอส ผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีนิติวิทยาศาสตร์และนักสอบสวนการฉ้อโกงทางการเงิน ที่ถูกร้องขอให้ถอนแบบการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนระดับเดียวกับกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีการลงทุนรูปแบบใด แฮร์รี มาโคโปลอส ก็ไม่สามารถอธิบายผลตอบแทนแบบเดียวกับที่กองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ทำได้ จึงสรุปว่า เบอร์นี เมดอฟฟ์ ไม่ได้สร้างรายได้จากการลงทุน เงินทั้งหมดถ้าไม่ได้มาจากการทำ front Running หรือการสร้างกำไรจากซื้อขายหุ้นดักหน้าลูกค้า ก็ต้องมาจากแชร์ลูกโซ่ ซึ่งต่างก็ผิดกฎหมายการเงินทั้ง 2 วิธี

แต่ความพยายามเปิดโปงแผนแชร์ลูกโซ่ของ แฮร์รี มาโคโปลอส เมื่อปี 2000 ประสบความล้มเหลว เนื่องจากไม่ได้รับความสนใจจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เท่าที่ควร เนื่องจากการสอบสวนโดย SEC ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กลับไม่พบความผิดปกติในกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ แต่อย่างใด

แผนแชร์ลูกโซ่ถูกทำลาย

เมื่อใดที่มีนักลงทุนถอนเงินจำนวนมาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ จะพยายามแก้สถานการณ์ด้วยการหาเหยื่อรายใหม่มาลงทุนไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่งการมาถึงของ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ปี 2008 หรือวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างรุนแรง มีนักลงทุนมาถอนเงินจาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่จริง จนสุดท้ายแผนแชร์ลูกโซ่ของเมดอฟฟ์ที่ดำเนินมากว่า 17 ปีก็ถูกเปิดโปงในที่สุด

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยอมเปิดเผยความจริงต่อ มาร์ค และ แอนดรูว์ เมดอฟฟ์ ในช่วงปลายปี 2008 ก่อนที่ลูกชายทั้ง 2 คน จะเป็นผู้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเอง

จากการประเมินพบว่า มีผู้เสียหายจากแผนแชร์ลูกโซ่ของเมดอฟฟ์ทั่วโลกหลายหมื่นราย คิดเป็นความเสียหายมูลค่าเกือบ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาทในปี 2008 ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน

คดีแชร์ลูกโซ่ของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อผู้เสียหายมากมายต้องสูญเงินเก็บไปทั้งชีวิตในพริบตา มีเหยื่อไม่น้อยตัดสินใจฆ่าตัวตายจากการหลอกลวงครั้งนั้น

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ในวัย 71 ปี ถูกตัดสินจำคุกในคดีฉ้อฉลทางการเงินเป็นเวลา 150 ปี ซึ่งเป็นบทลงโทษสูงสุด ห้ามยุ่งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ตลอดชีวิต และยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 170,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

มรดกบาปของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

แผนแชร์ลูกโซ่ที่ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เก็บงำเป็นความลับจากสมาชิกในครอบครัวมานานปี กลับมาทำร้ายคนในครอบครัวของเขาทีละคน

ปีเตอร์ เมดอฟฟ์ น้องชายของเบอร์นี เมดอฟฟ์ ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี

มาร์ค เมดอฟฟ์ ลูกชายคนโตของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ทำอัตวินิบาตกรรมในอายุ 46 ปี เมื่อปี 2010

แอนดรูว์ เมดอฟฟ์ ลูกชายคนรองของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในวัย 48 ปีเมื่อปี 2014

ซอนดรา ไวเนอร์ พี่สาวของเบอร์นี เมดอฟฟ์ ซึ่งสูญเงินไปกับแชร์ลูกโซ่จากน้องชายตนเองกว่า 3 ล้านดอลลาร์ ถูกพบเป็นศพกับสามีในบ้านพักเมื่อปี 2022 สันนิษฐานว่าเกิดจากการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย

ส่วน เบอร์นี เมดอฟฟ์ เสียชีวิตในเรือนจำวัย 82 ปีเมื่อปี 2021 จากภาวะหลอดเลือดหัวใจแข็งและโรคไตเรื้อรัง

ตัวตนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

แรงจูงใจในการก่อคดีแชร์ลูกโซ่ของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยังคงสร้างความกังขาให้กับหลายฝ่าย เนื่องจาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยอมรับเองว่า เขามีเงินเหลือให้คนทั้งครอบครัวใช้ไปตลอดชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินจากแชร์ลูกโซ่แม้แต่น้อย

มีการวิเคราะห์ว่า ความเชื่อมั่นมากเกินไปของเขา ทำให้เขามองไม่เห็นความจริงที่ว่า การปกปิดแผนแชร์ลูกโซ่จากสมาชิกในครอบครัว ไม่ช่วยให้คนในครอบครัวรอดพ้นข้อครหาการพัวพันจากคดีแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไปได้

หนังสือพิมพ์ New York Times ได้สัมภาษณ์นักจิตวิทยา ซึ่งเปรียบเทียบ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ว่าไม่ต่างจาก เท็ด บันดี อดีตนักข่มขืนและฆาตกรต่อเนื่อง เนื่องจาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 17 ปีในการหาเหยื่อแชร์ลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผลจากกรรมดังกล่าวจะสร้างความทุกข์ทรมานให้กับเหยื่อแค่ไหน

รวมถึงกระแสวิจารณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่ขาดความรอบคอบในการตรวจสอบความโปร่งใสในเส้นทางการดำเนินธุรกิจของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ โดยมองว่าเป็นผลจากการละเว้นการตรวจสอบบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีหน้ามีตาในสังคม จนนำไปสู่คดีแชร์ลูกโซ่ที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์การเงินของสหรัฐฯ จนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.investopedia.com/terms/b/bernard-madoff.asp
https://en.wikipedia.org/wiki/Bernie_Madoff
https://en.wikipedia.org/wiki/Madoff_investment_scandal

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]