ชัวร์ก่อนแชร์: จุดจบ “เบอร์นี เมดอฟฟ์” ปีศาจแชร์ลูกโซ่

05 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


คดีแชร์ลูกโซ่ที่โด่งดังที่สุดในสหรัฐฯ ได้แก่คดีที่ก่อโดย เบอร์นี เมดอฟฟ์ นักการเงินชาวอเมริกัน ผู้ใช้ชื่อเสียงในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ ล่อล่วงให้ผู้คนและหน่วยงานต่าง ๆ นำเงินมาลงทุนนานนับทศวรรษ ประเมินความเสียหายกว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สาเหตุที่มีคนหลงเชื่อ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเขาคือผู้กว้างขวางในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ในนิวยอร์ก เป็นผู้ริเริ่มการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเป็นอดีตประธานของตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq 3 สมัย (1990 1991 1993)


เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยังสร้างภาพผ่านกิจกรรมเพื่อการกุศล จนองค์กรไม่แสวงหากำไรหลายแห่งก็ตกเป็นเหยื่อของเขาจำนวนมาก ข้อมูลของสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์กพบว่า 10% ของเงินที่เขาฉ้อโกงมาจากองค์กรไม่แสวงหากำไร

แผนแชร์ลูกโซ่ของเมดอฟฟ์

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ซ่อนกิจการแชร์ลูกโซ่เอาไว้เป็นความลับในชั้นที่ 17 ของอาคาร Lipstick Building ที่ตั้งสำนักงาน Bernard L. Madoff Investment Securities LLC ของเขาเอง


ช่วงปี 2008 ก่อนที่แผนแชร์ลูกโซ่จะได้รับการเปิดโปง บริษัท Bernard L. Madoff Investment Securities LLC แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ส่วน

โดยชั้นที่ 19 ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริหารงานโดย มาร์ค และ แอนดรูว์ เมดอฟฟ์ ลูกชายทั้ง 2 คนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ โดย เบอร์นี เมดอฟฟ์ เป็นผู้ดูแล

ส่วนชั้นที่ 17 ดำเนินธุรกิจกองทุนบริหารความเสี่ยง ดำเนินการโดย เบอร์นี เมดอฟฟ์ และ ปีเตอร์ เมดอฟฟ์ น้องชายของเขา

โดยกิจกรรมในชั้นที่ 17 ถูกเก็บเป็นความลับอย่างแน่นหนา แม้แต่พนักงานในชั้นที่ 19 รวมถึงลูกชายทั้ง 2 คน ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชั้นที่ 17

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ใช้วิธีหาเหยื่อด้วยการอ้างว่า กองทุนบริหารความเสี่ยงของเขาให้ผลตอบแทนมากกว่า 10-20% ต่อปี ตามผลประกอบการที่เกิดขึ้นกับดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่ใช้วัดประสิทธิภาพหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ

พร้อมรับประกันความเสี่ยงด้วยมาตรการเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทใหญ่ และป้องกันเงินทุนด้วยกลยุทธ์ใช้สิทธิในการขายหุ้น (Put Options) ในกรณีหุ้นของบริษัทใดมีแนวโน้มอยู่ในช่วงตลาดขาลง

แต่แท้จริงแล้ว กองทุนบริหารความเสี่ยงดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ผลตอบแทนทั้งหมดมาจากการนำเงินทุนของเหยื่อรายใหม่ไปให้เหยื่อรายเก่า

ภาพลักษณ์ของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ซึ่งมักทำให้ผู้ลงทุนหลงเชื่อว่า การนำเงินมาลงทุนกับเขาเป็นโอกาสพิเศษที่หาได้ยาก เมื่อมีคนหวังจะถอนเงิน ก็จะได้รับคำขู่ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเนื่องจากจะไม่มีโอกาสได้กลับมาลงทุนกับบริษัทของเขาอีก

ความผิดปกติในกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

ผู้ที่พบความผิดปกติในกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เป็นรายแรก ๆ ได้แก่ แฮร์รี มาโคโปลอส ผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีนิติวิทยาศาสตร์และนักสอบสวนการฉ้อโกงทางการเงิน ที่ถูกร้องขอให้ถอนแบบการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนระดับเดียวกับกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีการลงทุนรูปแบบใด แฮร์รี มาโคโปลอส ก็ไม่สามารถอธิบายผลตอบแทนแบบเดียวกับที่กองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ทำได้ จึงสรุปว่า เบอร์นี เมดอฟฟ์ ไม่ได้สร้างรายได้จากการลงทุน เงินทั้งหมดถ้าไม่ได้มาจากการทำ front Running หรือการสร้างกำไรจากซื้อขายหุ้นดักหน้าลูกค้า ก็ต้องมาจากแชร์ลูกโซ่ ซึ่งต่างก็ผิดกฎหมายการเงินทั้ง 2 วิธี

แต่ความพยายามเปิดโปงแผนแชร์ลูกโซ่ของ แฮร์รี มาโคโปลอส เมื่อปี 2000 ประสบความล้มเหลว เนื่องจากไม่ได้รับความสนใจจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เท่าที่ควร เนื่องจากการสอบสวนโดย SEC ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กลับไม่พบความผิดปกติในกองทุนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ แต่อย่างใด

แผนแชร์ลูกโซ่ถูกทำลาย

เมื่อใดที่มีนักลงทุนถอนเงินจำนวนมาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ จะพยายามแก้สถานการณ์ด้วยการหาเหยื่อรายใหม่มาลงทุนไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่งการมาถึงของ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ปี 2008 หรือวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างรุนแรง มีนักลงทุนมาถอนเงินจาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่จริง จนสุดท้ายแผนแชร์ลูกโซ่ของเมดอฟฟ์ที่ดำเนินมากว่า 17 ปีก็ถูกเปิดโปงในที่สุด

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยอมเปิดเผยความจริงต่อ มาร์ค และ แอนดรูว์ เมดอฟฟ์ ในช่วงปลายปี 2008 ก่อนที่ลูกชายทั้ง 2 คน จะเป็นผู้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเอง

จากการประเมินพบว่า มีผู้เสียหายจากแผนแชร์ลูกโซ่ของเมดอฟฟ์ทั่วโลกหลายหมื่นราย คิดเป็นความเสียหายมูลค่าเกือบ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาทในปี 2008 ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน

คดีแชร์ลูกโซ่ของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อผู้เสียหายมากมายต้องสูญเงินเก็บไปทั้งชีวิตในพริบตา มีเหยื่อไม่น้อยตัดสินใจฆ่าตัวตายจากการหลอกลวงครั้งนั้น

เบอร์นี เมดอฟฟ์ ในวัย 71 ปี ถูกตัดสินจำคุกในคดีฉ้อฉลทางการเงินเป็นเวลา 150 ปี ซึ่งเป็นบทลงโทษสูงสุด ห้ามยุ่งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ตลอดชีวิต และยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 170,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

มรดกบาปของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

แผนแชร์ลูกโซ่ที่ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เก็บงำเป็นความลับจากสมาชิกในครอบครัวมานานปี กลับมาทำร้ายคนในครอบครัวของเขาทีละคน

ปีเตอร์ เมดอฟฟ์ น้องชายของเบอร์นี เมดอฟฟ์ ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี

มาร์ค เมดอฟฟ์ ลูกชายคนโตของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ทำอัตวินิบาตกรรมในอายุ 46 ปี เมื่อปี 2010

แอนดรูว์ เมดอฟฟ์ ลูกชายคนรองของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในวัย 48 ปีเมื่อปี 2014

ซอนดรา ไวเนอร์ พี่สาวของเบอร์นี เมดอฟฟ์ ซึ่งสูญเงินไปกับแชร์ลูกโซ่จากน้องชายตนเองกว่า 3 ล้านดอลลาร์ ถูกพบเป็นศพกับสามีในบ้านพักเมื่อปี 2022 สันนิษฐานว่าเกิดจากการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย

ส่วน เบอร์นี เมดอฟฟ์ เสียชีวิตในเรือนจำวัย 82 ปีเมื่อปี 2021 จากภาวะหลอดเลือดหัวใจแข็งและโรคไตเรื้อรัง

ตัวตนของ เบอร์นี เมดอฟฟ์

แรงจูงใจในการก่อคดีแชร์ลูกโซ่ของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยังคงสร้างความกังขาให้กับหลายฝ่าย เนื่องจาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ ยอมรับเองว่า เขามีเงินเหลือให้คนทั้งครอบครัวใช้ไปตลอดชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินจากแชร์ลูกโซ่แม้แต่น้อย

มีการวิเคราะห์ว่า ความเชื่อมั่นมากเกินไปของเขา ทำให้เขามองไม่เห็นความจริงที่ว่า การปกปิดแผนแชร์ลูกโซ่จากสมาชิกในครอบครัว ไม่ช่วยให้คนในครอบครัวรอดพ้นข้อครหาการพัวพันจากคดีแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไปได้

หนังสือพิมพ์ New York Times ได้สัมภาษณ์นักจิตวิทยา ซึ่งเปรียบเทียบ เบอร์นี เมดอฟฟ์ ว่าไม่ต่างจาก เท็ด บันดี อดีตนักข่มขืนและฆาตกรต่อเนื่อง เนื่องจาก เบอร์นี เมดอฟฟ์ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 17 ปีในการหาเหยื่อแชร์ลูกโซ่ไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผลจากกรรมดังกล่าวจะสร้างความทุกข์ทรมานให้กับเหยื่อแค่ไหน

รวมถึงกระแสวิจารณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่ขาดความรอบคอบในการตรวจสอบความโปร่งใสในเส้นทางการดำเนินธุรกิจของ เบอร์นี เมดอฟฟ์ โดยมองว่าเป็นผลจากการละเว้นการตรวจสอบบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีหน้ามีตาในสังคม จนนำไปสู่คดีแชร์ลูกโซ่ที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์การเงินของสหรัฐฯ จนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.investopedia.com/terms/b/bernard-madoff.asp
https://en.wikipedia.org/wiki/Bernie_Madoff
https://en.wikipedia.org/wiki/Madoff_investment_scandal

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

เร่งแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหนีโจรชิงทอง 163 บาท

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทองคำ 163 บาท มูลค่ากว่า 8.6 ล้านบาท เช้าวันนี้ (15 ส.ค.) ทีมสืบสวน สภ.บางบ่อ ประชุมชุดและไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) มุ่งหน้า จ.ชลบุรี เน้นจุดเสี่ยงตลอดแนวถนนเทพรัตน รวมถึงเส้นทางรองที่เชื่อมต่อออกพื้นที่ โดยวางแนวทางสอบสวนที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ตัวผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะประเด็นชุดไรเดอร์ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้เชิญพยานแวดล้อม พนักงานร้านทอง สอบปากคำอย่างละเอียด ขอเวลาตำรวจทำงาน พร้อมกำชับหากพบตัวคนร้ายให้ใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนักด้วยความรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน.-สำนักข่าวไทย

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]