ชัวร์ก่อนแชร์ : น้ำตาเทียม ใช้มากส่งผลให้ “ไตวาย ไตเสื่อม” จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อความว่า “น้ำตาเทียม” เมื่อใช้นาน ๆ อาจทำให้ “ไตวาย ไตเสื่อม” ได้ เรื่องนี้จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย

โดยปกติแล้วคนเรามี “น้ำตา” ทำหน้าที่ให้ออกซิเจนและความชุ่มชื้นแก่กระจกตาและเยื่อบุตา ช่วยปรับสภาพของกระจกตาให้มีความเรียบเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน และช่วยป้องกันการติดเชื้อและขจัดของเสียออกจากกระจกตา


เมื่อใดก็ตามที่น้ำหล่อเลี้ยงกระจกตาระเหยไป หรือร่างกายผลิตน้ำตาธรรมชาติไม่เพียงพอที่จะใช้ในการหล่อเลี้ยงกระจกตาและเยื่อบุตา จะทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตาแดง ระคายเคืองตา แสบตา และตาพร่า ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต้องใช้ “น้ำตาเทียม” เพื่อช่วยหล่อเลี้ยงและให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา

“น้ำตาเทียม” คือยาหยอดตารูปแบบหนึ่ง ผลิตจากสารสังเคราะห์คล้ายน้ำตาธรรมชาติเพื่อทดแทนน้ำตาธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือหล่อลื่นดวงตา ใช้สำหรับบรรเทาอาการตาแห้ง

น้ำตาเทียม ทำให้ไตวาย ไตเสื่อม จริงหรือ ?


เรื่องนี้ไม่จริง ยังไม่พบผู้ป่วยไตเสื่อม ไตวาย จากการใช้น้ำตาเทียมที่ผลิตจากสารที่มีส่วนประกอบคล้ายกับน้ำตาธรรมชาติของคนเรา

น้ำตาธรรมชาติแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ น้ำตาพื้นฐาน น้ำตาจากสิ่งเร้าภายนอก น้ำตาจากอารมณ์

1. น้ำตาพื้นฐาน (Basal tears) คือน้ำที่ฉาบลูกตาอยู่ตลอดเวลา สร้างจากเซลล์ที่อยู่รอบ ๆ เยื่อบุตาขาว ช่วยสร้างความหล่อลื่น บำรุงและปกป้องกระจกตา ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันดวงตาจากฝุ่นผงต่าง ๆ

2. น้ำตาจากสิ่งเร้าภายนอก (Reflex tears) เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสิ่งระคายเคือง เช่น ควัน ลม ฝุ่น รวมถึงสารบางชนิดเวลาหั่นหัวหอมมีน้ำตาไหลออกมา

3. น้ำตาจากอารมณ์ (Emotional tears) น้ำตาที่ไหลออกมาตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น เสียใจ ดีใจ หวาดกลัว

ปัจจุบัน คนมีปัญหาน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาแห้ง หรือภาวะ “ตาแห้ง” (Dry eye) การใช้น้ำตาเทียมจึงเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อใช้น้ำตาเทียมหยอดตาแล้วรู้สึกสบายตาและลดอาการตาแห้งได้

น้ำตาเทียมทาผิวหนังทดสอบการดูดซึม และเคาะไตเพื่อประเมินการทำงานของไต เรื่องนี้จริงหรือ ?

กรณีที่อ้างถึงวิธีการทดสอบน้ำตาเทียมว่าทำให้เกิดไตอักเสบโดยการเคาะไตนั้น ตามมาตรฐานการแพทย์สาขาวิชาโรคไต อายุรแพทย์จะใช้วิธีการเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินการทำงานของไต ซึ่งยังไม่เคยพบว่าอายุรแพทย์โรคไตวินิจฉัยโรคด้วยการเคาะไต ดังนั้นถ้าสงสัยว่าเป็นโรคไตควรไปสถานพยาบาลเพื่อตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ย่อมจะดีกว่าถูกเคาะไต

นอกจากนี้ สิ่งที่แชร์กันมีการนำน้ำตาเทียมทาผิวหนังบริเวณแขน 5 นาที ซึ่งเป็นวิธีการทดสอบที่ไม่เป็นมาตรฐานสากลเนื่องจากการดูดซึมยาที่บริเวณดวงตากับที่ผิวหนังแตกต่างกัน การทดสอบดังกล่าวจึงขาดความน่าเชื่อถือ และน้ำตาเทียมผลิตขึ้นมาเพื่ออวัยวะบริเวณดวงตาที่มีระบบการดูดซึมแตกต่างจากยาทาผิวหนังชนิดอื่น

ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือได้ว่าน้ำตาเทียม (รูปแบบที่มีสารกันบูดและไม่มีสารกันบูด) มีผลทำให้เกิดภาวะไตวาย-ไตเสื่อม ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจะเป็นแบบเฉพาะที่ (เช่น ระคายเคือง คันตา) เพราะน้ำตาเทียมนั้นจัดอยู่ในกลุ่มยาที่ออกฤทธิ์แบบเฉพาะที่

การใช้น้ำตาเทียมกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

โดยทั่วไป น้ำตาเทียม 1 หยด มีปริมาณ 50 ไมโครลิตร จะสังเกตได้ว่าเมื่อหยอดน้ำตาเทียมแล้ว น้ำตาเทียมจะอยู่บริเวณอุ้งลูกตาด้านในประมาณ 15-20 ไมโครลิตร และอีกประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์จะไหลออกนอกลูกตา เพราะฉะนั้นโอกาสที่น้ำตาเทียมจะเข้าสู่ร่างกายจึงมีปริมาณน้อยอยู่แล้ว

หลังจากหยอดน้ำตาเทียมแล้ว ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของน้ำตาเทียมจะระบายออกทางท่อน้ำตาที่อยู่บริเวณหัวตาทั้ง 2 ข้าง ไหลลงไปที่จมูก

บางครั้งจะสังเกตเห็นว่าหลังหยอดน้ำตาเทียมแล้วจะมีน้ำมูกไหล หรือรู้สึกมีอาการขมบริเวณคอ ซึ่งในส่วนนี้มีปริมาณน้อยมาก

ถ้าองค์ประกอบของน้ำตาเทียมไม่ได้เป็นสารอันตรายก็จะไม่เกิดผลต่อระบบร่างกายแต่อย่างใด

น้ำตาเทียมบางส่วนอาจจะหมุนเวียนเข้าสู่กระแสเลือดได้ (ในปริมาณที่น้อยมาก) เพราะน้ำตาเทียมผ่านการดูดซึมบริเวณเยื่อบุด้านในของจมูกและกลับเข้าสู่กระแสเลือดได้ แต่การที่จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อระบบร่างกายของคนเราได้นั้น หมายถึงสารพิษมีปริมาณค่อนข้างมากและต่อเนื่อง

กรณีน้ำตาเทียมซึ่งเป็นสารที่พยายามทำเลียนแบบธรรมชาติซึ่งมีปริมาณน้อยมากที่อยู่บริเวณดวงตาและดูดซึมเข้าสู่ระบบร่างกาย ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายหรือไตอย่างที่เป็นข่าว

“น้ำตาเทียม” ถือว่าเป็นยาหยอดตาที่ค่อนข้างปลอดภัย พบคนที่แพ้น้อยกว่ายาหยอดตาชนิดอื่น เช่น ยาปฏิชีวนะ หรือยาลดความดันตา ซึ่งเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อระบบร่างกาย

ถ้ามีโรคประจำตัวจะต้องบอกจักษุแพทย์ เพราะโรคประจำตัวบางโรคไม่สามารถใช้ยาหยอดตาบางตัวได้

มีหลายวิธีช่วยลดปัญหาตาแห้ง ?

ปัจจุบัน คนมีปัญหาเรื่อง “ตาแห้ง” มากขึ้น ทั้งคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ มีข้อแนะนำดังนี้

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เป็นความเสี่ยงทำให้ตาแห้ง ที่พบได้บ่อยคือการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ทำให้อัตราการกะพริบตาตามธรรมชาติของคนเราซึ่งควรอยู่ที่ประมาณ 8-12 ครั้งต่อนาทีลดลง ทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตา (อยู่ด้านบนของเปลือกตาด้านใน) ซึ่งจะต้องกะพริบลงมาทำความสะอาดกระจกตาและฉาบอยู่ลดน้อยลง

2. ถ้าทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ดูโทรศัพท์มือถือ หรือจ้องจอโทรทัศน์ แนะนำว่าควรจะต้องกะพริบตาบ่อย ๆ อย่างน้อย 8-12 ครั้งต่อนาที และจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่ควรนั่งอยู่บริเวณที่มีลมธรรมชาติ ลมจากพัดลม หรือลมจากเครื่องปรับอากาศตกใส่บริเวณดวงตา

3. ตำแหน่งการวางจอคอมพิวเตอร์ ถ้ามีการวางจอคอมพิวเตอร์สูงกว่าระดับสายตา จึงต้องเปิดลูกตาและเปลือกตามากขึ้น ทำให้เกิดการระเหยของน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาได้มาก แต่การวางจอคอมพิวเตอร์มุมที่ต่ำลงจะช่วยลดอาการตาแห้งลงได้

นอกจากนั้น บางคนอาจเกิดอาการตาแห้งจากผลข้างเคียงของยา เช่น คนที่กินยาแก้แพ้ หรือหยอดยาแก้แพ้บางชนิด ยาลดความดันเลือดสูงบางชนิด หรือยาต้านซึมเศร้า ก็อาจจะมีผลข้างเคียง ใครที่ใช้ยาอะไรเป็นประจำแล้วรู้สึกมีอาการเคืองตา ตาฝืด ตาแห้ง ก็ควรปรึกษาแพทย์ที่ให้ยาว่าใช่ผลข้างเคียงของยาหรือไม่

หลังจากแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแล้ว สิ่งที่จะช่วยชดเชยน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาตามธรรมชาติได้ก็คือน้ำตาเทียม

ชนิดของน้ำตาเทียม

“น้ำตาเทียม” โดยทั่วไปมี 2 ชนิดตามรูปแบบการใช้งานตามบรรจุภัณฑ์ คือ ชนิดขวด (น้ำตาเทียมแบบรายเดือน) ชนิดหลอด (น้ำตาเทียมแบบรายวัน)

1. น้ำตาเทียมแบบรายเดือน (multiple-dose) มีลักษณะพิเศษคือ 1 ขวดสามารถใช้ได้ประมาณ 1 เดือน ที่อยู่ได้นานเพราะในขวดมีสารกันแบคทีเรียเติบโต เรียกง่าย ๆ ว่าสารกันบูด (preservatives) ข้อจำกัดของสารกันบูดที่ทำให้ยานี้อยู่ได้เป็นเดือนก็คือตัวสารนี่แหละที่อาจจะระคายเคืองตาได้ถ้ามีการหยอดบ่อยเกินไป โดยทั่วไปแนะนำให้หยอดวันละไม่เกิน 4 ครั้ง

2. น้ำตาเทียมแบบรายวัน (single-dose) น้ำตาเทียมชนิดนี้บรรจุในหลอดขนาดเล็ก ควรเปิดใช้ให้หมดแบบวันต่อวัน นั่นคือประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก เพราะเป็นน้ำตาเทียมบริสุทธิ์ปราศจากสารกันบูด (preservative-free) เหมาะกับผู้ที่แพ้สารกันบูด และน้ำตาเทียมชนิดนี้สามารถหยอดวันละหลายครั้งได้

ปัญหาเรื่องตาแห้ง สิ่งที่จะต้องจัดการก่อนคือ มองหาปัจจัยเสี่ยง เช่น ยาที่กิน โรคประจำตัวบางชนิด ที่คุณหมอบอกว่าอาจจะทำให้ตาแห้งได้ เช่น โรคข้อบางชนิด โรคภูมิคุ้มกันตัวเองบางชนิด หรือคนที่กำลังได้รับเคมีบำบัด ก็จะมีผลทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาแห้งช่วงนั้นได้ รวมถึงการปรับพฤติกรรมแล้ว สามารถทำให้อาการตาแห้งดีขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียม

ปัจจุบัน บนสื่อสังคมออนไลน์มีข้อมูลมากมายแต่ควรรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ เนื่องจากมีการทดสอบที่ไม่ได้มาตรฐานหลายเรื่อง

การทดสอบที่ไม่ได้มาตรฐานและการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจจะสร้างความสับสนและหวาดวิตกให้กับประชาชนที่ได้รับข่าวสาร ควรรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น แพทยสภา ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย) ได้ตรวจสอบข้อมูลวิชาการที่ถูกต้องและเชื่อถือได้

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]