ชัวร์ก่อนแชร์ : ให้อาหารนกพิราบ ติดเชื้อในสมอง ทำให้เสียชีวิต จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์บทความเตือน มีผู้เสียชีวิตจากนกพิราบ เป็นคนที่ให้อาหารนกพิราบประจำติดต่อกัน 2 ปี สุดท้ายติดเชื้อราในสมอง รักษาไม่ได้และเสียชีวิต จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.นพ.นพพร อภิวัฒนากุล หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ตัวนกพิราบมีเชื้อรา และเชื้อราอยู่ในมูลของนกพิราบ คนสามารถติดเชื้อราที่อยู่ในมูลนกพิราบได้ เชื้อราจากมูลนกพิราบทำให้เกิดการติดเชื้อในสมองได้จริง แต่จะต้องดูในรายละเอียดก็คือเป็นเชื้อราตัวไหน


เชื้อราที่มาจากมูลนกพิราบและทำให้ติดเชื้อในสมองก็คือเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์

ต้องดูรายละเอียดด้วยว่าคนที่เป็นโรคสมองอักเสบจากเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์  (Cryptococcus Neoformans) และเสียชีวิตมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า

การติดเชื้อราในสมองจากเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ ส่วนใหญ่มักจะเกิดในคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง กินยากดภูมิคุ้มกัน เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคตับแข็ง หรือว่าเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอื่น ๆ


สมมุติว่าเป็นผู้ป่วยเหล่านี้จริง การได้รับเชื้อปริมาณไม่มากก็สามารถเป็นโรคที่รุนแรงได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงดี โอกาสที่ติดเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ น้อยมาก ๆ

นอกจากจะต้องได้รับเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ ปริมาณมาก ๆ ซึ่งกรณีนี้สัมผัสนกพิราบประมาณ 2 ปี แต่ละวันอยู่กับนกพิราบนาน ๆ ก็มีโอกาสติดเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์

เชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ มียารักษาหรือไม่ ?

“คริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์” เชื้อราตัวนี้มียารักษา และรักษาหายขาดได้

ถ้าผู้ป่วยได้พบแพทย์หรือทีมผู้รักษาได้ทันเวลา นั่นคือพบแพทย์ในช่วงต้น เนื้อสมองยังไม่ได้ถูกทำลายไปมาก ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาต้องใช้ระยะเวลานาน ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 1 ปี

กรณีติดเชื้อในสมองจำนวนมาก และผู้ป่วยอ่อนแอ เช่น มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโรคประจำตัวบางอย่าง ก็อาจจะเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน

รู้ได้อย่างไรว่าติดเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ และมีเชื้อราในสมอง ?

เชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ เข้าสู่ร่างกายทางเดินหายใจไปอยู่ที่ปอด ผู้ป่วยอาจจะมีอาการทางปอดก่อน ซึ่งอาการทางปอดยังไม่รุนแรงได้ หลังจากนั้นเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ไปที่เยื่อหุ้มสมองและตัวเนื้อสมองทำให้เกิดการติดเชื้อ

ผู้ป่วยติดเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ ที่สมองจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ และพบว่าอาการปวดศีรษะจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อผู้ป่วยปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อย ๆ ความดันในกะโหลกศีรษะก็สูงมากขึ้น อาจจะทำให้การมองเห็นมีความผิดปกติ

นอกจากนี้ ถ้าเชื้อราไปสัมผัสกับเนื้อสมองบางส่วน อาจจะทำให้การรับรู้ตัวเปลี่ยนไป เช่น พฤติกรรมเปลี่ยนก็เป็นได้

เชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ อาจมีระยะฟักตัวค่อนข้างนานได้ เช่น จะอยู่ในปอดระยะเวลาหนึ่ง ถ้าร่างกายแข็งแรงก็สามารถควบคุมเชื้อตัวนี้ได้ เพราะมีภูมิคุ้มกันกดเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ บางคนนานเป็นปีก็ได้

ในคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงและได้รับเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ เชื้อเข้าปอดปุ๊บอาจจะไปที่สมองเลยก็ได้ ขึ้นกับภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายของแต่ละคน

ดังนั้น ไม่แนะนำให้เข้าใกล้นกพิราบ ถ้าเห็นนกพิราบฝูงใหญ่ ๆ หลีกเลี่ยงได้ดีที่สุด เพราะอาจจะมีเชื้อโรคบริเวณนั้นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ถึงกับต้องกลัวนกพิราบ เช่น บินมาเกาะหลังคาบ้าน หรืออยู่ใกล้ ๆ บ้าน ไม่กี่ตัวก็คงไม่ทำให้ติดเชื้อง่ายขนาดนั้น ขอให้ล้างมือบ่อย ๆ และไม่เข้าใกล้นกพิราบโดยไม่จำเป็น

สวมหน้ากากอนามัย “ป้องกัน” เชื้อโรค ?

หน้ากากอนามัยที่ใส่กันทุกวันนี้ สามารถช่วยป้องกันเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ จากนกพิราบได้ เพราะที่ผ่านมาขนาดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ตัวเล็กกว่าเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ หลายเท่า การสวมหน้ากากอนามัยยังช่วยป้องกัน COVID-19 ได้ ดังนั้น การสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี ช่วยป้องกันเชื้อคริปโทค็อกคัส นีโอฟอร์แมนส์ ได้เช่นกัน

สำหรับข้อความที่แชร์กัน ควรมีรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย

1. ผู้ป่วยรายนั้นมีโรคประจำตัวอะไรด้วยหรือไม่ เช่น มีโรคตับแข็ง โรคเบาหวาน หรือกินยาอะไรบางอย่างอยู่หรือไม่

2. ควรจะลงรายละเอียดว่าเชื้อราที่ทำให้ป่วยและเสียชีวิต ชื่ออะไร

3. เชื้อราที่ทำให้เสียชีวิต รักษาไม่ได้จริงหรือไม่  ซึ่งเชื้อราบางชนิดไม่มียารักษา แต่บางตัวมียารักษาให้หายขาดได้เช่นเดียวกัน

เรื่องนี้จึงยังไม่ควรแชร์ต่อในวงกว้าง เพราะอาจจะทำให้คนที่อ่านและไม่เข้าใจเกิดความตระหนกเกินเหตุโดยไม่จำเป็น

ป้องกันการเกิดโรคไว้ก่อน หลีกเลี่ยงต้นเหตุของเชื้อโรค และอย่าลืมรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ   

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : ให้อาหารนกพิราบ ติดเชื้อในสมอง ทำให้เสียชีวิต จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]