ชัวร์ก่อนแชร์: บริษัทประกันเผยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 40% เพราะวัคซีน จริงหรือ?

7 พฤษภาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Politifact (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. ผลสำรวจพบว่าชาวอเมริกันเสียชีวิตในปี 2021 มากกว่าช่วงที่ไม่มีการแพร่ระบาดถึง 40%
  2. สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อโควิด 19 ไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนตามที่กล่าวอ้าง

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา โดย ชาร์ลี เคิร์ก ประธานกลุ่ม Turning Point USA องค์กรเผยแพร่แนวคิดอนุรักษ์แก่สถานศึกษาในสหรัฐฯ และมีประวัติเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fox News เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ปี 2022 ว่า อัตราการเสียชีวิตของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด 19 อย่างแพร่หลาย ดังนั้นวัคซีนโควิด 19 จึงเป็นปัจจัยทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแชร์ข้อความทางเว็บไซต์ว่า ธุรกิจประกันชีวิตตกต่ำลง แต่ธุรกิจจัดงานศพเฟื่องฟูในปี 2021 เพราะการฉีดวัคซีนโควิด 19

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


คำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อมูลจาก OneAmerica บริษัทประกันชีวิตในรัฐอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา ที่เผยแพร่รายงานการศึกษาผลกระทบของโควิด 19 ที่มีต่อธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเมื่อปลายปี 2021

สก็อต เดวิสัน ซีอีโอของ OneAmerica ชี้แจงระหว่างการประชุมออนไลน์เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 ว่า อัตราการเสียชีวิตในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ธุรกิจประกันชีวิต โดยช่วง 3 ไตรมาศของปี 2021 อัตราการเสียชีวิตของชาวอเมริกันเพิ่มมากกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด 19 ถึง 40% และเชื่อว่าอัตราดังกล่าวจะไม่ชะลอตัวลงในไตรมาศสุดท้ายของปี โดยเปรียบเทียบว่า หากอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 10% ก็ถือเป็นหายนะในรอบ 200 ปีแล้ว การเพิ่มขึ้นถึง 40% ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายอย่างมาก

อย่างไรก็ดี เจฟ แลนคาไชร์ โฆษกของหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ชี้แจงว่า ช่วงเวลาที่พบอัตราการเสียชีวิตในสหรัฐฯ มากที่สุดได้แก่ ช่วงเดือนธันวาคมปี 2020 ถึงมกราคมปี 2021 และช่วงเดือนสิงหาคมปี 2021 ถึงกันยายนปี 2021 ซึ่งประเมินว่า สาเหตุเป็นเพราะพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าว

แคเธอรีน ทรีโรซ์ โฆษกของ LIMRA กลุ่มวิจัยผลกระทบของโควิด 19 และธุรกิจประกันภัย ชี้แจงว่า จากการศึกษาการเสียชีวิตจากโควิด 19 โดยตรงและการเสียชีวิตส่วนเกิน (excess deaths) จากโควิด 19 ทางอ้อม พบว่าปีที่ผ่านมา อัตราการชีวิตชีวิตที่เพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตจากโควิด 19 แต่ไม่มีหลักฐานว่าการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

สก็อต เดวิสัน ซีอีโอของ OneAmerica ยังเชื่อว่า อัตราการเสียชีวิตจากโควิด 19 อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะการเสียชีวิตของหนุ่มสาวในวัยทำงานจากโรคระบาด เนื่องจากยังไม่รวมการเสียชีวิตทางอ้อมจากโควิด 19 เช่นผู้ติดเชื้อที่หายป่วยจากโควิด 19 แต่เสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนของโควิด 19 ในภายหลัง

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.politifact.com/factchecks/2022/feb/11/blog-posting/no-covid-19-vaccines-arent-responsible-increase-de/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย