ชัวร์ก่อนแชร์:ช่วง1เดือนครึ่ง หลังฉีดวัคซีนโควิด ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงมาก จริงหรือ?

21 มิถุนายน 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง/เรียบเรียง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


ตามที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วง 1 เดือนครึ่ง ระบบภูมิคุ้มกันจะลดต่ำลงมาก หากออกนอกบ้านในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งนี้จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ แต่เมื่อพ้นรอบ 1 เดือนครึ่งแล้ว ภูมิคุ้มกันร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้น 100 ถึง 200 เท่า เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันกับ “ชัวร์ก่อนแชร์”

บทสรุป ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ


  • ภายหลังการฉีดวัคซีน 1 เดือนครึ่งไม่ได้ทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง และยิ่งฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งดีขึ้น โดยภูมิคุ้มกันสามารถสูงขึ้นเป็น 10 เท่า 100 เท่า หรือ 1,000 เท่าได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล 
  • แม้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ดังนั้น จึงยังต้องป้องกันตนเองอยู่

ข้อมูลที่ถูกแชร์

“ถึง ทุกท่านที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว!  👋🏽 เรื่องที่ควรทราบและระวังว่าเหตุใดคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วก็ยังอาจจะติดโควิดได้ ▪️ปกติวัคซีนเข็มที่สองจะฉีดหลังวัคซีนเข็มแรกประมาณ 21-28 วัน ▪️วัคซีนจะเริ่มกระตุ้นแอนติบอดีในตัวเราทันทีที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย ▪️ระหว่างที่แอนติบอดีเริ่มได้รับการกระตุ้นในร่าง กายเรา  ระบบภูมิ คุ้มกันเดิมตามปกติในตัวเราจะลดตำ่ลง(มาก)
▪️และหลังฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันในตัวเราจะยิ่งลดตำ่ลง(ยิ่งขึ้น)
▪️ เมื่อครบ 14 วันหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แอนติบอดีในตัวเราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนระบบภูมิคุ้มกันโควิดของเราเต็มสมบูรณ์…”

รวมถึงข้อมูลที่ถูกแชร์ในลักษณะที่คล้ายเคียงกัน “จำไว้นะคะ……..แม้ฉีดวัคซีนเข็ม2 แล้ว ต้องรอ1.5เดือน (45 วัน)จึงปลอดภัย ร่างกายจึงจะสร้างภูมิ เพิ่มขึ้น 100-200 เท่า(ช่วง45 วัน ร่างกายเราจะอ่อนแอกว่าเดิม อย่าลืมใส่แมสนะคะ และออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น เท่านั้นค่ะ) จาก Evelyn โพสต์จาก ศูนย์การแพทย์มาคาติ…. ▪️วัคซีนจะเริ่มสร้างแอนติบอดีทันทีหลังจากเข้าสู่ร่างกาย ▪️เมื่อแอนติบอดีก่อตัวในร่างกายของเรา ภูมิคุ้มกันของเราจะลดลงอย่างมาก ▪️เมื่อเรารับวัคซีนเข็มที่ 2 หลังจากวันที่ 21/28 ภูมิต้านทานของเราจะลดน้อยลงไปอีก….. ▪️หลังจากผ่านไป 1 เดือนครึ่ง ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะเพิ่มขึ้น 100 ถึง 200 เท่า หลังจากนั้นคุณจะปลอดภัย….” ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวถูกส่งเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เป็นจำนวนมาก


Fact Check : ตรวจสอบข้อมูล

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท ตรวจสอบข้อมูลกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน นายแพทย์พรศักดิ์ อยู่เจริญ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้คำตอบดังนี้

Q: ปกติวัคซีนเข็มที่สองจะฉีดหลังวัคซีนเข็มแรกประมาณ 21-28 วัน ใช่หรือไม่ เพราะเหตุใด

A: ต้องแยกเป็นวัคซีนแต่ละตัว เช่น  ซิโนแวค หรือ แอสตร้าเซนเนก้า โดยปกติยาหรือวัคซีนเราจะต้องปฏิบัติตามใบกำกับยา หรือข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างวัคซีนซิโนแวค ใบกำกับยาระบุว่าต้องกระตุ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ ส่วน แอสตร้าเซนเนก้า จะเป็นสัปดาห์ที่ 3-4 โดยทั่วไปตามใบกำกับยาจะเป็นเช่นนี้ แต่ในชีวิตจริงหรือในเชิงปฏิบัติ      ซิโนแวค จะยังไม่เปลี่ยนแปลง จะต้องกระตุ้นการฉีดอีกครั้งภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่สำหรับ แอสตร้าเซนเนก้า จะไม่เหมือนในใบกำกับยา ซึ่งตอนนี้จะฉีดเข็มที่สองใน 12 สัปดาห์ และบางครั้งขยายถึง 16 สัปดาห์ ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า ยิ่งฉีดในช่วงระยะเวลา 10 สัปดาห์ขึ้นไป ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจะขึ้นได้ดี โดยแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนในลักษณะของกลุ่มเชื้อเป็น เพราะฉะนั้นเวลาเราจะกระตุ้นจริงๆ ก็จะกระตุ้นภายใน 3 ถึง 6 เดือน แต่ในใบกำกับยาตอนแรกกระตุ้นเร็วเกินไปทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นไม่ดี

Q: วัคซีนจะเริ่มกระตุ้นแอนติบอดีในตัวเราทันทีที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายจริงหรือไม่

A: จะบอกว่าจริงก็ใช่ เพราะเวลาฉีดวัคซีนเข้าไป ถ้าร่างกายเราตรวจพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ระบบการป้องกันตามธรรมชาติของมนุษย์ก็จะสร้างแอนติบอดี แต่ในช่วงแรกจะสร้างได้ช้า จนเมื่อมีความคุ้นเคยก็จะสร้างได้เร็วขึ้นตามระยะเวลา เหมือนเราเรียนหนังสือในระยะแรกๆก็จะค่อยๆเรียนรู้ ก.ไก่ ข.ไข่ เมื่อเรียนรู้ไปนานๆ แล้ว ก็จะอ่านหนังสือได้ไวขึ้น เรียนรู้การใช้คำได้ และรวมประโยคได้ เซลล์มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน เปรียบเทียบได้กับการเรียนหนังสือ

Q: การกระตุ้นแอนติบอดีของ แอสตร้าเซนเนก้า และ ซิโนแวค มีความแตกต่างกันอย่างไร

A: ตามหลักการการกระตุ้น วัคซีนเมื่อฉีดเข็มที่สองช้า ภูมิคุ้มกันจะขึ้นดีกว่าการฉีดเร็ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะที่เหมาะสม ถ้าฉีดช้าเกินไป ภูมิคุ้มกันก็จะลดลงจนป้องกันโรคไม่ได้ก็จะเสียโอกาส เพราะฉะนั้นเราจะฉีดตอนที่ภูมิคุ้มกันเริ่มจะทยอยลดลง แต่ยังป้องกันโรคได้อยู่ ซึ่งเราก็จะกระตุ้นตอนนั้น อย่างเชื้อตายก็จะต้องกระตุ้นเร็ว

อย่างซิโนแวคต้องฉีด 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันถึงจะขึ้น ต้องฉีดห่างกันเท่าไหร่ก็ยังใช้หลักการเดิม คือฉีดช้านิดนึง ภูมิคุ้มกันก็จะขึ้นดี แต่ถ้าฉีดช้าไปก็จะเสียโอกาส เพราะฉะนั้นในใบกำกับยาจึงแนะนำให้ฉีดเข็มในช่วงระหว่าง 2-4 สัปดาห์

ส่วนจะฉีดเข็มที่สองภายใน 2 สัปดาห์ ในกรณีที่พื้นที่นั้นมีความเสี่ยงสูงมาก เช่น มีการระบาดอยู่ อย่างในพื้นที่บางแคในช่วงที่ผ่านมา  แต่ประเด็นคือเมื่อฉีดเร็วภูมิคุ้มกันก็จะยังขึ้นไม่ค่อยดี ยังขึ้นไม่สูง และป้องกันได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ควรจะต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่ถ้าได้ฉีดเข็มที่ 2 ภายใน 4 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันก็จะขึ้นดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ควรได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกครั้งในอีก 6 เดือนข้างหน้า

สำหรับ แอสตร้าเซนเนก้า ภูมิคุ้มกันจะขึ้นได้ดีตั้งแต่ได้รับการฉีดเข็มแรก แต่ภูมิจะขึ้นเมื่อไหร่ส่วนใหญ่ จะขึ้นหลังจากที่ติดเชื้อหรือได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปแล้วประมาณ 3-4 สัปดาห์ ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะวัดภูมิคุ้มกันในช่วงประมาณ 4 สัปดาห์ สำหรับ แอสตร้าเซนเนก้า เมื่อภูมิคุ้มกันขึ้นแล้ว ก็จะลงไวในช่วงเดือนที่ 3 ฉะนั้นเราจึงต้องกระตุ้นอีกครั้งช่วง 12-16 สัปดาห์ เพราะภูมิเริ่มจะตก เริ่มจะป้องกันไม่ค่อยได้

Q: ระหว่างที่แอนติบอดีเริ่มได้รับการกระตุ้นในร่างกายเรา ระบบภูมิคุ้มกันเดิมตามปกติในตัวเราจะลดต่ำลง (มาก) จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด

A: ไม่จริง เปรียบได้กับการเรียนหนังสือ ไม่มีใครเรียนหนังสือ แล้วฉลาดน้อยลง อย่างการที่เราเรียนภาษาไทย แล้วไปเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาไทยก็ยังอยู่กับตัวเรา ไม่ได้ทำให้ความฉลาดของเราลดลง เพราะฉะนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เพียงแต่ว่าไปกวนกันได้หรือไม่ ถ้าเพิ่งเรียนรู้ทั้ง 2 ภาษาพร้อมกัน ก็อาจจะกวนกันได้ อาจจะงงๆ ในช่วงแรก อย่างเช่นการกำหนดระยะห่างของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องห่างกันกี่สัปดาห์ ซึ่งจะต้องใช้ระยะห่างกันนิดนึง การเรียนรู้ก็จะเกิดได้ดีขึ้น

Q: และหลังฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันในตัวเราจะยิ่งลดต่ำลง (ยิ่งขึ้น) จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด

A: ไม่จริง อย่างที่ยกตัวอย่าง ไปไม่มีใครเรียนหนังสือแล้ว จะฉลาดน้อยลง ยิ่งเรียนหนังสือ ก็จะยิ่งฉลาดขึ้น ยิ่งเก่งขึ้น อ่านหนังสือมากๆ ก็จะยิ่งอ่านได้ไวขึ้น รวดเร็วขึ้น หรือการเขียนก็จะเขียนได้เร็วขึ้น ถ้าเราได้รับการฝึกทุกวัน เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน การฉีดเข็ม 2 เข็ม 3 ก็เหมือนการฝึกปรือ เป็นการกระตุ้นทำให้เราเก่งขึ้น ไวขึ้น คล่องขึ้น

Q: เมื่อครบ 14 วันหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แอนติบอดีในตัวเราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนระบบภูมิคุ้มกันโควิดของเราเต็มสมบูรณ์จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด

A: กรณีซิโนแวคถ้าฉีดเข็มแรก อาจจะยังงง ๆ อยู่ เหมือนเริ่มเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ แต่ถ้าฉีดเข็มที่ 2 ก็เริ่มเรียนเป็นคำ เป็นประโยค ซึ่งซิโนแวคจะใช้การเรียนรู้นานกว่า แอสตราเซเนก้า  เพราะฉะนั้นในช่วงสองสัปดาห์ภูมิคุ้มกันก็จะค่อยๆ ขึ้น แต่ความจริงก็จะขึ้นแบบ Exponential ขึ้นแบบพุ่งกระฉูดอยู่ ไม่ได้ขึ้นแบบ Linear ยิ่งเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งขึ้นเป็นเท่าทวีคูณและสูงสุดจะอยู่ที่ 2-4 สัปดาห์  บางคนตอบสนองไว 2 สัปดาห์ก็ขึ้นเต็ม บางคนอาจจะ 4 สัปดาห์ภูมิถึงขึ้น หรือบางคนอาจจะลามไปถึง 6-8 สัปดาห์ก็มี แต่เป็นส่วนน้อย

Q: ดังนั้นช่วง 1 เดือนครึ่ง((21-28)+14 วัน) ที่ระบบภูมิคุ้มกันปกติของเราจะลดต่ำลงมากดังที่กล่าวข้างต้น จึงมี โอกาสและความเสี่ยงสูงที่ไวรัสจะโจมตีเราได้ง่าย ถึงแม้จะฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มทันทีแล้วก็ตามจริงหรือไม่ เพราะเหตุใด

A: ไม่จริง ภูมิคุ้มกันไม่มีทางต่ำลง ยิ่งฉีดวัคซีน ภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งดีขึ้น  เหมือนที่บอกไป เวลาเรียนหนังสือแล้ว ไม่มีใครฉลาดน้อยลง แต่โดยธรรมชาติความจำสามารถเลอะเลือนได้ ในระยะเวลายาวนานแล้วเราไม่ได้ฝึกปรือ เช่น เรียนภาษาอังกฤษมาแล้ว ไม่ได้ใช้งานเลย  1 ปีเราก็จะลืมเลือน ภูมิคุ้มกันมันก็จะลดลงตามระยะเวลา ตามธรรมชาติ  

Q: คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว หากออกนอกบ้านในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งนี้จึงเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเพราะระบบภูมิคุ้มกันปกติของเราลดต่ำลงมาก จริงหรือไม่เพราะเหตุใด

A: อยากให้แยกเป็น 2 ข้อความ ต้องบอกว่าทุกคนถึงแม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ก็สามารถติดเชื้อได้ ซึ่งการติดเชื้อได้หมายความว่าเราสามารถไปสัมผัสกับเชื้อ หากภายนอกยังมีการระบาดอยู่ ตราบใดที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือยังไม่ได้ฉีดก็ติดเชื้อได้ทุกคน ประเด็นถัดมาถ้าคนที่ฉีดวัคซีนไปฉีดวัคซีน มีภูมิคุ้มกันโรคแล้วเกิดการติดเชื้อ ถ้าคุณฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถป้องกันโรคได้ ถ้าภูมิเราสูง เวลาเรารับเชื้อ เราจะกำจัดเชื้อนั้นไปได้ แต่ถ้าเชื้อมีปริมาณมาก ก็ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้หมด อาจจะเกิดอาการป่วยได้ แต่จะเป็นอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไม่รุนแรง

Q: อนึ่ง แม้คุณจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว คุณก็ยังคงอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้อีกจริงหรือไม่ เพราะเหตุใด

A: สามารถติดได้อยู่แล้ว การติดเชื้อหมายถึงว่าร่างกายรับเชื้อเข้ามา แต่ถัดไปคือร่างกายจะสู้ได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่หากในประเทศยังมีการระบาดของเชื้ออยู่ ก็อยากให้ทุกคนปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขคือการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การล้างมือ ตรวจเช็คร่างกายว่ามีไข้หรือไม่ ไม่ควรเข้าไปในสถานที่ชุมชน หรือที่ที่มีคนแออัด

Q: เมื่อผ่านระยะเวลาเสี่ยงสูงของรอบหนึ่งเดือนครึ่งไปแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้น 100 ถึง 200 เท่าทีเดียว นั่นจึงพอจะนับได้ว่าคุณปลอดภัยเพิ่มขึ้น จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด

A: ภูมิคุ้มกันสามารถสูงขึ้นเป็น 10 เท่า 100 เท่า หรือ 1,000 เท่าได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนอาจจะแค่ 60 เท่า บางคนก็ขึ้นเป็น 1,000 เท่า แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันได้ดีแค่ไหน เปรียบเสมือนกับเด็กเรียนเก่ง กับเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่ง แต่ก็ยังอ่านออกเขียนได้ ก็คือยังมีความสามารถในการป้องกันโรคได้

Q: เราจึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง และดูแลความปลอดภัยส่วนตัวในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งนับจากการฉีดวัค ซีนครั้งแรกให้เคร่งครัด  นั่นคือเราทุกคนยังต้อง ไม่ลืมสวมหน้ากากอนามัย และมาตรการจำเป็นอื่น ๆ ออกจากบ้านเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องหรือไม่

A: เป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง ในมุมมองส่วนตัวเรายังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย และดำเนินการตามมาตรการต่างๆ จนกว่าประเทศไทยจะฉีดวัคซีนได้เกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 70 เปอร์เซ็นต์  เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนมันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งภูมิคุ้มกันหมู่หมายถึงว่าคนๆ นั้น มีภูมิคุ้มกันด้วยจริงๆ ถ้าฉีด 100 คน คนที่มีภูมิอยู่ 80-90 คน ก็ต้องฉีดคนมากกว่า 80-90 คน  ถึงจะได้ค่าเฉลี่ยเป็น 50-70 เปอร์เซ็นต์ ความครอบคลุมจะต้องไม่ต่ำกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมเน้น 80 เปอร์เซ็นต์ มากกว่า

ข้อมูลอ้างอิง

การสัมภาษณ์ นายแพทย์พรศักดิ์ อยู่เจริญ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย