ชัวร์ก่อนแชร์ : กินกระชาย “ป้องกัน-รักษา” โควิด-19 ได้ จริงหรือ ?

28 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลว่ากินกระชายสามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ มีสรรพคุณในการต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีกว่าขิงและฟ้าทะลายโจรได้มากถึง 10-20 เท่านั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลกับ ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า จริงบางส่วน

บทสรุป จริงบางส่วน ต้องอธิบายเพิ่ม


·        กระชายเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพเท่านั้น ไม่ใช่การกินเพื่อป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้

·        การศึกษากระชายรักษาและป้องกันโควิด-19 ยังเป็นการศึกษาในระดับเซลล์ ซึ่งพบว่าประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อเมื่อเข้าสู่เซลล์ จะดีกว่าการป้องกันเชื้อเข้าสู่เซลล์ ยังคงต้องมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ต่อไป

·        การป้องกันและรักษาโควิด-19 เป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพร หรือยาชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำการรักษาเพียงอย่างเดียว


·        คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ยืนยัน ยังอยู่ระหว่างการทดลอง

ข้อมูลที่ถูกแชร์

“(มะนาว)น้ำกระชายขาวน้ำผึ้ง(มะนาว) เครื่องดื่มทรงคุณค่า ด้านโควิท  กระชายขาว” พบว่าสารสกัดจากกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด สามารถยับยั้งการเจริฐเติบโตของโควิด-19 ได้ถึง 100% โดยสารสำคัญทั้ง 2 ตัวที่อยู่ในกระชายขาว ได้แก่ Pandulatin A และ Pinostrobin สารทั้ง 2 ตัวในกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด-19 ได้ ซึ่งสารทั้ง 2 ตัวนี้สามารถลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อจาก 100% ให้ลดลงจนเหลือ 0% นอกจากนี้ ยังสามารถยับยั้งเซลล์ในการผลิตไวรัสได้ถึง 100% อีกด้วย”

“……ของดีมีอุ่นใจ ห่างไกลโรค เอาไว้ดูแลสุขภาพช่วงนี้ กระชายขาว 1.สารสกัดกระชายขาว(30 แคปซูล) 179฿2.กระชายขาวผงชงดื่ม 150g  260฿ ขิง 3.ขิงผง กรีนฟาร์ม รสเข้มข้น ขิง 95% น้ำตาล 5% แบบซอง 15gx10 ซอง 145฿ 4.ขิงผง กรีนฟาร์ม รสกลมกล่อม ขิง 90% น้ำตาล 10% แบบซอง 15gX10ซอง 145฿….”

“กระชายขาว 100% กระชายขาวสกัด แคปซูล จำนวน 60 แคปซูล ต่อต้านไวรัส โควิด-19 ฿ 249.00 สรรพคุณของกระชายขาว ต่อต้านและยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัส ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด-19….”

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อมูล

กระชายสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ เป็นผลการศึกษาที่อยู่ในระดับเซลล์

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลกับ ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า ผลการศึกษาเรื่องของกระชายยังอยู่ในระดับเซลล์ ในกรณีผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ   โควิด-19 เข้าไปแล้ว สารสำคัญที่อยู่ในกระชายคือ แพนดูราทินเอ (Panduratin A) สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส   โควิด-19 ได้ และยับยั้งการเข้าสู่เซลล์ของเชื้อได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อเมื่อเข้าสู่เซลล์จะดีกว่าการป้องกันเชื้อเข้าสู่เซลล์ ทั้งนี้การศึกษาในเรื่องดังกล่าวยังเป็นการศึกษาในระดับเบื้องต้น ยังคงต้องมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ต่อไป เพราะเรายังไม่มีกระชายในรูปแบบของยาที่ใช้ในระบบบริการสุขภาพ การศึกษาสมุนไพรจะต้องมีการศึกษาในหลายแง่มุม ต้องดูว่าในตำราดั้งเดิมเราใช้อย่างไร ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยเราจะใช้กระชายในโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ช่วยขับลม บำรุงกำลังเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ใช้ในเรื่องของระบบทางเดินหายใจ โดยภาพรวมกระชายเป็นสมุนไพรที่ให้ความอบอุ่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด อาจจะทำให้มีการปรับสมดุลของร่างกายได้

“ปัญหาคือการศึกษาในระดับเซลล์ที่มีขึ้น เบื้องต้นพบว่ามีแนวโน้มที่จะยับยั้งการเติบโตของไวรัส รวมทั้งป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ แต่ปัญหาที่จะนำมาใช้ในคนคือยังไม่รู้ว่า ถ้าคนกินสารสกัดกระชายไปแล้วจะเกิดการดูดซึมได้หรือไม่ กลไกที่แท้จริงของกระชายต่อไวรัสโควิด-19 คือกลไกอะไรกันแน่ ก่อนหน้าที่มีการศึกษาในฟ้าทะลายโจรจะเห็นว่ากลไกที่ยับยั้งการแบ่งตัวของฟ้าทะลายโจรต่อเชื้อไวรัสจะออกฤทธิ์ได้ดีในช่วงระยะท้ายๆ ซึ่งก็เหมาะสมที่ไปเสริมในการรักษากับยาแผนปัจจุบันที่มักจะออกฤทธิ์ในช่วงแรกๆ ของการแบ่งตัว แต่กระชายยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ ยังไม่ทราบว่าต้องใช้กระชายเท่าไหร่ถึงจะมีประสิทธิผลในคน และความปลอดภัยเป็นอย่างไร เมื่อพิจารณาถึงผลดังกล่าว การหวังผลที่จะนำกระชายมาใช้ในการรักษาอาการโควิด-19 หรือว่าป้องกัน คงยังเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ แต่การกินกระชาย ก็ไม่ได้เกิดผลเสียอะไรต่อร่างกายนัก โดยเฉพาะในรูปแบบของการรับประทานเป็นอาหาร”

ถ้าจะกินให้ได้เท่ากับขนาดยาที่ทำการศึกษาวิจัย อาจจะต้องใช้กระชายประมาณ 2 ขีดครึ่งต่อครั้ง

ประชาชนควรยึดหลักโดยใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการสู้กับโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงของการป้องกัน ขนาดของการศึกษาในหลอดทดลองที่เป็นขนาดของคนกิน ถ้าจะกินให้ได้เท่ากับขนาดยาที่ทำการศึกษาวิจัย อาจจะต้องใช้กระชายประมาณ 2 ขีดครึ่งต่อครั้ง ซึ่งปริมาณนี้อาจจะเกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารของบางคนได้ 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการกินกระชาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพนั้น อยากให้เริ่มทานในปริมาณที่น้อย ไม่ต้องสูงมาก แต่หากทานร่วมกับอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องเทศ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแข็งแรงได้ดี แต่เมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 แล้ว กระชายจะช่วยให้ร่างกายมีความอบอุ่น แต่ยังไม่ใช่เครื่องมือที่ดี ในการรักษาโควิด-19  อย่างไรก็ตามการรับประทานกระชาย 2 ขีดครึ่ง ยังเป็นการศึกษาที่เร็วและด่วนเกินไป และยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อทานกระชายเข้าไป 2 ขีดครึ่งจะเกิดการดูดซึมเท่าไหร่ จะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

คนไข้โควิด-19 อาจจะมีผู้ติดเชื้อที่มีอาการ หรือไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยหรือมาก ผู้ที่มีอาการน้อยกระชายสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นได้ เมื่อร่างกายอบอุ่น ร่างกายก็จะอยู่ในสภาวะที่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น แต่ต้องทำร่วมกับการรักษาที่ทางการแพทย์แนะนำร่วมด้วย

มีการกล่าวว่าการทานกระชาย ดีกว่าการทานขิงและฟ้าทะลายโจรเป็น 10 เท่าจริงหรือไม่?

ภญ.ดร.ผกากรอง ระบุว่า มาจากการศึกษาของอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยนำพืชสมุนไพรมา 122 ชนิด ชนิดของพืชเป็นสารสกัดทั้งหมด และพบว่ามี 3 ชนิดที่น่าจะเด่นในการต้านไวรัสโควิด-19 สามารถไปยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้คือ กระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร เมื่อเทียบความเข้มข้นและความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแบ่งตัวของไวรัสแล้วพบว่ากระชายมีคุณสมบัติดีที่สุด รองลงมาคือขิง และฟ้าทะลายโจร ตามลำดับ และความสามารถของกระชาย ดีกว่าขิง และฟ้าทะลาย ถึง 20 เท่าในกลไกที่สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้  แต่ยังเป็นการศึกษาที่อยู่ในหลอดทดลอง  อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสมุนไพรโดยธรรมชาติ มีฤทธิ์ในการต้านไวรัส ไม่ดีเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ฉะนั้นอาจจะต้องมีกลไกอื่นๆ ที่เราจะต้องศึกษาเพิ่มเติม แล้วดูว่าบทบาทของยาที่เราศึกษาพัฒนาวิจัยมา จะมาอยู่ส่วนไหนในขั้นตอนการรักษาได้

มีการแชร์กันว่าการนำกระชายมาสกัดร้อน สกัดเย็น จะทำให้ไม่ป่วยจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนที่ไหนตาม เรื่องนี้เป็นอย่างไร?

ภญ.ดร.ผกากรอง ระบุว่า มีความจริงบางส่วน การศึกษากระชายในปัจจุบันมีการศึกษาแล้ว แต่ยังเป็นในระดับเซลล์แบบที่บอกไปข้างต้น ซึ่งยังต้องมีการศึกษาต่อในระดับสัตว์ทดลอง และในคนต่อไป แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดใหม่ อาการของผู้ป่วยแต่ละรอบก็ยังไม่เหมือนกัน เรายังต้องเรียนรู้อะไรจากโควิด-19 อีกมาก

กระชายเป็นอาหารอยู่แล้ว สามารถที่จะบริโภคได้ โดยรับประทานแบบปั่นหรือคั้นน้ำ ถ้าจะปรุงรสด้วยมะนาวหรือน้ำผึ้งก็ได้ แต่ที่เห็นจำหน่ายในท้องตลาด จะมีการใส่น้ำผึ้งในปริมาณที่สูง อาจจะมีผลกับผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรคเบาหวาน หากต้องการรับประทานดีที่สุดคือควรทำรับประทานเอง

แนะทานกระชายทั้งเนื้อมีประโยชน์กว่าบริโภคเป็นน้ำอย่างเดียว

เท่าที่ทราบงานวิจัยเป็นการสกัดตัวกระชายด้วยการทำละลาย แต่ในระดับประชาชนเราคงไม่ได้ใช้ตัวทำละลาย เข้าไปสกัด ส่วนใหญ่ประชาชนจะทานเป็นแง่ง หรือที่เรียกว่า นมกระชาย หรืออาจจะนำมาปั่นแยกน้ำ หรือนำมาปั่น แล้วบริโภคไปพร้อมกับน้ำ ถ้าดูข้อมูลแพนดูราทินเอซึ่งเป็นสารสำคัญที่อยู่ในเนื้อกระชายนั้น ฉะนั้นการรับประทานที่จะได้ประโยชน์คือต้องรับประทานไปทั้งเนื้อ จะมีประโยชน์กว่าการที่บริโภคเป็นน้ำอย่างเดียว

เตือน ผู้ป่วยโรคตับไตถุงน้ำดีอุดตันหญิงตั้งครรภ์หญิงให้นมบุตรควรระวังในการบริโภคกระชายในปริมาณสูง

ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจมีความจำเป็น ที่ต้องระมัดระวังหากบริโภคกระชายทุกวัน กลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการทานกระชายคือ1.กลุ่มผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากกระชายเป็นสมุนไพรที่มีโพแทสเซียมสูง ถ้าบริโภคนานๆ ปริมาณสูง ก็อาจจะทำให้มีผลเกิดการสะสมของโพแทสเซียมในร่างกาย เกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจ หรือทำให้ไตต้องทำงานหนักเพื่อที่จะขับโพแทสเซียมออก 2.ผู้ป่วยโรคตับ โดยหลักการทางการแพทย์ถ้าตับและไตทำงานไม่ดี การใช้สมุนไพรหรืออาหารเสริมใดๆเข้าไป จะยิ่งทำให้การทำงานของตับและไตทำงานเพิ่มขึ้น 3. กลุ่มผู้ป่วยที่มีถุงน้ำดีอุดตัน พืชในกลุ่มที่ลงหัว ทางพฤษศาสตร์เรียกว่า ซิงจิเบอร์ร่าซีอี้ จะต้องมีความระมัดระวังในการใช้ หากใช้ในปริมาณสูงๆ ก็จะทำให้น้ำดีหลังมากขึ้น หากถุงน้ำดีมีการอุดตันอยู่แล้ว อาจจะทำให้เกิดการปวดหรือการอักเสบเพิ่มมากขึ้น 4.กลุ่มเปราะบาง เช่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หากจะทานในปริมาณสูงก็ควรระมัดระวัง

เภสัชกรชี้หากมีอาการป่วย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ควรพบแพทย์

“ในตอนนี้หลายคนอาจจะมีอาการคล้ายๆ กับการเป็นไข้หวัด ก็ต้องมองย้อนกลับไปว่าเราอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการรับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ มีญาติ คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน คนใดเป็นโควิด-19 หรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงสูงก็ควรไปตรวจอาการเพื่อดูให้ชัดว่าเราติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และกันตัวเองออกจากผู้อื่น สำหรับคนที่มีอาการคล้ายๆ ไข้หวัด แต่ไม่ได้สัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ป่วยโควิด-19 สามารถใช้กระชายเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองได้ การใช้กระชายเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น และสร้างสมดุลขึ้นในร่างกาย แต่ไม่ควรที่จะใช้กระชายเพียงอย่างเดียวในการรักษา ควรจะมีการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หากมีเสมหะ ก็ใช้กระชายร่วมกับยาแก้ไอ มะขามป้อม หรือขิงก็ได้ หากมีไข้ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ก็อาจจะเหมาะกับฟ้าทะลายโจร

การป้องกันและรักษาโควิด-19 เป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพร หรือยาชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำการรักษาโดยวิธีเดียว ต้องใช้ร่วมกันหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของกระชาย ที่ยังมีข้อมูลไม่มากพอที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือเดียวในการรักษาโรค คงต้องรอการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เรื่องนี้สิ่งที่สามารถแชร์ได้คือ วิธีการทำน้ำกระชาย แต่อาจจะต้องบอกว่าวิธีการที่เราใช้กระชายเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพเท่านั้น” ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าว

ม.มหิดล ออกแถลงการณ์ อยู่ระหว่างการศึกษาสารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลอง

วันที่ 25 พ.ค. 64 มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์เรื่อง การอ้างถึงผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อประกอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับสรรพคุณของสารสกัดกระชายขาว ในการต้านโรคโควิด-19 ว่า สารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อก่อโรคโควิด-19 ได้ในหลอดทดลอง และอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม ในด้านความปลอดภัย ปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภค และข้อบ่งชี้การใช้ในมนุษย์ในการต้านโรคโควิด-19 อย่างเหมาะสม ดังนั้นจึงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการต้านโรคโควิด-19 ได้

แถลงการณ์ดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า ไม่อนุญาตให้นำภาพต่างๆ ของนักวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล และ TCELS ไปประกอบการโฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.facebook.com/mahidol/photos/a.10153450690529012/10161247225279012/
https://www.youtube.com/watch?v=yYL0_mTT4nE

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]