ชัวร์ก่อนแชร์ : กินกระชาย “ป้องกัน-รักษา” โควิด-19 ได้ จริงหรือ ?

28 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลว่ากินกระชายสามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ มีสรรพคุณในการต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีกว่าขิงและฟ้าทะลายโจรได้มากถึง 10-20 เท่านั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลกับ ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า จริงบางส่วน

บทสรุป จริงบางส่วน ต้องอธิบายเพิ่ม


·        กระชายเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพเท่านั้น ไม่ใช่การกินเพื่อป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้

·        การศึกษากระชายรักษาและป้องกันโควิด-19 ยังเป็นการศึกษาในระดับเซลล์ ซึ่งพบว่าประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อเมื่อเข้าสู่เซลล์ จะดีกว่าการป้องกันเชื้อเข้าสู่เซลล์ ยังคงต้องมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ต่อไป

·        การป้องกันและรักษาโควิด-19 เป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพร หรือยาชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำการรักษาเพียงอย่างเดียว


·        คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ยืนยัน ยังอยู่ระหว่างการทดลอง

ข้อมูลที่ถูกแชร์

“(มะนาว)น้ำกระชายขาวน้ำผึ้ง(มะนาว) เครื่องดื่มทรงคุณค่า ด้านโควิท  กระชายขาว” พบว่าสารสกัดจากกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด สามารถยับยั้งการเจริฐเติบโตของโควิด-19 ได้ถึง 100% โดยสารสำคัญทั้ง 2 ตัวที่อยู่ในกระชายขาว ได้แก่ Pandulatin A และ Pinostrobin สารทั้ง 2 ตัวในกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด-19 ได้ ซึ่งสารทั้ง 2 ตัวนี้สามารถลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อจาก 100% ให้ลดลงจนเหลือ 0% นอกจากนี้ ยังสามารถยับยั้งเซลล์ในการผลิตไวรัสได้ถึง 100% อีกด้วย”

“……ของดีมีอุ่นใจ ห่างไกลโรค เอาไว้ดูแลสุขภาพช่วงนี้ กระชายขาว 1.สารสกัดกระชายขาว(30 แคปซูล) 179฿2.กระชายขาวผงชงดื่ม 150g  260฿ ขิง 3.ขิงผง กรีนฟาร์ม รสเข้มข้น ขิง 95% น้ำตาล 5% แบบซอง 15gx10 ซอง 145฿ 4.ขิงผง กรีนฟาร์ม รสกลมกล่อม ขิง 90% น้ำตาล 10% แบบซอง 15gX10ซอง 145฿….”

“กระชายขาว 100% กระชายขาวสกัด แคปซูล จำนวน 60 แคปซูล ต่อต้านไวรัส โควิด-19 ฿ 249.00 สรรพคุณของกระชายขาว ต่อต้านและยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัส ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด-19….”

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อมูล

กระชายสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ เป็นผลการศึกษาที่อยู่ในระดับเซลล์

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลกับ ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า ผลการศึกษาเรื่องของกระชายยังอยู่ในระดับเซลล์ ในกรณีผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ   โควิด-19 เข้าไปแล้ว สารสำคัญที่อยู่ในกระชายคือ แพนดูราทินเอ (Panduratin A) สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส   โควิด-19 ได้ และยับยั้งการเข้าสู่เซลล์ของเชื้อได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อเมื่อเข้าสู่เซลล์จะดีกว่าการป้องกันเชื้อเข้าสู่เซลล์ ทั้งนี้การศึกษาในเรื่องดังกล่าวยังเป็นการศึกษาในระดับเบื้องต้น ยังคงต้องมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ต่อไป เพราะเรายังไม่มีกระชายในรูปแบบของยาที่ใช้ในระบบบริการสุขภาพ การศึกษาสมุนไพรจะต้องมีการศึกษาในหลายแง่มุม ต้องดูว่าในตำราดั้งเดิมเราใช้อย่างไร ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยเราจะใช้กระชายในโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ช่วยขับลม บำรุงกำลังเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ใช้ในเรื่องของระบบทางเดินหายใจ โดยภาพรวมกระชายเป็นสมุนไพรที่ให้ความอบอุ่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด อาจจะทำให้มีการปรับสมดุลของร่างกายได้

“ปัญหาคือการศึกษาในระดับเซลล์ที่มีขึ้น เบื้องต้นพบว่ามีแนวโน้มที่จะยับยั้งการเติบโตของไวรัส รวมทั้งป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ แต่ปัญหาที่จะนำมาใช้ในคนคือยังไม่รู้ว่า ถ้าคนกินสารสกัดกระชายไปแล้วจะเกิดการดูดซึมได้หรือไม่ กลไกที่แท้จริงของกระชายต่อไวรัสโควิด-19 คือกลไกอะไรกันแน่ ก่อนหน้าที่มีการศึกษาในฟ้าทะลายโจรจะเห็นว่ากลไกที่ยับยั้งการแบ่งตัวของฟ้าทะลายโจรต่อเชื้อไวรัสจะออกฤทธิ์ได้ดีในช่วงระยะท้ายๆ ซึ่งก็เหมาะสมที่ไปเสริมในการรักษากับยาแผนปัจจุบันที่มักจะออกฤทธิ์ในช่วงแรกๆ ของการแบ่งตัว แต่กระชายยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ ยังไม่ทราบว่าต้องใช้กระชายเท่าไหร่ถึงจะมีประสิทธิผลในคน และความปลอดภัยเป็นอย่างไร เมื่อพิจารณาถึงผลดังกล่าว การหวังผลที่จะนำกระชายมาใช้ในการรักษาอาการโควิด-19 หรือว่าป้องกัน คงยังเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ แต่การกินกระชาย ก็ไม่ได้เกิดผลเสียอะไรต่อร่างกายนัก โดยเฉพาะในรูปแบบของการรับประทานเป็นอาหาร”

ถ้าจะกินให้ได้เท่ากับขนาดยาที่ทำการศึกษาวิจัย อาจจะต้องใช้กระชายประมาณ 2 ขีดครึ่งต่อครั้ง

ประชาชนควรยึดหลักโดยใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการสู้กับโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงของการป้องกัน ขนาดของการศึกษาในหลอดทดลองที่เป็นขนาดของคนกิน ถ้าจะกินให้ได้เท่ากับขนาดยาที่ทำการศึกษาวิจัย อาจจะต้องใช้กระชายประมาณ 2 ขีดครึ่งต่อครั้ง ซึ่งปริมาณนี้อาจจะเกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารของบางคนได้ 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการกินกระชาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพนั้น อยากให้เริ่มทานในปริมาณที่น้อย ไม่ต้องสูงมาก แต่หากทานร่วมกับอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องเทศ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแข็งแรงได้ดี แต่เมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 แล้ว กระชายจะช่วยให้ร่างกายมีความอบอุ่น แต่ยังไม่ใช่เครื่องมือที่ดี ในการรักษาโควิด-19  อย่างไรก็ตามการรับประทานกระชาย 2 ขีดครึ่ง ยังเป็นการศึกษาที่เร็วและด่วนเกินไป และยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อทานกระชายเข้าไป 2 ขีดครึ่งจะเกิดการดูดซึมเท่าไหร่ จะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

คนไข้โควิด-19 อาจจะมีผู้ติดเชื้อที่มีอาการ หรือไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยหรือมาก ผู้ที่มีอาการน้อยกระชายสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นได้ เมื่อร่างกายอบอุ่น ร่างกายก็จะอยู่ในสภาวะที่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น แต่ต้องทำร่วมกับการรักษาที่ทางการแพทย์แนะนำร่วมด้วย

มีการกล่าวว่าการทานกระชาย ดีกว่าการทานขิงและฟ้าทะลายโจรเป็น 10 เท่าจริงหรือไม่?

ภญ.ดร.ผกากรอง ระบุว่า มาจากการศึกษาของอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยนำพืชสมุนไพรมา 122 ชนิด ชนิดของพืชเป็นสารสกัดทั้งหมด และพบว่ามี 3 ชนิดที่น่าจะเด่นในการต้านไวรัสโควิด-19 สามารถไปยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้คือ กระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร เมื่อเทียบความเข้มข้นและความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแบ่งตัวของไวรัสแล้วพบว่ากระชายมีคุณสมบัติดีที่สุด รองลงมาคือขิง และฟ้าทะลายโจร ตามลำดับ และความสามารถของกระชาย ดีกว่าขิง และฟ้าทะลาย ถึง 20 เท่าในกลไกที่สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้  แต่ยังเป็นการศึกษาที่อยู่ในหลอดทดลอง  อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสมุนไพรโดยธรรมชาติ มีฤทธิ์ในการต้านไวรัส ไม่ดีเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ฉะนั้นอาจจะต้องมีกลไกอื่นๆ ที่เราจะต้องศึกษาเพิ่มเติม แล้วดูว่าบทบาทของยาที่เราศึกษาพัฒนาวิจัยมา จะมาอยู่ส่วนไหนในขั้นตอนการรักษาได้

มีการแชร์กันว่าการนำกระชายมาสกัดร้อน สกัดเย็น จะทำให้ไม่ป่วยจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนที่ไหนตาม เรื่องนี้เป็นอย่างไร?

ภญ.ดร.ผกากรอง ระบุว่า มีความจริงบางส่วน การศึกษากระชายในปัจจุบันมีการศึกษาแล้ว แต่ยังเป็นในระดับเซลล์แบบที่บอกไปข้างต้น ซึ่งยังต้องมีการศึกษาต่อในระดับสัตว์ทดลอง และในคนต่อไป แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดใหม่ อาการของผู้ป่วยแต่ละรอบก็ยังไม่เหมือนกัน เรายังต้องเรียนรู้อะไรจากโควิด-19 อีกมาก

กระชายเป็นอาหารอยู่แล้ว สามารถที่จะบริโภคได้ โดยรับประทานแบบปั่นหรือคั้นน้ำ ถ้าจะปรุงรสด้วยมะนาวหรือน้ำผึ้งก็ได้ แต่ที่เห็นจำหน่ายในท้องตลาด จะมีการใส่น้ำผึ้งในปริมาณที่สูง อาจจะมีผลกับผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรคเบาหวาน หากต้องการรับประทานดีที่สุดคือควรทำรับประทานเอง

แนะทานกระชายทั้งเนื้อมีประโยชน์กว่าบริโภคเป็นน้ำอย่างเดียว

เท่าที่ทราบงานวิจัยเป็นการสกัดตัวกระชายด้วยการทำละลาย แต่ในระดับประชาชนเราคงไม่ได้ใช้ตัวทำละลาย เข้าไปสกัด ส่วนใหญ่ประชาชนจะทานเป็นแง่ง หรือที่เรียกว่า นมกระชาย หรืออาจจะนำมาปั่นแยกน้ำ หรือนำมาปั่น แล้วบริโภคไปพร้อมกับน้ำ ถ้าดูข้อมูลแพนดูราทินเอซึ่งเป็นสารสำคัญที่อยู่ในเนื้อกระชายนั้น ฉะนั้นการรับประทานที่จะได้ประโยชน์คือต้องรับประทานไปทั้งเนื้อ จะมีประโยชน์กว่าการที่บริโภคเป็นน้ำอย่างเดียว

เตือน ผู้ป่วยโรคตับไตถุงน้ำดีอุดตันหญิงตั้งครรภ์หญิงให้นมบุตรควรระวังในการบริโภคกระชายในปริมาณสูง

ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจมีความจำเป็น ที่ต้องระมัดระวังหากบริโภคกระชายทุกวัน กลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการทานกระชายคือ1.กลุ่มผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากกระชายเป็นสมุนไพรที่มีโพแทสเซียมสูง ถ้าบริโภคนานๆ ปริมาณสูง ก็อาจจะทำให้มีผลเกิดการสะสมของโพแทสเซียมในร่างกาย เกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจ หรือทำให้ไตต้องทำงานหนักเพื่อที่จะขับโพแทสเซียมออก 2.ผู้ป่วยโรคตับ โดยหลักการทางการแพทย์ถ้าตับและไตทำงานไม่ดี การใช้สมุนไพรหรืออาหารเสริมใดๆเข้าไป จะยิ่งทำให้การทำงานของตับและไตทำงานเพิ่มขึ้น 3. กลุ่มผู้ป่วยที่มีถุงน้ำดีอุดตัน พืชในกลุ่มที่ลงหัว ทางพฤษศาสตร์เรียกว่า ซิงจิเบอร์ร่าซีอี้ จะต้องมีความระมัดระวังในการใช้ หากใช้ในปริมาณสูงๆ ก็จะทำให้น้ำดีหลังมากขึ้น หากถุงน้ำดีมีการอุดตันอยู่แล้ว อาจจะทำให้เกิดการปวดหรือการอักเสบเพิ่มมากขึ้น 4.กลุ่มเปราะบาง เช่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หากจะทานในปริมาณสูงก็ควรระมัดระวัง

เภสัชกรชี้หากมีอาการป่วย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ควรพบแพทย์

“ในตอนนี้หลายคนอาจจะมีอาการคล้ายๆ กับการเป็นไข้หวัด ก็ต้องมองย้อนกลับไปว่าเราอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการรับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ มีญาติ คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน คนใดเป็นโควิด-19 หรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงสูงก็ควรไปตรวจอาการเพื่อดูให้ชัดว่าเราติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และกันตัวเองออกจากผู้อื่น สำหรับคนที่มีอาการคล้ายๆ ไข้หวัด แต่ไม่ได้สัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ป่วยโควิด-19 สามารถใช้กระชายเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองได้ การใช้กระชายเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น และสร้างสมดุลขึ้นในร่างกาย แต่ไม่ควรที่จะใช้กระชายเพียงอย่างเดียวในการรักษา ควรจะมีการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หากมีเสมหะ ก็ใช้กระชายร่วมกับยาแก้ไอ มะขามป้อม หรือขิงก็ได้ หากมีไข้ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ก็อาจจะเหมาะกับฟ้าทะลายโจร

การป้องกันและรักษาโควิด-19 เป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพร หรือยาชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำการรักษาโดยวิธีเดียว ต้องใช้ร่วมกันหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของกระชาย ที่ยังมีข้อมูลไม่มากพอที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือเดียวในการรักษาโรค คงต้องรอการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เรื่องนี้สิ่งที่สามารถแชร์ได้คือ วิธีการทำน้ำกระชาย แต่อาจจะต้องบอกว่าวิธีการที่เราใช้กระชายเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพเท่านั้น” ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าว

ม.มหิดล ออกแถลงการณ์ อยู่ระหว่างการศึกษาสารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลอง

วันที่ 25 พ.ค. 64 มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์เรื่อง การอ้างถึงผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อประกอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับสรรพคุณของสารสกัดกระชายขาว ในการต้านโรคโควิด-19 ว่า สารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อก่อโรคโควิด-19 ได้ในหลอดทดลอง และอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม ในด้านความปลอดภัย ปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภค และข้อบ่งชี้การใช้ในมนุษย์ในการต้านโรคโควิด-19 อย่างเหมาะสม ดังนั้นจึงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการต้านโรคโควิด-19 ได้

แถลงการณ์ดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า ไม่อนุญาตให้นำภาพต่างๆ ของนักวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล และ TCELS ไปประกอบการโฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.facebook.com/mahidol/photos/a.10153450690529012/10161247225279012/
https://www.youtube.com/watch?v=yYL0_mTT4nE

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้