ชัวร์ก่อนแชร์ : กินกระชาย “ป้องกัน-รักษา” โควิด-19 ได้ จริงหรือ ?

28 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลว่ากินกระชายสามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ มีสรรพคุณในการต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีกว่าขิงและฟ้าทะลายโจรได้มากถึง 10-20 เท่านั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลกับ ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า จริงบางส่วน

บทสรุป จริงบางส่วน ต้องอธิบายเพิ่ม


·        กระชายเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพเท่านั้น ไม่ใช่การกินเพื่อป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้

·        การศึกษากระชายรักษาและป้องกันโควิด-19 ยังเป็นการศึกษาในระดับเซลล์ ซึ่งพบว่าประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อเมื่อเข้าสู่เซลล์ จะดีกว่าการป้องกันเชื้อเข้าสู่เซลล์ ยังคงต้องมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ต่อไป

·        การป้องกันและรักษาโควิด-19 เป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพร หรือยาชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำการรักษาเพียงอย่างเดียว


·        คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ยืนยัน ยังอยู่ระหว่างการทดลอง

ข้อมูลที่ถูกแชร์

“(มะนาว)น้ำกระชายขาวน้ำผึ้ง(มะนาว) เครื่องดื่มทรงคุณค่า ด้านโควิท  กระชายขาว” พบว่าสารสกัดจากกระชายขาว ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิด สามารถยับยั้งการเจริฐเติบโตของโควิด-19 ได้ถึง 100% โดยสารสำคัญทั้ง 2 ตัวที่อยู่ในกระชายขาว ได้แก่ Pandulatin A และ Pinostrobin สารทั้ง 2 ตัวในกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด-19 ได้ ซึ่งสารทั้ง 2 ตัวนี้สามารถลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อจาก 100% ให้ลดลงจนเหลือ 0% นอกจากนี้ ยังสามารถยับยั้งเซลล์ในการผลิตไวรัสได้ถึง 100% อีกด้วย”

“……ของดีมีอุ่นใจ ห่างไกลโรค เอาไว้ดูแลสุขภาพช่วงนี้ กระชายขาว 1.สารสกัดกระชายขาว(30 แคปซูล) 179฿2.กระชายขาวผงชงดื่ม 150g  260฿ ขิง 3.ขิงผง กรีนฟาร์ม รสเข้มข้น ขิง 95% น้ำตาล 5% แบบซอง 15gx10 ซอง 145฿ 4.ขิงผง กรีนฟาร์ม รสกลมกล่อม ขิง 90% น้ำตาล 10% แบบซอง 15gX10ซอง 145฿….”

“กระชายขาว 100% กระชายขาวสกัด แคปซูล จำนวน 60 แคปซูล ต่อต้านไวรัส โควิด-19 ฿ 249.00 สรรพคุณของกระชายขาว ต่อต้านและยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัส ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุของโควิด-19….”

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อมูล

กระชายสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ เป็นผลการศึกษาที่อยู่ในระดับเซลล์

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลกับ ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พบว่า ผลการศึกษาเรื่องของกระชายยังอยู่ในระดับเซลล์ ในกรณีผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อ   โควิด-19 เข้าไปแล้ว สารสำคัญที่อยู่ในกระชายคือ แพนดูราทินเอ (Panduratin A) สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส   โควิด-19 ได้ และยับยั้งการเข้าสู่เซลล์ของเชื้อได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของการยับยั้งเชื้อเมื่อเข้าสู่เซลล์จะดีกว่าการป้องกันเชื้อเข้าสู่เซลล์ ทั้งนี้การศึกษาในเรื่องดังกล่าวยังเป็นการศึกษาในระดับเบื้องต้น ยังคงต้องมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลอง และในมนุษย์ต่อไป เพราะเรายังไม่มีกระชายในรูปแบบของยาที่ใช้ในระบบบริการสุขภาพ การศึกษาสมุนไพรจะต้องมีการศึกษาในหลายแง่มุม ต้องดูว่าในตำราดั้งเดิมเราใช้อย่างไร ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยเราจะใช้กระชายในโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ช่วยขับลม บำรุงกำลังเป็นหลัก ไม่ค่อยได้ใช้ในเรื่องของระบบทางเดินหายใจ โดยภาพรวมกระชายเป็นสมุนไพรที่ให้ความอบอุ่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด อาจจะทำให้มีการปรับสมดุลของร่างกายได้

“ปัญหาคือการศึกษาในระดับเซลล์ที่มีขึ้น เบื้องต้นพบว่ามีแนวโน้มที่จะยับยั้งการเติบโตของไวรัส รวมทั้งป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ แต่ปัญหาที่จะนำมาใช้ในคนคือยังไม่รู้ว่า ถ้าคนกินสารสกัดกระชายไปแล้วจะเกิดการดูดซึมได้หรือไม่ กลไกที่แท้จริงของกระชายต่อไวรัสโควิด-19 คือกลไกอะไรกันแน่ ก่อนหน้าที่มีการศึกษาในฟ้าทะลายโจรจะเห็นว่ากลไกที่ยับยั้งการแบ่งตัวของฟ้าทะลายโจรต่อเชื้อไวรัสจะออกฤทธิ์ได้ดีในช่วงระยะท้ายๆ ซึ่งก็เหมาะสมที่ไปเสริมในการรักษากับยาแผนปัจจุบันที่มักจะออกฤทธิ์ในช่วงแรกๆ ของการแบ่งตัว แต่กระชายยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ ยังไม่ทราบว่าต้องใช้กระชายเท่าไหร่ถึงจะมีประสิทธิผลในคน และความปลอดภัยเป็นอย่างไร เมื่อพิจารณาถึงผลดังกล่าว การหวังผลที่จะนำกระชายมาใช้ในการรักษาอาการโควิด-19 หรือว่าป้องกัน คงยังเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ แต่การกินกระชาย ก็ไม่ได้เกิดผลเสียอะไรต่อร่างกายนัก โดยเฉพาะในรูปแบบของการรับประทานเป็นอาหาร”

ถ้าจะกินให้ได้เท่ากับขนาดยาที่ทำการศึกษาวิจัย อาจจะต้องใช้กระชายประมาณ 2 ขีดครึ่งต่อครั้ง

ประชาชนควรยึดหลักโดยใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการสู้กับโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงของการป้องกัน ขนาดของการศึกษาในหลอดทดลองที่เป็นขนาดของคนกิน ถ้าจะกินให้ได้เท่ากับขนาดยาที่ทำการศึกษาวิจัย อาจจะต้องใช้กระชายประมาณ 2 ขีดครึ่งต่อครั้ง ซึ่งปริมาณนี้อาจจะเกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารของบางคนได้ 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการกินกระชาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพนั้น อยากให้เริ่มทานในปริมาณที่น้อย ไม่ต้องสูงมาก แต่หากทานร่วมกับอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องเทศ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแข็งแรงได้ดี แต่เมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 แล้ว กระชายจะช่วยให้ร่างกายมีความอบอุ่น แต่ยังไม่ใช่เครื่องมือที่ดี ในการรักษาโควิด-19  อย่างไรก็ตามการรับประทานกระชาย 2 ขีดครึ่ง ยังเป็นการศึกษาที่เร็วและด่วนเกินไป และยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อทานกระชายเข้าไป 2 ขีดครึ่งจะเกิดการดูดซึมเท่าไหร่ จะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

คนไข้โควิด-19 อาจจะมีผู้ติดเชื้อที่มีอาการ หรือไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยหรือมาก ผู้ที่มีอาการน้อยกระชายสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นได้ เมื่อร่างกายอบอุ่น ร่างกายก็จะอยู่ในสภาวะที่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น แต่ต้องทำร่วมกับการรักษาที่ทางการแพทย์แนะนำร่วมด้วย

มีการกล่าวว่าการทานกระชาย ดีกว่าการทานขิงและฟ้าทะลายโจรเป็น 10 เท่าจริงหรือไม่?

ภญ.ดร.ผกากรอง ระบุว่า มาจากการศึกษาของอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยนำพืชสมุนไพรมา 122 ชนิด ชนิดของพืชเป็นสารสกัดทั้งหมด และพบว่ามี 3 ชนิดที่น่าจะเด่นในการต้านไวรัสโควิด-19 สามารถไปยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้คือ กระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร เมื่อเทียบความเข้มข้นและความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแบ่งตัวของไวรัสแล้วพบว่ากระชายมีคุณสมบัติดีที่สุด รองลงมาคือขิง และฟ้าทะลายโจร ตามลำดับ และความสามารถของกระชาย ดีกว่าขิง และฟ้าทะลาย ถึง 20 เท่าในกลไกที่สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้  แต่ยังเป็นการศึกษาที่อยู่ในหลอดทดลอง  อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสมุนไพรโดยธรรมชาติ มีฤทธิ์ในการต้านไวรัส ไม่ดีเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ฉะนั้นอาจจะต้องมีกลไกอื่นๆ ที่เราจะต้องศึกษาเพิ่มเติม แล้วดูว่าบทบาทของยาที่เราศึกษาพัฒนาวิจัยมา จะมาอยู่ส่วนไหนในขั้นตอนการรักษาได้

มีการแชร์กันว่าการนำกระชายมาสกัดร้อน สกัดเย็น จะทำให้ไม่ป่วยจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนที่ไหนตาม เรื่องนี้เป็นอย่างไร?

ภญ.ดร.ผกากรอง ระบุว่า มีความจริงบางส่วน การศึกษากระชายในปัจจุบันมีการศึกษาแล้ว แต่ยังเป็นในระดับเซลล์แบบที่บอกไปข้างต้น ซึ่งยังต้องมีการศึกษาต่อในระดับสัตว์ทดลอง และในคนต่อไป แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดใหม่ อาการของผู้ป่วยแต่ละรอบก็ยังไม่เหมือนกัน เรายังต้องเรียนรู้อะไรจากโควิด-19 อีกมาก

กระชายเป็นอาหารอยู่แล้ว สามารถที่จะบริโภคได้ โดยรับประทานแบบปั่นหรือคั้นน้ำ ถ้าจะปรุงรสด้วยมะนาวหรือน้ำผึ้งก็ได้ แต่ที่เห็นจำหน่ายในท้องตลาด จะมีการใส่น้ำผึ้งในปริมาณที่สูง อาจจะมีผลกับผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรคเบาหวาน หากต้องการรับประทานดีที่สุดคือควรทำรับประทานเอง

แนะทานกระชายทั้งเนื้อมีประโยชน์กว่าบริโภคเป็นน้ำอย่างเดียว

เท่าที่ทราบงานวิจัยเป็นการสกัดตัวกระชายด้วยการทำละลาย แต่ในระดับประชาชนเราคงไม่ได้ใช้ตัวทำละลาย เข้าไปสกัด ส่วนใหญ่ประชาชนจะทานเป็นแง่ง หรือที่เรียกว่า นมกระชาย หรืออาจจะนำมาปั่นแยกน้ำ หรือนำมาปั่น แล้วบริโภคไปพร้อมกับน้ำ ถ้าดูข้อมูลแพนดูราทินเอซึ่งเป็นสารสำคัญที่อยู่ในเนื้อกระชายนั้น ฉะนั้นการรับประทานที่จะได้ประโยชน์คือต้องรับประทานไปทั้งเนื้อ จะมีประโยชน์กว่าการที่บริโภคเป็นน้ำอย่างเดียว

เตือน ผู้ป่วยโรคตับไตถุงน้ำดีอุดตันหญิงตั้งครรภ์หญิงให้นมบุตรควรระวังในการบริโภคกระชายในปริมาณสูง

ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจมีความจำเป็น ที่ต้องระมัดระวังหากบริโภคกระชายทุกวัน กลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการทานกระชายคือ1.กลุ่มผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากกระชายเป็นสมุนไพรที่มีโพแทสเซียมสูง ถ้าบริโภคนานๆ ปริมาณสูง ก็อาจจะทำให้มีผลเกิดการสะสมของโพแทสเซียมในร่างกาย เกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจ หรือทำให้ไตต้องทำงานหนักเพื่อที่จะขับโพแทสเซียมออก 2.ผู้ป่วยโรคตับ โดยหลักการทางการแพทย์ถ้าตับและไตทำงานไม่ดี การใช้สมุนไพรหรืออาหารเสริมใดๆเข้าไป จะยิ่งทำให้การทำงานของตับและไตทำงานเพิ่มขึ้น 3. กลุ่มผู้ป่วยที่มีถุงน้ำดีอุดตัน พืชในกลุ่มที่ลงหัว ทางพฤษศาสตร์เรียกว่า ซิงจิเบอร์ร่าซีอี้ จะต้องมีความระมัดระวังในการใช้ หากใช้ในปริมาณสูงๆ ก็จะทำให้น้ำดีหลังมากขึ้น หากถุงน้ำดีมีการอุดตันอยู่แล้ว อาจจะทำให้เกิดการปวดหรือการอักเสบเพิ่มมากขึ้น 4.กลุ่มเปราะบาง เช่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หากจะทานในปริมาณสูงก็ควรระมัดระวัง

เภสัชกรชี้หากมีอาการป่วย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ควรพบแพทย์

“ในตอนนี้หลายคนอาจจะมีอาการคล้ายๆ กับการเป็นไข้หวัด ก็ต้องมองย้อนกลับไปว่าเราอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการรับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ มีญาติ คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน คนใดเป็นโควิด-19 หรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงสูงก็ควรไปตรวจอาการเพื่อดูให้ชัดว่าเราติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และกันตัวเองออกจากผู้อื่น สำหรับคนที่มีอาการคล้ายๆ ไข้หวัด แต่ไม่ได้สัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ป่วยโควิด-19 สามารถใช้กระชายเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองได้ การใช้กระชายเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น และสร้างสมดุลขึ้นในร่างกาย แต่ไม่ควรที่จะใช้กระชายเพียงอย่างเดียวในการรักษา ควรจะมีการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หากมีเสมหะ ก็ใช้กระชายร่วมกับยาแก้ไอ มะขามป้อม หรือขิงก็ได้ หากมีไข้ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ก็อาจจะเหมาะกับฟ้าทะลายโจร

การป้องกันและรักษาโควิด-19 เป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพร หรือยาชนิดใดชนิดหนึ่ง ทำการรักษาโดยวิธีเดียว ต้องใช้ร่วมกันหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของกระชาย ที่ยังมีข้อมูลไม่มากพอที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือเดียวในการรักษาโรค คงต้องรอการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เรื่องนี้สิ่งที่สามารถแชร์ได้คือ วิธีการทำน้ำกระชาย แต่อาจจะต้องบอกว่าวิธีการที่เราใช้กระชายเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพเท่านั้น” ภญ.ดร.ผกากรอง กล่าว

ม.มหิดล ออกแถลงการณ์ อยู่ระหว่างการศึกษาสารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลอง

วันที่ 25 พ.ค. 64 มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์เรื่อง การอ้างถึงผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อประกอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับสรรพคุณของสารสกัดกระชายขาว ในการต้านโรคโควิด-19 ว่า สารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อก่อโรคโควิด-19 ได้ในหลอดทดลอง และอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม ในด้านความปลอดภัย ปริมาณที่เหมาะสมต่อการบริโภค และข้อบ่งชี้การใช้ในมนุษย์ในการต้านโรคโควิด-19 อย่างเหมาะสม ดังนั้นจึงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการต้านโรคโควิด-19 ได้

แถลงการณ์ดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า ไม่อนุญาตให้นำภาพต่างๆ ของนักวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล และ TCELS ไปประกอบการโฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.facebook.com/mahidol/photos/a.10153450690529012/10161247225279012/
https://www.youtube.com/watch?v=yYL0_mTT4nE

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]