ชัวร์ก่อนแชร์ : แนะกิน Fish Oil,ยาพารา,กล้วย, ฯลฯก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19จริงหรือ?

17 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


ตามที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดียถึงวิธีการเตรียมพร้อมก่อนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เช่น ก่อนฉีดวัคซีนให้กินยาพาราเซตามอล, Fish Oil เพื่อป้องกันเลือดแข็งตัว แนะนำให้ทานกล้วย รวมถึงอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงๆ ตลอดจนงดเครื่องดื่มชา กาแฟนั้น เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรมาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันกับ “ชัวร์ก่อนแชร์”

ข้อมูลที่ถูกแชร์


“ก่อนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19  แนะนำตามนี้ (ทุกท่านทั้งอายุ 18-59 และ อายุ 60 ขึ้นไป) ช่วง 2 สัปดาห์ ก่อนฉีด : 1. ทาน Fish Oil (โดย Fish Oil ที่ EPA มากๆ)  ช่วยป้องกันเลือดแข็งตัว 2. ทานแมกนีเซียม คีเลต , อาหารที่มีแมกนีเซียม เช่น กล้วย อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ อโวคาโด ผักโขม ดาร์คชอคโกแลต ข้าวโอ๊ต ก่อนฉีด  ช่วยป้องกันกล้ามเนื้อหดเกร็ง ควบคุมระดับคลอเรสเตอรอล 3. ทานนํ้าเยอะๆ วันละ 1-2 ลิตร (ช่วยให้เลือดไม่หนืด) 2-3 ก่อนวันที่ฉีด และวันที่ฉีด : 4. นอนให้เต็มที่ 5. งด ชา กาแฟ, งดยา cafergot, relpax ( ยาไมเกรน) วันที่ฉีด : 6. ทานน้ำมาซัก 1 ลิตรก่อนฉีด ( ป้องกันเลือดหนืด เลือดแข็งตัว )

….ก่อนฉีดให้กิน vitamin c 1000 mg ฉีด แล้วให้กินต่อไป เพิ่มภูมิต้านทาน 2)ก่อนไปฉีด 4วันให้ดื่มน้ำบ่อยๆ มากหน่อยเวลาฉีดจะคอแห้งทันที ให้พกขวดน้ำไปด้วย 3)ไป รพ.ที่คนหนาแน่น ให้สวมmask 2ชั้น หน้ากากอนามัยไว้ด้านใน หน้ากากผ้าด้านนอก 4)ก่อนฉีดให้กิน para ไปก่อนเลย ฉีดแล้วปวดแขน….”

Fact Check : ตรวจสอบข้อมูล


ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท ได้ตรวจสอบข้อมูลกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน นายแพทย์พรศักดิ์ อยู่เจริญ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้คำตอบดังนี้

Q : ก่อนฉีดวัคซีนให้กิน vitamin C 1000 mg เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน?
A : วิตามินซีเป็นวิตามินที่มีลักษณะเป็น Antioxidant เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดหากจะทานวิตามินซีก่อนฉีดวัคซีน แต่การทานวิตามินซี ไม่ได้มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพดีขึ้น

Q : ก่อนไปฉีดวัคซีนควรดื่มน้ำบ่อยๆ และเวลาฉีดวัคซีนจะคอแห้งทันที ให้พกขวดน้ำไปด้วย?
A : เรื่องคอแห้งทันทีจะเป็นเรื่องของอาการวิตกกังวล แต่การฉีดวัคซีนอยากให้ปฏิบัติตัวเป็นปกติ เพราะหากเกิดอาการวิตกกังวลก็จะเกิดอาการใจสั่น เหงื่อออก รู้สึกคอแห้ง ซึ่งจะเป็นอาการของระบบประสาทที่เกิดจากความวิตกกังวล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ร่างกายขาดน้ำ อีกทั้งการฉีดวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ แต่ความวิตกกังวลจะทำให้ร่างกายเกิดการกระหายน้ำ ใจสั่น มือเย็น หรือเกิดอาการความดันขึ้นได้

Q : ควรดื่มน้ำให้มากๆ ก่อนไปรับวัคซีนหรือไม่?
A : หากดื่มน้ำในปริมาณมากก็จะทำให้ปวดปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้เกิดความวิตกกังวลในระหว่างรอฉีดวัคซีนได้ ฉะนั้นให้ดื่มน้ำไปตามปกติ และควรดื่มน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 1-2 ลิตร ให้เป็นปกติวิสัย

Q : ควรสวม Mask 2 ชั้น หน้ากากอนามัยไว้ด้านใน หน้ากากผ้าด้านนอก เมื่อไปโรงพยาบาลที่คนหนาแน่น?
A : ควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ด้านนอก เพื่อป้องกันสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย โดยด้านสีเข้มจะเคลือบสารป้องกันน้ำที่จะซึมเข้ามา ส่วนด้านในจะไม่ได้เคลือบสารอะไร เพื่อเป็นการดูดซึมน้ำมูก น้ำลายของผู้ที่สวมใส่

สำหรับการใส่หน้ากาก 2 ชั้น ก็จะทำให้เกิดการกรองได้มากขึ้น แต่ถ้าหากอยู่ในพื้นที่ที่ชุมชนเปิดโล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี อาจจะไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากถึง 2 ชั้น ยกเว้นการป้องกันตัวจากฝุ่น PM 

การใช้หน้ากากอนามัย หากเป็นการป้องกัน น้ำมูก น้ำลาย การสวมใส่เพียงชั้นเดียวก็เพียงพอแล้ว ยกเว้นการเข้าไปในพื้นที่แออัด มีผู้คนจำนวนมาก เป็นพื้นที่ปิด เช่น รถไฟฟ้า หรือรถเมล์  หากมีความกังวลก็สามารถสวมใส่หน้ากาก 2 ชั้นได้

Q : ควรกินยาพาราเซตามอล ก่อนฉีดวัคซีน?  
A : ไม่แนะนำให้ทานยาพาราเซตามอลก่อนเข้ารับวัคซีน เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นไม่ดี ควรรับประทานยาพาราเซตามอลเมื่อมีอาการปวดภายหลังจากการฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น

การฉีดวัคซีนไม่ได้ทำให้เจ็บปวดอะไร แต่ขึ้นอยู่กับเทคนิคการให้บริการของเจ้าหน้าที่ เช่น การฉีดวัคซีนในขณะที่ปลายเข็มแหงนขึ้นใกล้หัวไหล่ หรือข้อหัวไหล่ ก็จะยิ่งปวด  รวมถึงการฉีดวัคซีนในขณะที่มีอุณหภูมิที่เย็นจัดจนเกินไปก็จะทำให้เกิดการเจ็บปวดได้  

Q : ควรทาน Fish Oil โดยเฉพาะ Fish Oil ที่ EPA มากๆ จะช่วยป้องกันเลือดแข็งตัวก่อนฉีดวัคซีน?
A : ไม่จำเป็นต้องทาน Fish Oil ก่อนเข้ารับวัคซีน ทั้งนี้หากกังวลในเรื่องการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน  Fish Oil ก็ไม่ได้ช่วยป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน เพราะการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจะเกิดขึ้นได้หลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 7-10 วัน แต่หากทาน Fish Oil เป็นปกติอยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร การทานยาหรือกินอาหารเสริมก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

Q : ควรทานแมกนีเซียม คีเลต, อาหารที่มีแมกนีเซียม เช่น กล้วย อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ อโวคาโด ผักโขม ดาร์คชอคโกแลต ข้าวโอ๊ต ก่อนฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันกล้ามเนื้อหดเกร็ง และควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลได้?
A :
อาหารพวกนี้เป็นอาหารที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูง ซึ่งจะช่วยในเรื่องภาวะการเป็นตะคริวสำหรับคนที่ขาดเกลือแร่ แต่หากผู้ฉีดวัคซีนมีความกังวลก่อนฉีดวัคซีนก็อาจจะเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก กล้ามเนื้อหดเกร็งได้ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากภาวะการวิตกกังวล ไม่ได้เกิดจากภาวะพร่องแคลเซียมหรือแมกนีเซียม อย่างไรก็ตามหากจะทานอาหารดังกล่าวเพราะเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยทำให้ไม่เกิดอาการชัก อาการเกร็งนั้น ก็คงไม่ได้ช่วยอะไร เพราะพวกนี้เป็นอาหารที่ไปเสริมคนที่พร่องแคลเซียมหรือแมกนีเซียม ซึ่งเป็นอาหารที่บำรุงร่างกายทั่วไป  

Q : ควรนอนให้เต็มที่ก่อนเข้ารับวัคซีน?
A : การที่ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานได้ดีก็ต้องได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ การพักผ่อนที่เพียงพอจะทำให้ร่างกายตอบสนองการสร้างภูมิต้านทานได้ดีขึ้น

Q : งด ชา กาแฟ งดยา cafergot, relpax ( ยาไมเกรน) ในวันที่จะฉีดวัคซีน?
A : ยาพวกนี้เป็นยาที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว รวมถึง ชา กาแฟ เป็นตัวกระตุ้นทำให้หลอดเลือดเกร็ง ในคนทั่วไปถ้าเกิดการวิตกกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนก็จะมีอาการใจสั่น เหงื่อออก รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย ความดันขึ้น และหากยิ่งทานของพวกนี้เข้าไป ก็จะทำให้ใจสั่นมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นชา กาแฟ ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงก่อนไปฉีดวัคซีน

Q : หากมีภาวะใจสั่นอยู่ในขณะนั้น แพทย์จะทำการฉีดวัคซีนให้หรือไม่?
A : แพทย์จะให้นั่งพักก่อน หากความดันขึ้นก็จะให้นั่งพัก 5-10 นาที หรือบางรายอาจจะเป็นชั่วโมงจนกกว่าจะทำใจได้  

Q : คนที่เป็นโรคหัวใจสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่?
A : โรคหัวใจรวมอยู่ในกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ขอให้คนกลุ่มนี้ทานยาตามปกติก่อนเข้ารับวัคซีนเพื่อคุมร่างกายให้เป็นปกติ

Q : ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และทานยาต้านเศร้าเป็นประจำ สามารถรับวัคซีนได้หรือไม่?
A :
หากยังคุมภาวะซึมเศร้าไม่ได้ก็ยังไม่เหมาะที่จะรับวัคซีน คนที่มีโรคประจำตัวจะต้องเป็นคนที่สามารถคุมภาวะอาการต่างๆ ได้ดี เช่น หากใจสั่น หน้ามืด หรือจะช็อกก่อนฉีดวัคซีน เราก็จะไม่แนะนำ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะดูแล้วไม่เหมาะสมที่จะฉีดวัคซีน ก็จะไม่แนะนำ

กลุ่มที่มีโรคประจำตัวหรือมีโรคเรื้อรัง หากไม่แน่ใจว่าสามารถรับการฉีดวัคซีนได้หรือไม่ ควรปรึกษากับแพทย์ประจำตัวก่อนว่ามีความพร้อมในการรับวัคซีนหรือไม่ แต่หากผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า สามารถคุมภาวะอาการได้ดี และไม่ได้มีอาการซึมเศร้าแล้ว มีการทานยาเป็นปกติ ไม่ได้ขาดยา ก็สามารถรับวัคซีนได้ตามปกติ เพราะวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดภาวะรวนในสมอง สิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ คือความวิตกกังวลจนทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติก็เลยเกิดภาวะนั้นเป็นการชั่วคราว เพราะเสพข้อมูลวัคซีนในทางผิดมากเกินไป

“แพทย์” แนะเตรียมความพร้อม 3 ด้านก่อนรับวัคซีน
นายแพทย์พรศักดิ์ อยู่เจริญ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ควรเตรียมความพร้อมทั้งหมด 3 ส่วน 1. เตรียมความพร้อมด้านองค์ความรู้ ทำความเข้าใจ รับรู้ข้อมูลข่าวสารประโยชน์ หรือโทษ และข้อจำกัดของการรับวัคซีน 2. เตรียมความพร้อมด้านร่างกาย ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ผู้มีโรคประจำตัวให้ทานยาตามปกติไม่ต้องอดหรือกังวลอะไร ให้ทำตัวเหมือนปกติ และไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปจนเกินไป 3. เตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ไม่ควรวิตกกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนจนมากเกินไป

“วัคซีนเป็นสิ่งของที่อยู่ภายนอกร่างกาย เมื่อฉีดเข้าไปก็จะต้องรู้สึกแปลกๆ บ้าง เช่น จะรู้สึกว่าตึงสักพักหนึ่ง ถ้ามีอาการปวด หลังจากได้รับวัคซีนก็สามารถทานยาพาราเซตามอลหลังจากนั้นได้ ทั้งนี้หากใครเคยได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อน ก็จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง”นายแพทย์พรศักดิ์ ระบุ

ข้อมูลอ้างอิง
การสัมภาษณ์ นายแพทย์พรศักดิ์ อยู่เจริญ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย