ชัวร์ก่อนแชร์ : มหาเศรษฐีชาวอินเดียแห่เช่าเครื่องบินเหมาลำเข้าไทย จริงหรือ?

26 เมษายน 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


ตามที่มีการแชร์กันผ่านสื่อโซเซียลว่า มหาเศรษฐีชาวอินเดียจำนวนมากเช่าเครื่องบินเหมาลำบินออกนอกประเทศหลังระบบสาธารณสุขในประเทศล่มจากโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีการแชร์ข้อมูลพบนักศึกชาวอินเดีย 7 คนทำการรักษาโควิด-19 อยู่ที่ประเทศไทยด้วยนั้น ไม่เป็นความจริง

บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ


  • ศบค.ยืนยันไม่มีเครื่องบินเช่าเหมาลำจากอินเดียเข้ามาลงที่ประเทศไทย
  • กต. แจง 7 ชาวอินเดียที่รักษาโควิดในไทย เข้ามาตามเที่ยวบินปกติที่ได้จองไว้ล่วงหน้า โดยขออนุญาตเข้ามายังประเทศไทยแล้ว ไม่ใช่การเช่าเหมาลำ เป็นผู้มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย 1 คน  อีก 6 คนเป็นนักศึกษาและผู้ติดตามนักศึกษา

ข้อมูลที่ถูกแชร์

“มหาเศรษฐีอินเดียจำนวนมาก เร่งเหมาเครื่องบินส่วนตัวบินออกต่างประเทศ หลังระบบสาธารณสุขในประเทศล่มจากโควิด-19 โดยเที่ยวบินอินเดีย-ดูไบ อยู่ที่ 38,000$ หรือหรือ 1.1 ล้านบาท/เที่ยว พรุ่งนี้มีถึง 12 เที่ยวบินไปดูไบ เต็มทุกที่นั่งและตามรายงานมีบางส่วนเดินทางเข้าไทยด้วย”

ภาพที่ถูกแชร์

Fact Check : ตรวจสอบข้อเท็จจริง


กต.ยันข่าวชาวอินเดียเช่าเหมาลำมาไทยคาดเคลื่อน สื่อแปลผิด และสถานกงสุลไทยในอินเดียยืนยันไม่ได้ออก COE ให้บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยเดินทางเข้าประเทศโดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำในช่วงนี้

ข่าวชาวอินเดียเช่าเหมาลำมาไทยคาดเคลื่อน สื่อแปลผิด

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท สำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แล้วพบว่า รายงานข่าวเกี่ยวกับชาวอินเดียเช่าเหมาลำเครื่องบินเพื่อเดินทางมาประเทศไทยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น 1. เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนข้างต้นเกิดจากการแปลข่าวที่ตีพิมพ์โดยสำนักข่าวต่างประเทศผิด ทำให้มีการตีความว่า มีกลุ่มบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีฐานะร่ำรวยประสงค์จะเช่าเหมาลำเที่ยวบินโดยสารจากประเทศอินเดียมายังประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเนื้อข่าวระบุแต่เพียงมีกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในอินเดียประสงค์จะเดินทางไปยังเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีบางส่วนได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศไทยเท่านั้น

สถานกงสุลไทยในอินเดีย การบินพลเรือนฯ ยืนยันไม่ได้ออก COE ไม่ได้อนุญาตให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำอินเดียเข้าไทย

2.กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในอินเดีย ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้ออก COE ให้บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยเดินทางเข้าประเทศโดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำในช่วงดังกล่าว และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ยืนยันเช่นเดียวกันว่า ไม่ได้อนุญาตให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำที่เดินทางจากอินเดียเข้าลงจอดในประเทศไทยในช่วงเวลาที่มีการกล่าวอ้างถึง

กต.แจง 7 ชาวอินเดีย มาตามระบบการจองเที่ยวบิน ได้รับอนุญาตจากไทยแล้ว ไม่ใช่เที่ยวบินเช่าเหมาลำ

3. กลุ่มบุคคลสัญชาติอินเดียที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมาเป็นการเข้ามาตามระบบซึ่งได้จองไว้ล่วงหน้าแล้วมิได้เข้ามาในเที่ยวบินเช่าเหมาลำ และกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ใช่นักศึกษาทั้งหมดแต่เป็นผู้มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย 1 คน และที่เหลืออีก 6 คน เป็นนักศึกษาและผู้ติดตามนักศึกษา

4. เที่ยวบินปกติจากสายการบินของประเทศอินเดียที่ขออนุญาตเข้ามายังประเทศไทยในปัจจุบันมีเที่ยวบินสัปดาห์ละหนึ่งเที่ยวบินสำหรับผู้เดินทางตามความจำเป็นและเพื่อนำคนไทยกลับบ้าน (repatriation flight) ซึ่งผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศได้ต้องเป็นไปตามเกณฑ์เฉพาะบุคคลตามข้อยกเว้นตามข้อกำหนดฯ เท่านั้น รวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขโดยกักตัวอย่างเคร่งครัด

กต. เผยวัน-จำนวน คนไทยในอินเดียขอเดินทางเข้าประเทศไทย

ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม มีคนไทยได้ลงทะเบียนเข้าประเทศไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนี้
วันที่ 1 พฤษภาคม จำนวน 1 คน
วันที่ 8 พฤษภาคม จำนวน 70 คน
วันที่ 15 พฤษภาคม จำนวน 60 คน
และวันที่ 22 พฤษภาคม ยังไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทย

ศบค.ประกาศยกเลิกการออก COE ของผู้ไม่มีสัญชาติไทยขอเข้าประเทศ

5. ในวันที่ 25 เมษายน 2564 ที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้มีมติให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกและชะลอการออก COE ของผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยจากอินเดียทั้งหมด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในอินเดียดำเนินการแล้ว
6. ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งหมดจะต้องเข้าสู่มาตรการคัดกรอง คือ การยื่นเอกสารตามที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่กำหนดเพื่อขอรับ COE และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยต้องเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐในสถานที่ที่รัฐกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการระบาดเพิ่มเติมจากผู้ที่เดินทางกลับไทย

ข้อมูลอ้างอิง
แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศ

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

เขมรเปิดแนวรบตลอดแนวปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะล่าสุด เขมรเปิดแนวรบตลอดแนวปราสาทตาเมือนธม งัดอาวุธหนัก RPG ปืนใหญ่กระสุนแตกอากาศ กระหน่ำยิงไทย ส่วนทหารไทย ตอบโต้ตามแผนจักรพงษ์ภูวนารถ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลัง พล.อ.พนา แคล้วปอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ใช้แผนจักรพงษ์ภูวนารถ ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เป็นแผนรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนด้านตะวันออกของกองทัพบก ให้เหมาะสมกับแต่ระดับความขัดแย้งและเป็นไปตามขั้นตอนของการใช้กำลังทางทหาร ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์บริเวณประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ยังมีการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาต่อเนื่องหลังกัมพูชาเปิดฉากยิงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยทางทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนัก อาร์พีจี (RPG) ปืนใหญ่กระสุนแตกอากาศเหนือเป้าหมายยิงมายังฝั่งประเทศไทย ขณะที่ฝ่ายไทยทำการตอบโต้กลับ สำหรับการปะทะ เกิดขึ้นตลอดแนวปราสาทตาเมืองธม เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]