ชัวร์ก่อนแชร์:ห้ามกินแอปเปิ้ลทุกชนิดเพราะมีเชื้อแบคทีเรียอันตรายถึงชีวิตจริงหรือ?

9 เมษายน 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


บนสังคมออนไลน์ มีการแชร์ข้อความที่ระบุว่า ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียมีคำสั่งห้ามนำเข้าแอปเปิ้ลจากสหรัฐอเมริกา เพราะตรวจพบเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งหากรับประทานเข้าไปจะมีผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพได้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่า เป็นเรื่องจริง แต่ต้องอธิบายเพิ่ม    

บทสรุป :  จริงบางส่วน ไม่ควรแชร์ เป็นข้อมูลจากข่าวเก่าในต่างประเทศ และไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ที่ขายในประเทศไทย
·  สิงคโปร์และมาเลเซียมีคำสั่งห้ามนำเข้าแอปเปิ้ลจากสหรัฐอเมริกาจริง แต่เป็นเรื่องเก่าที่มีการแชร์ข้อมูลในเดือนมกราคม 2558
· กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนยัน แอปเปิ้ลที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยยังปลอดภัยและสามารถรับประทานได้ 

ข้อมูลที่ถูกแชร์
“มาเลเซียและ สิงคโปร์ กระทรวงสาธารณสุข ห้าม แล้ว แอปเปิ้ล จาก สหรัฐอเมริกา และยุโรป ตั้งแต่ 10 วันที่แล้ว ให้ความสำคัญกับ ทุกคน อย่า รับประทานแอปเปิ้ลทุกชนิด ในขณะ นี้ ไม่ว่าจะเป็น แกรนนี่สมิ ธ , Enza , กาล่าดินเนอร์ ฯลฯ  มีผู้เสียชีวิต หลายคน เพราะ เชื้อแบคทีเรีย ที่พบใน แอปเปิ้ล เหล่านี้ เชื้อแบคทีเรียนี้ มีชื่อว่า Listeria มันสามารถทำให้เกิดโรคร้ายแรง ที่คุกคาม ชีวิต ความเจ็บป่วย แอปเปิ้ล ทั่วโลก จะถูกรวบรวมและ ส่งไปยัง ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อการตรวจสอบ ต่อไปแบ่งปันข้อความนี้เพื่อ คนที่คุณรัก ก่อนที่จะสาย เกินไป งดทานแอปเปิ้ล ใด ๆ ในขณะนี้”

สืบหาต้นตอของข้อมูล
ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริงที่มีการแชร์มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 โดยสืบเนื่องมาจากการที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาฯ (Department of Health and Human Service Food and drug administration หรือ USFDA ) ตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อลิสทีเรีย (Listeria) ในแอปเปิ้ลพันธุ์กาล่า ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Big B” และแอปเปิ้ลพันธุ์  แกรนนี่ สมิธ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Big B” หรือ “Granny’s Best” ซึ่งพบจากกระบวนการผลิตของบริษัท Bidart Bros. ในสหรัฐอเมริกา จากนั้นทางองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาฯ ได้มีการแจ้งเตือนผู้บริโภคและเรียกคืนแอปเปิ้ลในรอบการขนส่งเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 จากบริษัท Bidart Bros. เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสหรือบริโภคได้

ข้อความห้ามรับประทานแอปเปิ้ลที่นำเข้าจากต่างประเทศ ได้ถูกแชร์กลับมาอีกครั้งในวันที่ 6 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ผ่านเฟซบุ๊ก ThaiTribune มีผู้ติดตามมากกว่า 63,000 คน โดยข้อความที่ถูกแชร์มีผู้กดไลก์จำนวน 81 คน มีการแชร์มากถึง 10 ครั้ง และมีการแชร์ข้อมูลเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เป็นจำนวนมาก

Fact Check : ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากข้อมูลที่ถูกแชร์
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่า ภายหลังการแจ้งเตือนจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาฯ ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2558 กรณีการพบเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนในกระบวนการผลิตแอปเปิ้ลของบริษัท Bidart Bros.  นั้น นอกจากการประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ที่ห้ามนำเข้าแอปเปิ้ลจากสหรัฐอเมริกาตามที่ระบุในข่าวแล้ว ประเทศไทยยังได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2558 ที่ผ่านมา เรื่อง องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) แจ้งการเรียกคืนสินค้าของบริษัท Bidart Bros.

ประเทศไทยได้รับการแจ้งเตือนจาก USFDA ให้เรียกคืนแอปเปิ้ลล็อตนั้น
ข้อมูลในหนังสือที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับ ระบุใจความว่า สินค้าของบริษัท Bidart Bros. ถูกเรียกคืนจากการจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากตรวจพบว่าการใช้หรือสัมผัสกับสินค้าดังกล่าว อาจเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ และองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลว่า สินค้าดังกล่าว ถูกส่งออกไปจำหน่ายในประเทศไทย หรือบริเวณใกล้เคียง แต่เนื่องจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (USFDA) ไม่สามารถติดตามตรวจสอบสินค้าที่ได้ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ จึงได้แจ้งมายังทางการไทย เพื่อพิจารณาติดตาม ตรวจสอบและเรียกคืนสินค้าเหล่านั้นออกจากการจัดจำหน่ายในประเทศไทยตามที่เห็นสมควรต่อไป

กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันแอปเปิ้ลในไทยปลอดภัยทานได้
วันที่ 16 มกราคม 2558 นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การเรียกคืนแอปเปิ้ลของบริษัท Bidart Bros. สืบเนื่องมาจากมีการตรวจพบว่า แอปเปิ้ลพันธุ์กาล่า และแอปเปิ้ลพันธุ์แกรนนี่ สมิท ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Big B” และ “Granny’s Best” มีแบคทีเรียที่พบในดิน และอาหารดิบ ที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคลิสเทริโอซิส ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิต ขณะที่การตรวจสอบการนำเข้าจากบริษัทผู้ผลิตดังกล่าวผ่านบริษัทส่งออก 6 ราย มายังไทย เบื้องต้นพบมีแอปเปิ้ล 1 ล็อตส่งเข้ามาทางท่าเรือแหลมฉบัง และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้กักสินค้าไว้ตรวจสอบแล้ว แต่ยืนยันแอปเปิ้ลที่วางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ยังสามารถรับประทานได้ปลอดภัย

“อย.” แนะล้าง-ปอกเปลือกผลไม้ก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัย
วันที่ 19 มกราคม 2558 นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวย้ำว่า หากพบแอปเปิ้ลไม่ได้มาตรฐานหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค อย. จะไม่อนุญาตให้มีการนำเข้ามาภายในประเทศอย่างเด็ดขาด  รวมทั้งติดตามสถานการณ์พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และแจ้งให้ผู้บริโภคทราบ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยควรล้างและปอกเปลือกผลไม้ แยกภาชนะที่ใช้กับของดิบและสุก หมั่นทำความสะอาดภายในตู้เย็น และล้างมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสกับอาหารสดทุกชนิด จะช่วยป้องกันปนเปื้อนของเชื้อโรคได้


“CDC” เผย เฉพาะแอปเปิ้ลเคลือบคาราเมลของ Bidart Bros. เท่านั้นที่ทำให้ล้มป่วย
ขณะที่ U.S. Embassy & Consulates in Indonesia (สถานทูตและสถานกงศุลของสหรัฐอเมริกา ในอินโดนีเซีย) และ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ) ระบุตรงกันว่า อาการเจ็บป่วยภายหลังการรับประทานแอปเปิ้ลจาก Bidart Bros. เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลเคลือบคาราเมลเท่านั้น และฤดูกาลจัดส่งของแอปเปิ้ลจาก Bidart Bros. ในล็อตนี้ จัดส่งครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 ส่วนแอปเปิ้ลของบริษัทรายอื่นที่ผ่านกระบวนการผลิตในสหรัฐอเมริกายังปลอดภัยและไม่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืน มีเพียงแอปเปิ้ลจากบริษัท Bidart Bros. เท่านั้นที่พบการปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรีย “ลิสทีเรีย” (Listeria) นอกจากนี้ CDC รายงานว่า พบผู้ป่วย 35 คนจาก 12 รัฐในสหรัฐอเมริกาที่ล้มป่วยจากการทานแอปเปิ้ลจาก Bidart Bros. ทั้งนี้จากการสอบถามจากผู้ป่วยจำนวน 28 คนจาก 31 คนให้สัมภาษณ์ว่าได้ทานแอปเปิ้ลเคลือบคาราเมลก่อนจะล้มป่วย และมีรายงานว่าในกรณีนี้ มีผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับเชื้อลิสทีเรีย อย่างน้อย 3 ใน 7 ราย

“ลิสทีเรีย” (Listeria) คืออะไร
วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ ปีที่ 58 ฉบับที่ 183 เดือนพฤษภาคม 2553 หน้าที่ 5-6 อธิบายว่า ลิสทิเรีย โมโนไซโตจีเนส เป็นแบคทีเรียในสกุล ลิสทิเรีย พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ มูลสัตว์และสิ่งปฏิกูลต่างๆ นอกจากนี้ยังพบในทางเดินอาหารของสัตว์ชนิดต่างๆ และในน้ำนมด้วย การแพร่ของเชื้อนี้ส่วนใหญ่จะแพร่ผ่านอาหารที่บริโภค การสัมผัส หรือหายใจนำแบคทีเรียชนิดนี้เข้าไป นอกจากนี้ยังพบการปนเปื้อนของเชื้อตามพื้นผิวที่สัมผัสอาหาร อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในการผลิตอาหาร เป็นต้น 

อาการของผู้ที่ได้รับเชื้อ “ลิสทีเรีย”
วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ ปีที่ 58 ฉบับที่ 183 เดือนพฤษภาคม 2553 หน้าที่ 6 ระบุว่า หากได้รับเชื้อเข้าไป เชื้อสามารถทำให้เม็ดเลือดขาวแตกและเกิดโรคโลหิตเป็นพิษได้ หากเชื้อกระจายไปสู่สมองและไขสันหลัง ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบในหญิงตั้งครรภ์เชื้อจะแพร่ผ่านทางทารกไปสู่ตัวอ่อนทำให้เกิดการแท้งได้


พาดหัวที่หวือหวาทำสังคมเข้าใจผิดได้
การแชร์ข้อมูลงดรับประทานแอปเปิ้ลทุกชนิดนั้น อาจเกิดจากการพาดหัวข่าวที่หวือหวาในช่วงเวลานั้นๆ (เดือนมกราคม 2558)  อาทิ “สั่งกักแอปเปิ้ลอันตราย มะกันเตือนไทยมีปนเปื้อน ยี่ห้อ‘BigB’เชื้อร้ายถึง   ตาย”, “มะกันเตือน….พบสารปนเปื้อนใน แอปเปิ้ลนำเข้าจากสหรัฐฯ”, “สั่งกักแอปเปิ้ลมะกันหลังพบเชื้อก่อสมองอักเสบ” , “ไทยผวาอีก สั่งกัก”แอปเปิ้ล”มะกัน คาด่านตรวจแหลมฉบัง หลังอย.สหรัฐแจ้งเตือน อาจปนเปื้อนแบคทีเรีย” 

ประโยคพาดหัวข่าวมักจะเป็นประโยคสั้นๆ ที่พาดหัว เน้นสีสัน เรียกความสนใจจากผู้ชม จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและส่งต่อข่าวสารที่คาดเคลื่อนได้ เช่น พบสารปนเปื้อนในแอปเปิ้ลนำเข้าจากสหรัฐฯ อาจทำให้เกิดการตีความว่า แอปเปิ้ลทุกชนิดที่มาจากสหรัฐอเมริกา มีอันตรายทั้งหมด ทั้งที่ความเป็นจริงเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตแอปเปิ้ลของบริษัท Bidart Bros. เพียงบริษัทเดียวเท่านั้น  ขณะที่แอปเปิ้ลที่ผ่านกระบวนการผลิตจากบริษัทอื่นๆยังมีความปลอดภัยและสามารถรับประทานได้  และจากการแถลงข่าวของภาครัฐพบสินค้าเพียง 1 ล็อตที่ส่งมาจากสหรัฐฯ นำเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่ไม่พบว่ามีแอปเปิ้ลยี่ห้อดังกล่าวอยู่ในล็อตนั้น 

บทสรุป
จริงบางส่วน ไม่ควรแชร์ เป็นข้อมูลจากข่าวเก่าในต่างประเทศ และไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ที่ขายในประเทศไทย

  • ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์มีคำสั่งห้ามนำเข้าแอปเปิ้ลจากสหรัฐอเมริกาจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2558 อันเนื่องมาจาก องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and drug administration)  ตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียลิสทีเรีย (Listeria ) ในกระบวนการผลิตแอปเปิ้ลของบริษัท Bidart Bros.  
  • เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวส่งผลอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค จึงมีการเรียกคืนแอปเปิ้ลที่ผ่านกระบวนการผลิตจาก บริษัท Bidart Bros. ในช่วงรอบการขนส่งเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557
  • ส่วนแอปเปิ้ลที่มาจากบริษัทอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา ยังปลอดภัยและสามารถรับประทานได้
  • อาการเจ็บป่วยภายหลังการรับประทานแอปเปิ้ลจาก Bidart Bros. เชื่อมโยงกับแอปเปิ้ลคาราเมลเท่านั้น
  • แอปเปิ้ลในประเทศไทยยังปลอดภัยและสามารถรับประทานได้ตามปกติ

ข้อมูลอ้างอิง
1. Department of health and human services food and drug administration
https://www.fda.gov/media/92680/download
2. ThaiTribune 
https://www.facebook.com/thaitribune1/posts/1561119754095195
3. Malaysia bans imports of Gala, Granny Smith apples from the US
https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/malaysia-bans-imports-of-gala-granny-smith-apples-from-the-us
4. เกษตรฯแถลงสหรัฐเรียกคืนแอปเปิ้ลจากบ.Bidart Bros
https://www.posttoday.com/social/general/341547
5. U.S. Apple Recall Applies Only to One Producer, All Other Apples are Safe
https://id.usembassy.gov/u-s-apple-recall-applies-only-to-one-producer-all-other-apples-are-safe/
6. Multistate Outbreak of Listeriosis Linked to Commercially Produced, Prepackaged Caramel Apples Made from Bidart Bros. Apples (Final Update)
https://www.cdc.gov/listeria/outbreaks/caramel-apples-12-14/index.html
7. อย. เผยมาตรการตรวจเข้มแอปเปิ้ลนำเข้าจากสหรัฐ ขอผู้บริโภควางใจ
http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=2&cat=50&content_id=590
8. วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ ปีที่ 58 ฉบับที่ 183 เดือนพฤษภาคม 2553
http://lib3.dss.go.th/fulltext/dss_j/2553_58_183.pdf

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย