ชัวร์ก่อนแชร์ : ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันประกอบอาหารทำให้เกิดสารก่อมะเร็งจริงหรือ?

22 มีนาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์

บนสังคมออนไลน์แชร์ข้อความ ไม่ควรกินอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมันเพราะมีความเสี่ยงในการสร้างสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบแล้วพบว่า จริง แชร์ได้แต่ต้องอธิบายเพิ่ม

บทสรุป : จริง หากแชร์ต่อต้องอธิบายข้อมูลเพิ่ม


  • เป็นเรื่องจริงแต่ต้องดูว่า วัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารคืออะไร
  • สารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในอาหารมี 2 ประเภท 1. สารที่มาจากกลุ่มพืชแป้ง (Starchy food) และ 2.สารที่มาจากอาหารประเภทโปรตีน

สืบหาต้นตอของข้อมูล

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์ Consumer Council ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน โดยระบุให้ระวังอาหารที่ทอดด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการก่อมะเร็ง จากนั้นเว็บไซต์ scmp.com ได้เผยแพร่ข่าวดังกล่าวเกี่ยวกับการประกอบอาหารผ่านหม้อทอดไร้น้ำมันใจความว่า สมาคมผู้บริโภคชาวฮ่องกงได้แนะนำผู้บริโภคไม่ควรรับประทานอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมัน เพราะมีความเสี่ยงในการได้รับสารก่อมะเร็ง โดยได้ทำการทดลองนำมันฝรั่งทอดชิ้นบางมาอบในหม้อทอดไร้น้ำมันถึง 12 รุ่น และพบสารก่อมะเร็งที่เรียกว่า อะคริลาไมด์ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับอาหารบางชนิดเมื่อได้รับความร้อนจากอุณหภูมิที่สูงมาก จากนั้นได้มีการแชร์ข้อมูลผ่าน เฟซบุ๊ก South China Morning Post ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4,253,145 คน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ข่าวดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย กระทั่งมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ ในประเทศไทย และนำมาสู่การแชร์ข้อความผ่านไลน์แอปพลิเคชันเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์  

Fact check : ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ


ข้อมูลที่ถูกแชร์ ทดสอบกับ “มันฝรั่ง” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ  ดร.มลฤดี  สุขประสารทรัพย์ อาจารย์หลักสูตรพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัยสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วพบว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องจริง แต่ต้องดูว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารคืออะไร ซึ่งตามที่มีการแชร์ข้อมูลเป็นเพียงการทดลองกับ “มันฝรั่ง” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

หม้อทอดไร้น้ำมันไม่ใช่อุปกรณ์เดียวที่เสี่ยงต่อสุขภาพ
ข่าวที่มีการแชร์กัน เป็นการใช้มันฝรั่ง ซึ่งเป็นพืชหัว เป็นพืชกลุ่มแป้ง หรือที่เราเรียกว่าอาหารกลุ่มพืชแป้ง (Starchy food) ซึ่งพืชตัวนี้จะมีกรดอะมิโนแอซิดชนิดหนึ่งเรียกว่า “แอสพาราจีน” อยู่สูง ประกอบกับปริมาณน้ำตาลที่มีปริมาณสูงอยู่ในมันฝรั่ง เมื่อใช้ความร้อนเกิน 120 องศาเซลเซียสประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการทอดด้วยกระทะ การนำไปเข้าเตาอบ หรือหม้อทอดไร้น้ำมันก็จะสามารถทำให้เกิดสารก่อมะเร็งในกลุ่มที่เรียกว่า “อะคริลาไมด์” ได้ ซึ่งอะคริลาไมด์เป็นผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี “เมลลาร์ด รีแอ็คชั่น” (Maillard reaction) หรือปฏิกิริยาสีน้ำตาล ผลิตภัณฑ์ที่ได้ ยิ่งมีสีน้ำตาลไหม้เกรียมมากเท่าไหร่ ก็จะมีสารอะคริลาไมด์มากยิ่งขึ้น กล่าวคือยิ่งมีการอบอาหารเป็นระยะเวลานาน อุณหภูมิก็จะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปริมาณของอะคริลาไมด์ก็จะมีมากยิ่งขึ้น

ความร้อนเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง
“กรดอะมิโนแอซิดแอสพาราจีนและปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ในมันฝรั่ง เมื่ออยู่ในอุณหภูมิความร้อนที่สูงเกิน 120 องศาเซลเซียล เป็นระยะเวลานานๆ ก็จะเกิดปฏิกิริยา เมลลาร์ด รีแอคชั่น ซึ่งเป็นบ่อเกิดของสารอะคริลาไมด์ (สารก่อมะเร็ง)


มันฝรั่งไม่ใช่อาหารเพียงอย่างเดียวที่เกิด“อะคริลาไมด์” แต่อาหารที่คลุกเคล้าด้วยแป้งก็สามารถเกิดได้
นอกจากเฟรนฟราย หรือ โปเตโต้ชิพแล้ว อาหารประเภทคลุกเคล้าด้วยแป้งหรือขนมปัง ที่นำมาประกอบอาหารในหม้อทอดไร้น้ำมันก็จะทำให้เกิดสารอะคริลาไมด์ได้ เมื่ออาหารอยู่ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 120 องศาเซลเซียล และใช้เวลาประกอบอาหารเป็นเวลานาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสารก่อมะเร็งได้ ฉะนั้นการทอดเฟรนฟราย หรือการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน ไม่ควรใช้เวลามากเกินไป เมื่ออาหารมีสีเหลืองทองแล้ว ก็สามารถนำมารับประทานได้ ไม่ควรทำให้เกิดการไหม้เกรียม ”ดร.มลฤดี กล่าว

“หมูกรอบ เนื้อสเต็ก ปลาดุก” ก็เสี่ยง
ดร.มลฤดี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้การประกอบอาหารในหม้อทอดไร้น้ำมัน ยังมีสารก่อมะเร็งในกลุ่มของโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) หรือกลุ่มของ เฮทเทอโรไซคลิก เอมีน(HCAs) ซึ่งจะพบในกลุ่มอาหารประเภทโปรตีน เช่น หมูกรอบ เนื้อสเต็ก และยังพบสารก่อมะเร็งในกลุ่มของ PAHs ในปลาที่มีหนังเยอะ เช่น ปลาดุก ทั้งนี้วิธีการสังเกตว่าเนื้อชนิดใดจะมีสารก่อมะเร็งหรือไม่นั้น สังเกตได้ง่ายๆ คือผิวหนังที่ไหม้เกรียมของสัตว์ที่นำมาปรุงอาหาร ถ้ามีสีไหม้เกรียมหรือมีสีดำก็ไม่ควรรับประทาน ควรเฉือนทิ้งออกไป

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการลวก ต้ม นึ่ง หรือใช้ไมโครเวฟ เป็นวิธีที่ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง
สำหรับการลวก ต้ม นึ่ง หรือใช้ไมโครเวฟในการประกอบอาหารจะไม่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง ทั้งในกลุ่ม อะคริลาไมด์ และในกลุ่ม PAHs หรือ HCAs เพราะการลวก ต้ม นึ่ง หรือการประกอบอาหารด้วยไมโครเวฟ เป็นความร้อนที่ทำให้อาหารสุก แต่ไม่ใช่ทำให้เกิดการไหม้เกรียม

แนะปลอกเปลือกมันฝรั่ง แช่น้ำทิ้งไว้ 15-30 นาที จะช่วยชะล้างแอสพาราจีน งดแช่มันฝรั่งในตู้เย็น
“เราจะป้องกันอาหารกลุ่มแป้งที่เกิดสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์ ได้โดยการปลอกเปลือกมันฝรั่ง และนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที น้ำจะช่วยชะล้างสารตั้งต้น(แอสพาราจีน)ที่ก่อให้เกิดมะเร็งและน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อมันฝรั่งให้ออกมากับน้ำ จากนั้นซับให้แห้ง และนำไปประกอบอาหารด้วยเครื่องมือที่เรามี จะช่วยลดสารก่อมะเร็ง อะคริลาไมด์ ลงได้ นอกจากนี้ไม่ควรเก็บมันฝรั่งไว้ในตู้เย็นเพราะอุณหภูมิในตู้เย็นจะเพิ่มปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อหัวมันฝรั่งมากขึ้น เมื่อเรานำไปทอดหรือใช้หม้อไร้น้ำมัน จะเกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ด รีแอคชั่นได้มากขึ้น สารอะคริลาไมด์ก็จะเพิ่มสูงมากขึ้นด้วย

ทานมันฝรั่งได้แต่ไม่ควรมากเกินไป ชี้ร่างกายมีกลไกขับ อะคริลาไมด์ทางปัสสาวะ
โดยปกติ ถ้าเราได้รับสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์จากการปนเปื้อนในอาหารมากเกินไป ร่างกายจะมีกลไกในการกำจัดอะคริลาไมด์ทางปัสสาวะ อาหารพวกนี้สามารถทานได้ แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป ควรให้ร่างกายมีระยะเวลาในการกำจัดสารพิษ ซึ่งผัก ผลไม้หลากหลายที่สีสัน หรือสมุนไพรที่เราทานจะมีสารพฤกษาเคมี ที่จะช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายออกมาได้เป็นอย่างดี”ดร.มลฤดี ระบุ

บทสรุป : จริงแชร์ได้ แต่ต้องอธิบายข้อมูลเพิ่ม

  • ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า เรื่องนี้จริง แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาใช้ โดยอาหารในกลุ่มของพืชแป้ง จะมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในกลุ่ม อะคริลาไมด์ ส่วนสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในอาหารประเภทโปรตีน คือ สารก่อมะเร็งในกลุ่มของ โพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) หรือกลุ่มของ เฮทเทอโรไซคลิก เอมีน(HCAs)
  • การประกอบอาหารด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้นั้น จะต้องมีอุณหภูมิที่สูงกว่า 120 องศาเซลเซียล และมีระยะเวลาการประกอบอาหารที่ยาวนาน ซึ่งกระบวนการเกิดสารก่อมะเร็ง ไม่ได้จำกัดแค่การเกิดขึ้นในหม้อทอดไร้น้ำมันเท่านั้น แต่การปรุงอาหารด้วยวิธีอื่น เช่น การปิ้ง การทอด การย่าง การอบก็อาจจะนำมาซึ่งสารก่อมะเร็งได้

ข้อมูลอ้างอิง
Consumer Council
https://www.consumer.org.hk/ws_en/news/press/532/air-fryers.html
South China Morning Post
https://www.scmp.com/news/hong-kong/society/article/3122019/hong-kong-consumer-watchdog-warns-air-fryers-can-still-pose
“Air frying is a kind of roasting. It’s still not very healthy.”
https://www.facebook.com/scmp/posts/10159175861534820

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ เร่งพิจารณารับรองร่างถ้อยแถลงภาษีสหรัฐ 19% ให้มีผลอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือหลักเกณฑ์งบฯ ฉุกเฉินเยียวยาเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่รัฐ-ประชาชน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องของอัตราภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้ประเทศไทยได้รับแจ้งจาก สหรัฐฯว่า สินค้าจากไทยที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ซึ่งเท่ากับหลายๆประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะพอทำให้เรายังคงแข่งขันได้ โดยในกระบวนการเจรจานี้ มีขั้นตอนสำคัญคือรัฐบาลไทยต้อง ออกถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งคณะทำงาน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง […]

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]