ชัวร์ก่อนแชร์: บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายต่อเด็กน้อยกว่าบุหรี่มวน จริงหรือ?

12 มิถุนายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลน่าสงสัย :

แม้จุดประสงค์แต่เดิมของบุหรี่ไฟฟ้าคือทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเลิกสูบบุหรี่ แต่ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดบุหรี่ไฟฟ้าคือนักสูบหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชน นำไปสู่การตั้งคำถามถึงประโยชน์และอันตรายเรื่องการมีอยู่ของบุหรี่ไฟฟ้าที่ยังคงแพร่หลายในสังคม แม้จะเป็นสิ่งผิดกฎหมายในบางประเทศก็ตาม


บทสรุป :

1.ความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนมาจากงานวิจัยที่มีปัญหาและทำให้เกิดความเข้าใจผิด
2.ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารที่เหมือนและต่างจากบุหรี่มวน แต่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้เช่นกัน
3.ตรวจพบยาดองศพและยาฆ่าหญ้าในบุหรี่ไฟฟ้า
4.บุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้ามาที่เยาวชน ทำให้เกิดนักสูบหน้าใหม่

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


การทำงานของบุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้าที่การทำงานที่คล้ายคลึงกับเครื่องพ่นละอองสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือผู้ป่วยโรคปอด

เครื่องพ่นละอองจะเปลี่ยนตัวยาที่เป็นของเหลวให้กลายเป็นไอให้ผู้ป่วยสูดดม ถือเป็นวิธีลำเลียงตัวยาเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าทำงานด้วยการใช้ความร้อนทำให้สารเคมีในน้ำยากลายเป็นไอ แต่สิ่งที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจกลับเต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลานานจึงเปรียบเสมือนการปล่อยให้ปอดแช่อยู่ในสารพิษอย่างต่อเนื่อง

การที่บุหรี่มวนมีสารก่อมะเร็งนับ 100 ชนิด และสารเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งกว่า 900 ชนิด อาจทำให้บุหรี่ไฟฟ้าดูมีความอันตรายน้อยกว่า แต่กระนั้น บุหรี่ไฟฟ้าก็มีสารบางอย่างที่คล้ายกับบุหรี่มวน รวมถึงสารอันตรายอื่น ๆ อีกมากมายที่พบในบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

Nicotine

สารที่พบทั้งในบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าคือนิโคติน สารเสพติดที่ทำให้ความดันโลหิตสูงและเร่งการหลั่งอะดรีนาลีน ทำให้หัวใจทำงานหนักเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ

นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดยังพบปริมาณนิโคตินที่สูงกว่าในบุหรี่มวนอีกด้วย

Formaldehyde

ฟอร์มาลดีไฮด์ สารประกอบอินทรีย์ ใช้เป็นสารตั้งต้นสำคัญในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้เป็นสารฆ่าเชื้อและยาดองศพ

ฟอร์มาลดีไฮด์ถูกใช้เป็นตัวละลายในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายจะเพิ่มความเสี่ยงโรคปอดและหัวใจ และยังจัดเป็นสารก่อมะเร็งระดับ Group 1 อีกด้วย

Acrolein

แอโครลีน เป็นสารระเหยที่มักใช้เป็นส่วนประกอบในยากำจัดวัชพืช เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ ทั้งกระตุ้นการเกิด โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด

นอกจากนี้ยังพบสารโลหะหนักอีกหลายชนิดในบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง ตะกั่ว ดีบุก นิกเกิล เป็นต้น

การระบาดของโรค EVALI จากบุหรี่ไฟฟ้า

ปี 2020 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) รายงานพบผู้ป่วยโรคปอดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า (E-cigarette or Vaping use-Associated Lung Injury : EVALI) จำนวน 2,807 เคสในสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิตจากโรค EVALI ในขณะนั้นจำนวน 68 ราย

ผลการตรวจสอบของเหลวจากปอดของผู้ป่วย EVALI พบทั้งสาร THC หรือสารสร้างความมึนเมาที่อยู่ในกัญชา และ วิตามินอี ที่ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหากสูดดมก็จะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ

คาดว่าส่วนผสมของสาร THC และวิตามินอี น่าจะมาจากบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการดัดแปลงส่วนผสมหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบจำหน่ายในตลาดมืด เป็นการเพิ่มอันตรายจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งขึ้น

ที่มาความเชื่อ บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน

บทวิเคราะห์โดย มิเชล จอนเจเนลิส รองศาสตราจารย์ ศูนย์ศึกษาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ตีพิมพ์ทางเว็บไซต์ The Conversation ปี 2023 ระบุว่า ความเชื่อเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน มาจากงานวิจัยที่มีปัญหาเมื่อปี 2014 และสร้างความเข้าใจผิดต่ออันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้านับแต่นั้นเป็นต้นมา

งานวิจัยดังกล่าวคือ Estimating the Harms of Nicotine-Containing Products Using the MCDA Approach ตีพิมพ์ทางวารสาร European Addiction Research เมื่อปี 2014

ทีมวิจัยสรุปว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายเพียง 4% เมื่อเทียบกับอันตรายจากการสูบบุหรี่มวน

ข้อมูลดังกล่าว ถูกนำมาใช้อ้างอิงนโยบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในหลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร ที่อนุญาตการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีการควบคุม โดยเชื่อว่า บุหรี่มวนมีอันตรายมากกว่าบุหรี่ไฟฟ้า 95-96%

อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่นำไปสู่บทสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายเพียง 4% ยังขาดความชัดเจน เนื่องจากขาดหลักฐานอ้างอิงที่หนักแน่นเพียงพอ ซึ่งทีมวิจัยยังระบุปัญหาดังกล่าวในงานวิจัยว่าบทสรุปยังมีจุดอ่อนด้านกระบวนการวิจัย ดังนั้นบทสรุปดังกล่าวจึงเป็นเพียงการประเมินคร่าว ๆ เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่า หนึ่งในทีมวิจัยมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทยาสูบ ซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ทำให้งานวิจัยมีปัญหาด้านประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้วิจัยและแหล่งเงินทุนอีกด้วย

การถูกนำไปอ้างอิงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเชื่อเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน กลายเป็น Factoid หรือข้อมูลเท็จที่ถูกนำเสนอซ้ำ ๆ จนคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริงไปในที่สุด

บุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้ามาที่เยาวชน

บริษัทยาสูบใช้ประโยชน์จากความเชื่อที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีพิษภัยเท่าบุหรี่มวน สำหรับแผนการโฆษณาโดยเน้นไปที่นักสูบหน้าใหม่อย่างเยาวชน

ผลสำรวจปี 2019 พบว่า งบการตลาดสำหรับการโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้ามีมูลค่าถึง 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีการทุ่มงบประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 ชั่วโมง

กลุ่มเป้าหมายเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ โดยแทรกซึมเนื้อหาในวงการบันเทิงและวงการกีฬา ทั้งการว่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อรีวิวสินค้า ตลอดจนมาตรการแจกบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างการแข่งขันกีฬา

ผลสำรวจของสหรัฐฯ ปี 2021 พบว่า เด็กมัธยมชาวอเมริกัน 3 ใน 4 คน พบเห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า และมี 74% ที่เห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อสังคมออนไลน์

การเติมกลิ่นรสในบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นปัจจัยล่อลวงให้เด็กหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยพบว่าเด็กอเมริกัน 9 จาก 10 ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า เลือกสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการเติมกลิ่นรส

จากกลยุทธ์จูงใจและความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีพิษภัยเท่าบุหรี่มวน ทำให้ผลสำรวจปี 2021 พบว่าเด็กมัธยมอเมริกันหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 2 ล้านคน

ส่วนผลสำรวจในประเทศไทยปี 2021 พบว่าเด็กนักเรียนมัธยมต้นอายุระหว่าง 13-15 ปี หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มจาก 3.3% ในปี 2015 มาเป็น 8.1% ในปี 2021

แม้อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนจะลดลงอย่างมากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ทำให้ยากต่อการแยกแยะบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่กับอุปกรณ์อื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน

โดยเฉพาะการมาถึงของบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ชนิดใช้ครั้งเดียวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ในปี 2021 พบว่า บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ชนิดใช้ครั้งเดียวได้รับความนิยมจากนักเรียนมัธยมต้นเพิ่มขึ้น 400% และได้รับความนิยมจากนักเรียนมัธยมปลายเพิ่มขึ้นถึง 1,000%

อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ากับเยาวชน

บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อเยาวชนโดยตรง เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อพัฒนาการสมองของเด็ก

หากสตรีมีครรภ์ได้รับนิโคติน ก็จะส่งผลต่อพัฒนาการสมองของตัวอ่อนในครรภ์ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.who.int/thailand/news/feature-stories/detail/e-cigarettes-contain-hazardous-substances–addictive-and-harmful
https://www.lung.org/quit-smoking/e-cigarettes-vaping/impact-of-e-cigarettes-on-lung
https://www.heart.org/en/healthy-living/healthy-lifestyle/quit-smoking-tobacco/is-vaping-safer-than-smoking
https://theconversation.com/no-vapes-arent-95-less-harmful-than-cigarettes-heres-how-this-decade-old-myth-took-off-203039
https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/what-does-vaping-do-to-your-lungs
https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/5-truths-you-need-to-know-about-vaping

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย