12 มิถุนายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลน่าสงสัย :
แม้จุดประสงค์แต่เดิมของบุหรี่ไฟฟ้าคือทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเลิกสูบบุหรี่ แต่ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดบุหรี่ไฟฟ้าคือนักสูบหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชน นำไปสู่การตั้งคำถามถึงประโยชน์และอันตรายเรื่องการมีอยู่ของบุหรี่ไฟฟ้าที่ยังคงแพร่หลายในสังคม แม้จะเป็นสิ่งผิดกฎหมายในบางประเทศก็ตาม

บทสรุป :
1.ความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนมาจากงานวิจัยที่มีปัญหาและทำให้เกิดความเข้าใจผิด
2.ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารที่เหมือนและต่างจากบุหรี่มวน แต่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้เช่นกัน
3.ตรวจพบยาดองศพและยาฆ่าหญ้าในบุหรี่ไฟฟ้า
4.บุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้ามาที่เยาวชน ทำให้เกิดนักสูบหน้าใหม่
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

การทำงานของบุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้าที่การทำงานที่คล้ายคลึงกับเครื่องพ่นละอองสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือผู้ป่วยโรคปอด
เครื่องพ่นละอองจะเปลี่ยนตัวยาที่เป็นของเหลวให้กลายเป็นไอให้ผู้ป่วยสูดดม ถือเป็นวิธีลำเลียงตัวยาเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจที่มีประสิทธิภาพที่สุด
ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าทำงานด้วยการใช้ความร้อนทำให้สารเคมีในน้ำยากลายเป็นไอ แต่สิ่งที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจกลับเต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลานานจึงเปรียบเสมือนการปล่อยให้ปอดแช่อยู่ในสารพิษอย่างต่อเนื่อง
การที่บุหรี่มวนมีสารก่อมะเร็งนับ 100 ชนิด และสารเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งกว่า 900 ชนิด อาจทำให้บุหรี่ไฟฟ้าดูมีความอันตรายน้อยกว่า แต่กระนั้น บุหรี่ไฟฟ้าก็มีสารบางอย่างที่คล้ายกับบุหรี่มวน รวมถึงสารอันตรายอื่น ๆ อีกมากมายที่พบในบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
Nicotine
สารที่พบทั้งในบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าคือนิโคติน สารเสพติดที่ทำให้ความดันโลหิตสูงและเร่งการหลั่งอะดรีนาลีน ทำให้หัวใจทำงานหนักเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดยังพบปริมาณนิโคตินที่สูงกว่าในบุหรี่มวนอีกด้วย
Formaldehyde
ฟอร์มาลดีไฮด์ สารประกอบอินทรีย์ ใช้เป็นสารตั้งต้นสำคัญในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้เป็นสารฆ่าเชื้อและยาดองศพ
ฟอร์มาลดีไฮด์ถูกใช้เป็นตัวละลายในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายจะเพิ่มความเสี่ยงโรคปอดและหัวใจ และยังจัดเป็นสารก่อมะเร็งระดับ Group 1 อีกด้วย
Acrolein
แอโครลีน เป็นสารระเหยที่มักใช้เป็นส่วนประกอบในยากำจัดวัชพืช เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ ทั้งกระตุ้นการเกิด โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด
นอกจากนี้ยังพบสารโลหะหนักอีกหลายชนิดในบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง ตะกั่ว ดีบุก นิกเกิล เป็นต้น
การระบาดของโรค EVALI จากบุหรี่ไฟฟ้า
ปี 2020 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) รายงานพบผู้ป่วยโรคปอดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า (E-cigarette or Vaping use-Associated Lung Injury : EVALI) จำนวน 2,807 เคสในสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิตจากโรค EVALI ในขณะนั้นจำนวน 68 ราย
ผลการตรวจสอบของเหลวจากปอดของผู้ป่วย EVALI พบทั้งสาร THC หรือสารสร้างความมึนเมาที่อยู่ในกัญชา และ วิตามินอี ที่ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหากสูดดมก็จะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ
คาดว่าส่วนผสมของสาร THC และวิตามินอี น่าจะมาจากบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการดัดแปลงส่วนผสมหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบจำหน่ายในตลาดมืด เป็นการเพิ่มอันตรายจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งขึ้น
ที่มาความเชื่อ บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน
บทวิเคราะห์โดย มิเชล จอนเจเนลิส รองศาสตราจารย์ ศูนย์ศึกษาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ตีพิมพ์ทางเว็บไซต์ The Conversation ปี 2023 ระบุว่า ความเชื่อเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน มาจากงานวิจัยที่มีปัญหาเมื่อปี 2014 และสร้างความเข้าใจผิดต่ออันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้านับแต่นั้นเป็นต้นมา
งานวิจัยดังกล่าวคือ Estimating the Harms of Nicotine-Containing Products Using the MCDA Approach ตีพิมพ์ทางวารสาร European Addiction Research เมื่อปี 2014
ทีมวิจัยสรุปว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายเพียง 4% เมื่อเทียบกับอันตรายจากการสูบบุหรี่มวน
ข้อมูลดังกล่าว ถูกนำมาใช้อ้างอิงนโยบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในหลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร ที่อนุญาตการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีการควบคุม โดยเชื่อว่า บุหรี่มวนมีอันตรายมากกว่าบุหรี่ไฟฟ้า 95-96%
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่นำไปสู่บทสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายเพียง 4% ยังขาดความชัดเจน เนื่องจากขาดหลักฐานอ้างอิงที่หนักแน่นเพียงพอ ซึ่งทีมวิจัยยังระบุปัญหาดังกล่าวในงานวิจัยว่าบทสรุปยังมีจุดอ่อนด้านกระบวนการวิจัย ดังนั้นบทสรุปดังกล่าวจึงเป็นเพียงการประเมินคร่าว ๆ เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่า หนึ่งในทีมวิจัยมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทยาสูบ ซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ทำให้งานวิจัยมีปัญหาด้านประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้วิจัยและแหล่งเงินทุนอีกด้วย
การถูกนำไปอ้างอิงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเชื่อเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน กลายเป็น Factoid หรือข้อมูลเท็จที่ถูกนำเสนอซ้ำ ๆ จนคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริงไปในที่สุด
บุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้ามาที่เยาวชน
บริษัทยาสูบใช้ประโยชน์จากความเชื่อที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีพิษภัยเท่าบุหรี่มวน สำหรับแผนการโฆษณาโดยเน้นไปที่นักสูบหน้าใหม่อย่างเยาวชน
ผลสำรวจปี 2019 พบว่า งบการตลาดสำหรับการโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้ามีมูลค่าถึง 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีการทุ่มงบประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 ชั่วโมง
กลุ่มเป้าหมายเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ โดยแทรกซึมเนื้อหาในวงการบันเทิงและวงการกีฬา ทั้งการว่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อรีวิวสินค้า ตลอดจนมาตรการแจกบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างการแข่งขันกีฬา
ผลสำรวจของสหรัฐฯ ปี 2021 พบว่า เด็กมัธยมชาวอเมริกัน 3 ใน 4 คน พบเห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า และมี 74% ที่เห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อสังคมออนไลน์
การเติมกลิ่นรสในบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นปัจจัยล่อลวงให้เด็กหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยพบว่าเด็กอเมริกัน 9 จาก 10 ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า เลือกสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการเติมกลิ่นรส
จากกลยุทธ์จูงใจและความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีพิษภัยเท่าบุหรี่มวน ทำให้ผลสำรวจปี 2021 พบว่าเด็กมัธยมอเมริกันหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 2 ล้านคน
ส่วนผลสำรวจในประเทศไทยปี 2021 พบว่าเด็กนักเรียนมัธยมต้นอายุระหว่าง 13-15 ปี หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มจาก 3.3% ในปี 2015 มาเป็น 8.1% ในปี 2021
แม้อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนจะลดลงอย่างมากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ทำให้ยากต่อการแยกแยะบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่กับอุปกรณ์อื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะการมาถึงของบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ชนิดใช้ครั้งเดียวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ในปี 2021 พบว่า บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ชนิดใช้ครั้งเดียวได้รับความนิยมจากนักเรียนมัธยมต้นเพิ่มขึ้น 400% และได้รับความนิยมจากนักเรียนมัธยมปลายเพิ่มขึ้นถึง 1,000%
อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ากับเยาวชน
บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อเยาวชนโดยตรง เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อพัฒนาการสมองของเด็ก
หากสตรีมีครรภ์ได้รับนิโคติน ก็จะส่งผลต่อพัฒนาการสมองของตัวอ่อนในครรภ์ด้วยเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.who.int/thailand/news/feature-stories/detail/e-cigarettes-contain-hazardous-substances–addictive-and-harmful
https://www.lung.org/quit-smoking/e-cigarettes-vaping/impact-of-e-cigarettes-on-lung
https://www.heart.org/en/healthy-living/healthy-lifestyle/quit-smoking-tobacco/is-vaping-safer-than-smoking
https://theconversation.com/no-vapes-arent-95-less-harmful-than-cigarettes-heres-how-this-decade-old-myth-took-off-203039
https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/what-does-vaping-do-to-your-lungs
https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/5-truths-you-need-to-know-about-vaping
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter