ชัวร์ก่อนแชร์: ชานมไข่มุกดื่มมากเสี่ยงนิ่วในไต จริงหรือ?

10 มิถุนายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลน่าสงสัย :

มีข้อมูลน่าสงสัยเกี่ยวกับชานมไข่มุกเผยแพร่ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าการดื่มชานมไข่มุกดื่มมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงนิ่วในไต


บทสรุป :

1.มีเคสดื่มชานมไข่มุกแทนน้ำในไต้หวันจนป่วยเป็นนิ่วในไต
2.ต่างจากข่าวลือนิ่วในถุงน้ำดีเพราะชานมไข่มุกที่ไม่เป็นความจริง
3.ปัจจัยเสี่ยงของชานมไข่มุกต่อสุขภาพไตคือปริมาณน้ำตาล
4.ชานมไข่มุก 1 แก้วมีน้ำตาลถึง 11 ช้อนชา เท่ากับปริมาณที่ WHO แนะนำใน 1 วัน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ข้อมูลดังกล่าว มาจากรายงานข่าวจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Independent ของประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่รายงานเคสผู้ป่วยหญิงชาวไต้หวันวัย 20 ปี ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลจากการเป็นไข้และอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณแผ่นหลังด้านล่าง

การตรวจอัลตราซาวนด์พบว่าไตของเธอมีอาการบวมน้ำและพบนิ่วในไตจำนวนมาก ผลตรวจเลือดพบปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมาก

ทีมแพทย์ทำการรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ดูดของเหลวออกจากไต และทำการผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อนำนิ่วมากกว่า 300 ชิ้นออกมาจากไตของเธอ ซึ่งแต่ละชิ้นมีขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตรถึง 2 เซนติเมตร

ดร.ลิมชียัง แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้ทำการผ่าตัดหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ชี้แจงว่าโดยปกติแล้วโรคนิ่วในไตจะพบในผู้ป่วยอายุ 50-60 ปี พบได้ประมาณ 9.6% ของประชากรไต้หวัน และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

ในไต้หวันมักพบผู้ป่วยนิ่วในไตเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ หากดื่มน้ำไม่พอเพียง จะทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นมากกว่าปกติ จนแร่ธาตุจะรวมตัวกันและตกผลึกเป็นนิ่ว

สอดคล้องกับการเปิดใจของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายที่ยอมรับว่า ปกติเธอไม่ชอบดื่มน้ำ เมื่อกระหายน้ำก็จะดื่มชานมไข่มุกแทนน้ำ

ข่าวลือเรื่องนิ่วในถุงน้ำดีเพราะชานมไข่มุก

เมื่อปี 2020 มีข่าวลือว่าการดื่มชานมไข่มุกมากเกินไปทำให้ป่วยเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ก่อนจะได้รับการตรวจสอบว่าเป็นข่าวปลอม โดยสาเหตุมาจากวิดีโอสาธิตการผ่าถุงน้ำดีที่มีน้ำดีและนิ่วไหลออกมา ซึ่งแพทย์ผู้ทำการสาธิตได้ตั้งชื่อคลิปวิดีโอว่า Bag of Boba หรือถุงของไข่มุก จนเกิดความเข้าใจผิดว่านิ่วที่อยู่ในถุงน้ำดีคือไข่มุกจากการดื่มชานมไข่มุก ซึ่งไม่เป็นความจริง

โอกาสการเกิดโรคไตและนิ่วในไตจากการดื่มชานมไข่มุกมากเกินไป

เมื่อเดือนเมษายน 2024 เว็บไซต์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUH) นำเคสการพบนิ่วในไต 300 ชิ้น มาวิเคราะห์ความเสี่ยงการเกิดโรคไตจากชานมไข่มุกแทนน้ำ พบว่าการดื่มชานมไข่มุกมากเกินไป ส่งผลเสียต่อไตและเพิ่มความเสี่ยงนิ่วในไตอย่างชัดเจน

ชาในชานมไข่มุกมีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ หากดื่มมากเกินไป จะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และส่งผลเสียต่อการทำงานของไต เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคไต

ชาในชานมไข่มุกมีสารออกซาเลต ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิดในกระแสเลือด หากได้รับปริมาณมาก ออกซาเลตจะเข้าไปตกผลึกสะสมในไต กระดูก ทำให้กระดูกพรุน และทำให้เป็นนิ่ว

นมในชานมไข่มุก ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุฟอสฟอรัสและแคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายด้านการส่งเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน

แต่หากได้รับฟอสฟอรัสจากการดื่มชานมไข่มุกมากเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของไต และเมื่อฟอสฟอรัสและแคลเซียมส่วนเกินไปรวมตัวกับสารออกซาเลต เพิ่มความเสี่ยงการตกตะกอนกลายเป็นก้อนนิ่วในไตได้

ปัจจัยสุดท้ายคือน้ำตาลปริมาณสูงที่อยู่ในชานมไข่มุก ทั้งที่อยู่ในตัวชานมและตัวไขมุกที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังและนำไปเชื่อมน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวาน

มีการประเมินว่า ชานมขนาด 16 ออนซ์ (475 ml) มีปริมาณน้ำตาล 38 กรัมหรือ 8-9 ช้อนชา

ไข่มุก 2 สกู๊ป เทียบเท่าปริมาณน้ำตาล 1.5 ช้อนชา

ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้ว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 50 กรัมหรือ 12 ช้อนชาต่อวัน

ส่วนสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (AHA) กำหนดให้ผู้ชายได้รับน้ำตาลไม่เกิน 9 ช้อนชาต่อวัน และผู้หญิงได้รับน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

ดังนั้นการบริโภคชานมไข่มุกเกินกว่าวันละ 1 แก้ว อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากกว่าที่ควรได้รับในแต่ละวัน

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ย้ำว่า น้ำตาลส่วนเกินจากชานมไข่มุกเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน การดื่มชานมไข่มุกทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาการแย่ลง ส่งผลเสียต่อการทำงานของไต และนำไปสู่อาการไตวายในที่สุด

วิธีป้องกันสุขภาพจากการดื่มชานม

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ให้คำแนะนำการดื่มชานมโดยไม่ทำร้ายสุขภาพมากเกินไป ด้วยการสั่งชานมสูตรลดความหวานโดยไม่ต้องเพิ่มไข่มุกหรือท็อปปิงใด และดื่มน้ำอย่างพอเพียงในฤดูร้อนเพื่อป้องกันการเกิดนิ่ว

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.independent.co.uk/asia/china/taiwan-woman-kidney-stones-bubble-tea-water-b2464571.html
https://www.nuhsplus.edu.sg/article/what-happens-if-you-drink-too-much-bubble-tea

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ-นำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิต 5 ราย ออกจากพื้นที่แล้ว ความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา พื้นที่ชายแดน เขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ (25 ก.ค.) กระสุนปืนของฝั่งกัมพูชาตกมาที่ฝั่งไทย ค่าย ตชด.224 ประมาณ 3 ลูก ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ EOD ที่ปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้ระเบิดตั้งแต่ช่วงเช้า ต้องออกจากที่เกิดเหตุด่วน ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยยังทำการเก็บกู้ระเบิดที่หลงเหลือยังไม่แล้วเสร็จ เพราะกระสุนของทางกัมพูชายิงมาใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงทำการอพยพชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการเก็บกู้ระเบิดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าเก็บร่างผู้เสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อ พบผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

รอง มทภ.2 เยี่ยมปลอบขวัญ ปชช. เชื่อสถานการณ์จบใน 3-7 วัน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ปลอบขวัญประชาชนที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าสถานการณ์จะจบภายใน 3-7 วัน พลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมายังที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนมาลงทะเบียนพักมากที่สุดกว่า 5,000 คน โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าติดปัญหาได้หรือไม่ เช่น เรื่องห้องน้ำอาหาร และที่นอน เป็นต้น จากนั้นได้เดินทักทายจับมือให้กำลังใจกับประชาชนโดยระบุขออย่ากังวลกับทรัพย์สินและบ้านเรือน ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยซ่อมแซม ส่วนคำถามที่ว่าประชาชนจะสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ตามปกติเมื่อไหร่นั้น รองแม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 3-7 วันนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ปราศรัยกับประชาชนถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงรับผู้บาดเจ็บจากเหตุสู้รบในครั้งนี้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ ที่เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ทูตไทยจ่อแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค.นี้

นิวยอร์ก 25 ก.ค.-ทูตไทยเตรียมแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค. ส่งหนังสือแจงนานาชาติ ก่อนเตรียมแจงในที่ประชุม ยันกัมพูชาวางทุ่นระเบิดและเปิดฉากยิงใส่ฐานทหารไทยที่ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ของไทยก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้ดำเนินการในส่วนของไทยทันที หลังเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (24 ก.ค.)โดยมีการส่งหนังสือออกไป 3 ฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจากไทย ให้กับนายอาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธาน UNSC ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คณะผู้แทนถาวรของสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดรับทราบด้วย ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนถาวรไทยยังได้ส่งหนังสือไปถึงนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งเหตุการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ เก็บสะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว ต่อกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทุ่นระเบิดที่พบเป็นของที่เพิ่งถูกวางใหม่ และยังมีการเกิดเหตุซ้ำแม้ว่าไทยจะมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไปก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุครั้งแรกแล้วก็ตาม จึงขอให้มีการดำเนินการสอบสวนตามข้อกำหนดในอนุสัญญา และขอให้กัมพูชาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนไทยอีกด้วย ทั้งนี้ UNSC จะจัดให้มีการประชุมฉุกเฉินแบบที่เรียกว่า private meeting ซึ่งเป็นการประชุมปิดที่ใช้เวลาราว […]

องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่ จนท.-ประชาชนได้รับผลกระทบชายแดน

อุบลราชธานี 25 ก.ค.-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินไปยังพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจุดที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี และขณะนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานในจุดที่ 1 จ.อุบลราชธานี แก่เจ้าหน้าที่จำนวน 200 ชุด มอบแก่ประชาชน 75 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ช่องบ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจุดปะทะ ชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ในหลุมหลบภัย เนื่องจากมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง ผู้นำชุมชนจึงได้ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นยังมีรายงานจากรองโฆษกกองทัพบกว่า สถานการณ์ในวันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. […]