บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์วิธีสังเกตความแตกต่างของโรคกระเพาะกับกรดไหลย้อน ที่เป็นโรคคล้ายกันแต่ต่างกันทั้งสาเหตุและอาการ จริงหรือ ?
🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.นพ.ปิยะพันธ์ พฤกษพานิช สาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“โรคกระเพาะอาหาร” และ “โรคกรดไหลย้อน” เป็นโรคที่ทำให้หลายคนเกิดความสับสนได้
บางคนคิดว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน บางคนก็คิดว่าเป็นทั้งโรคกระเพาะอาหาร และโรคกรดไหลย้อนพร้อมกัน
ทั้งโรคกระเพาะอาหาร และโรคกรดไหลย้อน เกิดจาก “กรด” เหมือนกัน
โรคหนึ่ง “กรดอยู่ในกระเพาะ” ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่
ในขณะที่ “กรดไหลย้อน” เป็นเรื่องของอาการเรอเปรี้ยวและอาการแสบร้อนกลางอก ซึ่งอยู่คนละตำแหน่ง คนละอวัยวะกัน
อาการของโรค “กรดไหลย้อน” และ “กระเพาะอาหาร”มีความแตกต่างกัน จริงหรือ ?
โรคกระเพาะอาหาร (Dyspepsia) เกิดขึ้นที่กระเพาะอาหาร อิ่มก็ปวดแสบ หิวก็ปวดแน่น
โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease : GERD) เป็นโรคของหลอดอาหาร อยู่บริเวณกลางทรวงอกหรือลำคอ มักเป็นหลังมื้ออาหาร มีอาการแสบร้อนกลางหน้าอก และไม่ควรมาอยู่บริเวณลิ้นปี่
โรคกระเพาะอาหาร เกิดจากสาเหตุอะไร ?
สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดโรคกระเพาะอาหารได้แก่
1. ติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori หรือ H.pylori
2. กินยาบางชนิดที่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs
3. กินอาหารไม่ตรงเวลา และกินอาหารรสจัด
4. ดื่มเครื่องดื่มรสเปรี้ยว น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน
5. สูบบุหรี่ และดื่มสุรา
6. มีความเครียด และพักผ่อนไม่เพียงพอ
โรคกรดไหลย้อน เกิดจากสาเหตุอะไร ?
โรคกรดไหลย้อน เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนผ่านหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างเข้ามาในหลอดอาหาร
นอกจากนี้ โรคกรดไหลย้อน ยังเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสุขภาพอื่น ๆ ได้แก่
1. ใน 1 มื้อ กินอาหารปริมาณมากเกินไป
2. กินอาหารทอดและอาหารมัน ทำให้อาหารย่อยช้าตกค้างในกระเพาะอาหารเป็นเวลานาน
3. กินอาหารรสจัด เช่น รสเปรี้ยว รสเผ็ด
4. กินอิ่มแล้วเอนตัวลงนอนทันที
การรักษาโรคกระเพาะอาหาร และโรคกรดไหลย้อน แตกต่างกัน หรือไม่ ?
เนื่องจากโรคกระเพาะอาหารและโรคกรดไหลย้อนเกี่ยวข้องกับกรดในกระเพาะอาหาร การให้ยาที่มีฤทธิ์ลดการหลั่งกรด ช่วยทำให้โรคกระเพาะอาหารและโรคกรดไหลย้อนทุเลาลงได้
โรคกรดไหลย้อนไม่ได้เกิดจากกรดเพียงอย่างเดียว เกิดจาก “การไหลย้อน” ด้วย นอกจากให้ยาลดกรดแล้ว จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดการไหลย้อนลดลง
ทำอย่างไร “ป้องกัน” โรคกรดไหลย้อน และโรคกระเพาะอาหาร ?
โรคกรดไหลย้อน ต้องระวังการกินอาหารแต่ละมื้อ (อย่ากินจนรู้สึกอิ่มมากเกินไปทุกมื้อ) ไม่ควรกินอาหารดึก ไม่ควรนอนภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังกินอาหาร และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน เช่น ชา กาแฟ อาหารมัน อาหารทอด หรืออาหารรสเปรี้ยว รสเผ็ด
โรคกระเพาะอาหาร พยายามหลีกเลี่ยงยาที่ทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เช่น ยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด หลีกเลี่ยงการกินอาหารไม่ตรงตามเวลา และงดกินอาหารที่มีรสจัด
สัมภาษณ์โดย อัครวุฒิ ตู้วชิรกุล
เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : วิธีสังเกตโรคกระเพาะ-กรดไหลย้อน จริงหรือ?
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter