บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์แนวทางการรักษาหัวใจ หากตรวจเจอแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจ ควรต้องไปทำบอลลูนขยายหลอดเลือด ?
🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.สุพจน์ ศรีมหาโชตะ สาขาวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อดีตนายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการอะไร ไปตรวจร่างกายตามปกติ แต่พบแคลเซียมในหลอดเลือด ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องไปฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ
การตรวจแคลเซียมหลอดเลือดมีมาประมาณ 20 ปีแล้ว
แคลเซียมถือเป็นความเสื่อมอย่างหนึ่งของหลอดเลือด
การเสื่อมของหลอดเลือดเพราะมีหินปูนมาเกาะ
ปริมาณแคลเซียมสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น และสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในอนาคตได้
การตรวจพบแคลเซียมในหลอดเลือดอาจเป็น “สัญญาณ” แต่ไม่ใช่ข้อสรุปที่ชัดเจน
การพบแคลเซียมในหลอดเลือดก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวล เพียงแต่เรื่องการป้องกันการเกิดโรคในอนาคตด้วยการออกกำลังกาย ควบคุมเรื่องเบาหวานและความดันเลือดสูง (ถ้ามี) งดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญมาก ก็ช่วยป้องกันโรคหัวใจในอนาคต
Calcium Score หรือ CT Coronary Calcium Score คือการตรวจหา “ปริมาณแคลเซียมสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ” ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ค่าแคลเซียมที่ได้ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าต้องไปฉีดสี เพราะการฉีดสีขึ้นกับอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก
แคลเซียมที่ตรวจพบในหลอดเลือด เกี่ยวข้องกับอาหารและการดื่มนม หรือไม่ ?
ข้อมูลเรื่องการดื่มนมกับแคลเซียมยังไม่ชัด แต่ว่าการได้แคลเซียมเสริมในยามีความสัมพันธ์ที่ทำให้มีแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจหรือแคลเซียมบริเวณส่วนอื่นในร่างกายเพิ่มมากขึ้น มีความเสี่ยง มีความสัมพันธ์ชัดเจนว่าถ้ากินแคลเซียมมากเกินไปก็มีโอกาสที่จะเกิดแคลเซียมเกาะหลอดเลือดได้
ปัจจุบัน การตรวจสุขภาพประจำปีมีการตรวจแคลเซียมด้วย แต่ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เพราะคนเรามีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ต้องควบคุมมากกว่าแคลเซียม เช่น ไขมันในหลอดเลือด น้ำตาลในเลือดสูงจากโรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง
ถึงแม้ว่าจะตรวจพบแคลเซียม หรือไม่พบแคลเซียม ก็มีโอกาสเป็นโรคหัวใจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ถึงแม้แคลเซียมเท่ากับศูนย์ (0) ก็ตาม หรือแคลเซียมอาจจะมากก็ไม่ได้รับรองว่าอนาคตจะเกิดโรคหัวใจ
ดังนั้น ทุกคนควรควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคหัวใจมากกว่า
ตราบใดที่เราไม่มีอาการ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปตรวจเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น MRI (Magnetic Resonance Imaging : การตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย โดยใช้เครื่องสนามแม่เหล็กและคลื่นความถี่วิทยุ สร้างภาพที่มีความละเอียดสูง) ดูกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือไม่ รวมถึงการฉีดสีดูหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุและไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
สำหรับคนที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เจ็บแน่นหน้าอก มีอาการเหนื่อยผิดปกติ เป็นตัวบ่งบอกว่าจะต้องตรวจเพิ่มเติม
ทุกครั้งที่มีการ “เอกซเรย์” อาจจะได้รับปริมาณรังสีโดยไม่จำเป็น ?
การตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วน แม้ว่าจะพบแคลเซียม แต่แคลเซียมเหล่านั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อหลอดเลือดหัวใจ
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูแคลเซียม ก็คือการได้รับปริมาณรังสีเข้าสู่ร่างกายโดยไม่จำเป็น ยิ่งบางโปรแกรมมีการเอกซเรย์ดูหลอดเลือดหัวใจและฉีดสีด้วย ปริมาณจะมากกว่าการดูแคลเซียมเพียงอย่างเดียว
การฉีดสีทุกครั้งผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาล การเจาะหลอดเลือดเพื่อใส่สายเข้าไปในหลอดเลือดแดง ก็มีความเสี่ยงเลือดออกได้ง่าย และขณะที่ใส่สายเข้าหลอดเลือดหัวใจก็อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ หรือบางครั้งทำอันตรายหลอดเลือดปกติของเรา อาจจะทำให้หลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันขึ้นมาก็เกิดความเสี่ยงได้ ถึงแม้จะเกิดขึ้นไม่มาก แต่บางครั้งเกิดขึ้นแล้วอันตรายมาก จึงไม่ควรเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้ การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Angiography : CAG) อาจจะทำให้ไตมีปัญหาได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุอาจจะมีไตเสื่อมบางส่วนแล้ว การฉีดสีเข้าไปจะทำให้ไตเสื่อมเพิ่มมากขึ้นได้
การเข้าใจข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง ป้องกันการตัดสินใจพลาดได้
สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : ตรวจเจอแคลเซียมหัวใจ ต้องรีบไปฉีดสีทำบอลลูน จริงหรือ ?
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter