ชัวร์ก่อนแชร์: ทำไม “แชร์ลูกโซ่” ถึงรู้จักในชื่อ Ponzi Scheme ?

04 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ธุรกิจแชร์ลูกโซ่กลายเป็นข่าวดังในสหรัฐฯ เมื่อปี 1920 เมื่อชาวอิตาเลียนอพยพที่ชื่อว่า ชาร์ลส์ พอนซี ได้เสนอแผนรวยทางลัดให้กับชาวอเมริกันจำนวนมากหลงเชื่อไปกับผลตอบแทนมหาศาลในเวลาอันสั้นของเขา จนรูปแบบธุรกิจกลโกงแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นที่รู้จักในชื่อ แผนร้ายของพอนซี หรือ Ponzi Scheme จนถึงวันนี้

ชาร์ลส์ พอนซี เกิดในเมืองลูโก ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1882 ในครอบครัวที่เคยมีฐานะแต่ประสบปัญหาทางการเงินในภายหลัง


หลังไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ครอบครัวของพอนซีจึงสนับสนุนให้เขาไปเสี่ยงโชคยังสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังกลับมาฟื้นฟูสถานะของครอบครัวอีกครั้ง

ชาร์ลส์ พอนซี เดินทางถึงเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อปี 1903 ด้วยเงินติดตัวเพียง 2.5 ดอลลาร์ หลังสูญเงินส่วนใหญ่ไปกับการพนัน แต่เขาก็ตั้งความหวังว่าจะต้องเป็นเศรษฐีเงินล้านในแผ่นดินแห่งโอกาสให้จงได้

แต่กลายเป็นว่า เส้นทางสร้างความร่ำรวยของ ชาร์ลส์ พอนซี กลับเต็มไปด้วยการข้องเกี่ยวกับความฉ้อฉล จนถูกจำคุกถึง 2 ครั้ง ทั้งคดีลักลอบพาผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าเมืองในสหรัฐฯ และคดีปลอมแปลงเช็คในแคนาดา


ซึ่งช่วงที่ทำงานในประเทศแคนดานี่เอง ที่ ชาร์ลส์ พอนซี ได้รู้จักกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่เป็นครั้งแรก

ระหว่างที่อยู่ในประเทศแคนาดา ชาร์ลส์ พอนซี ทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารสำหรับผู้อพยพชาวอิตาเลียนที่ชื่อว่า Banco Zarossi ซึ่งจูงใจนักลงทุนด้วยดอกเบี้ยเงินฝาก 6% ซึ่งสูงกว่าธนาคารอื่น ๆ ถึง 2 เท่าในขณะนั้น

อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยที่ธนาคาร Banco Zarossi มอบให้กับนักลงทุน ก็คือเงินฝากของนักลงทุนรายใหม่นั่นเอง ก่อนที่ Banco Zarossi จะปิดตัวลงหลังจากเจ้าของธนาคารหนีไปประเทศเทศเม็กซิโกพร้อมกับเงินที่ล่อลวงจากเหยื่อแชร์ลูกโซ่

ที่มาแผนร้ายของพอนซี

ชาร์ลส์ พอนซี นำธุรกิจแชร์ลูกโซ่จาก Banco Zarossi มาประยุกต์กับธุรกิจที่เขาคิดขึ้นมาเองภายหลัง ซึ่งเป็นการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาของวิมัยบัตรหรือตั๋วที่ใช้แลกซื้อแสตมป์ต่างประเทศ ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

วิมัยบัตร (International Reply Coupon หรือ IRC) เป็นตั๋วที่สามารถใช้แลกเป็นแสตมป์ค่าจดหมายไปต่างประเทศ ใช้สำหรับการโต้ตอบจดหมายระหว่างผู้รับที่อยู่คนละประเทศ โดยผู้ส่งสอดวิมัยบัตรไปพร้อมกับจดหมาย ผู้รับปลายทางก็สามารถนำวิมัยบัตรไปแลกเป็นแสตมป์ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อติดบนจดหมายตอบกลับ

อย่างไรก็ดี อัตราการนำวิมัยบัตรไปแลกเป็นแสตมป์ มีมูลค่าที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ โดยช่วงปี 1920 ที่ ชาร์ลส์ พอนซี เริ่มวางแผนแชร์ลูกโซ่ หลายประเทศในยุโรปโดยเฉพาะประเทศอิตาลี ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ราคาวิมัยบัตรมีราคาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐฯ

ชาร์ลส์ พอนซี จึงคิดว่าการซื้อวิมัยบัตรราคาถูกในยุโรป สามารถนำมาแลกเป็นแสตมป์ในราคาที่สูงกว่าในสหรัฐฯ และสามารถทำกำไรจากส่วนต่างด้วยการนำแสตมป์ไปขายอีกทอดหนึ่ง

ชาร์ลส์ พอนซี ได้นำแนวคิดการค้ากำไรส่วนต่างไปเสนอกับนักลงทุนในเมืองบอสตัน โดยสัญญาว่า ผู้ที่ร่วมลงทุนกับเขา จะได้ผลตอบแทนจากเงินลงทุน 50% ใน 45 วัน และผลตอบแทนจากเงินลงทุน 100% ใน 90 วัน

เมื่อได้รับผลตอบแทนดังที่ ชาร์ลส์ พอนซี สัญญาไว้ ความสนใจของผู้คนต่อธุรกิจของ ชาร์ลส์ พอนซี ก็เริ่มขยายตัวในวงกว้าง เขาจึงเปิดตัวบริษัท Securities Exchange Company เพื่อดำเนินกิจการโดยเฉพาะ โดยช่วงเดือนมกราคม 1920 ที่บริษัทเปิดดำเนินการ มีผู้สนใจลงทุนจำนวน 18 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 1,800 ดอลลาร์

การให้ผลตอบแทนตรงตามสัญญาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก ทำให้ธุรกิจของ ชาร์ลส์ พอนซี ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในบอสตัน จากกลุ่มเป้าหมายชนชั้นแรงงาน เริ่มมีนักลงทุนกลุ่มผู้มีการศึกษาและผู้มีฐานะในเมืองบอสตันสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น

กระทั่งเดือนกรกฎาคม 1920 ชาร์ลส์ พอนซี สามารถทำรายได้จากธุรกิจแชร์ลูกโซ่ถึงวันละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

รายได้จากเหยื่อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ชาร์ลส์ พอนซี กลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน เขานำเงินลงทุนจากเหยื่อไปซื้อแมนชันสุดหรู ซื้อรถยนต์ราคาแพง และซื้อตั๋วเรือสำราญชั้นเฟิร์สคลาสให้แม่เดินทางมาอาศัยในสหรัฐฯ พร้อมบริจาคเงินเพื่อการกุศลและสนับสนุนองค์กรศาสนาอีกด้วย

การสอบสวน

หนังสือพิมพ์ The Boston Post ซึ่งเคยรายงานข่าวความสำเร็จของ ชาร์ลส์ พอนซี เริ่มสงสัยความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินธุรกิจของเขา จึงได้ติดต่อไปยัง แคลเรนซ์ บาร์รอน นักข่าวด้านการเงิน และเจ้าของบริษัท Dow Jones & Company ให้มาสอบสวนเพื่อค้นหาความจริง

แคลเรนซ์ บาร์รอน ประเมินว่า เพื่อจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนของ ชาร์ลส์ พอนซี ทั้งหมด จำเป็นต้องมีการซื้อวิมัยบัตรจำนวนถึง 160 ล้านใบ แต่การตรวจสอบพบว่า มีวิมัยบัตรอยู่ในตลาดซื้อขายเพียง 27,000 ใบเท่านั้น สำนักงานไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่มีปริมาณตั๋ววิมัยบัตรจำนวนมากขนาดนั้นถูกซื้อขายทั้งในสหรัฐฯ หรือในต่างประเทศเช่นกัน

ในทางปฏิบัติแล้ว การลงทุนซื้อวิมัยบัตรจำนวนมากเพื่อขายเอากำไรส่วนต่างแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากไปรษณีย์ในแต่ละประเทศมีการปรับอัตราราคาแสตมป์เพื่อป้องกันการค้าทำกำไรอยู่ก่อนแล้ว และความผันผวนของค่าเงินระหว่างประเทศ ทำให้การเก็งกำไรจากส่วนต่างของราคาแสตมป์ระหว่างประเทศแทบเป็นไปไม่ได้

ซึ่ง ชาร์ลส์ พอนซี ก็น่าจะรู้ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นอย่างดี แต่การที่เขายังชักชวนผู้ลงทุนหน้าใหม่ได้เสมอ ทำให้ธุรกิจของเขายังดำเนินต่อไปได้สักระยะ

ภายหลัง ชาร์ลส์ พอนซี ได้ว่าจ้างผู้สื่อข่าวและนักประชาสัมพันธ์ วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ มาดูแลด้านงานประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัท แต่กลายเป็นว่า วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ ก็สงสัยในธุรกิจของ ชาร์ลส์ พอนซี เช่นกัน หลังสืบหาข้อมูล วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ ก็พบว่า ชาร์ลส์ พอนซี เป็นผู้ที่ไม่มีทักษะในการบริหารการเงิน และร่ำรวยจากการทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ข้อมูลการสอบสวนของ วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ ถูกนำไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ The Boston Post เมื่อเดือนสิงหาคม 1920 โดยพบว่าขณะที่ ชาร์ลส์ พอนซี อ้างว่ามีเงินพร้อมลงทุนกว่า 7 ล้านดอลลาร์ แต่แท้จริงแล้วเขามีหนี้อยู่ถึง 2 ล้านดอลลาร์ ส่วนการตรวจสอบโดยอัยการของรัฐแมสซาชูเซตส์พบว่าเขาเป็นหนี้ถึง 7 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ The Boston Post ยังขุดคุ้ยประวัติการร่วมธุรกิจแชร์ลูกโซ่กับธนาคารในแคนาดาของ ชาร์ลส์ พอนซี เมื่อ 13 ปีก่อนมาตีแผ่อีกด้วย

เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ชาร์ลส์ พอนซี จึงยอมรับผิด และถูกดำเนินคดีในข้อหาการฉ้อโกงทางไปรษณีย์

ความเสียหาย

มูลค่าความเสียหายจากแชร์ลูกโซ่ของ ชาร์ลส์ พอนซี ถูกประเมินในปี 1920 ว่ามีมูลค่าประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าในปัจจุบันประมาณ 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท

จำคุกและจุดจบ

ในเดือนพฤศจิกายน 1920 ชาร์ลส์ พอนซี ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปีในข้อหาการฉ้อโกงทางไปรษณีย์

เมื่อได้รับอิสรภาพหลังจากจำคุกเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ชีวิตของ ชาร์ลส์ พอนซี ก็ไม่เคยห่างหายจากการก่อคดีฉ้อฉลและการจำคุก ทั้งในสหรัฐฯ และอิตาลีบ้านเกิด ก่อนจะไปใช้ชีวิตช่วงท้ายที่ประเทศบราซิลในฐานะล่าม

ชาร์ลส์ พอนซี ใช้ชีวิตในช่วง 10 ปีสุดท้ายอย่างยากไร้ ส่วนสุขภาพก็ย่ำแย่ตามลำดับ มีอาการหัวใจวายในวัย 59 ปี ตาเกือบบอดสนิทในวัย 65 ปี มีอาการเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาตครึ่งซีกในวัย 66 ปี ก่อนจะเสียชีวิตในปี 1949 ที่โรงพยาบาลของเมืองริโอเดจาเนโร ตอนอายุ 66 ปี

ที่มาชื่อ Ponzi Scheme กับแชร์ลูกโซ่

แม้ ชาร์ลส์ พอนซี จะไม่ใช่ผู้คิดค้นการฉ้อโกงด้วยรูปแบบธุรกิจแชร์ลูกโซ่ แต่การฉ้อฉลที่เขาทำเอาไว้ในปี 1920 สร้างความเสียหายในวงกว้างมากกว่าธุรกิจแชร์ลูกโซ่ครั้งไหน ๆ ที่เคยมีมาในสหรัฐฯ จนมีการเรียกขานการล่อลวงผู้คนด้วยรูปแบบธุรกิจแชร์ลูกโซ่ว่าเป็นแผนร้ายของพอนซี หรือ Ponzi Scheme นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/Ponzi_scheme
https://en.wikipedia.org/wiki/Charles_Ponzi

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]