ชัวร์ก่อนแชร์: “ไบเดน-แฮร์ริส” ทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุด จริงหรือ?

29 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2024 โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน โจมตี กมลา แฮร์ริส ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครต ว่ามีส่วนร่วมมือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายชาวอเมริกันครอบครัวละ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 924,000 บาท ต่างจากสมัยที่เขาเป็นผู้นำประเทศ ที่สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลย เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุด


บทสรุป :

  1. ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
  2. รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตสูงสุดตามที่อ้าง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี – แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์


ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 เป็นต้นมา ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะของเงินเฟ้อภายในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น 19.4% ในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยเพิ่มสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน 2022 ที่เพิ่มถึง 9.1%

อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาล โจ ไบเดน จะเพิ่มสูงที่สุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่ได้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวอ้าง เพราะในช่วงทศวรรษที่ 1970s และต้นทศวรรษที่ 1980s สหรัฐฯ เคยเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่านี้ อาทิ 1981 (10.3%) 1980 (13.5%) 1979 (11.3%) 1975 (9.1%) และ 1974 (11.1%)

หลังจากปี 2022 อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็ชะลอตัวลง โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคมพบว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 2.5%

ส่วนการอ้างว่าแต่ละครอบครัวในสหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากอัตราเงินเฟ้อ ก็เป็นตัวเลขที่ยังไม่นำอัตราค่าแรงมาคำนวณ

ในช่วง 3 ปีครึ่งที่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 19.4% ส่วนอัตราค่าแรงเพิ่มขึ้น 17.7% เท่ากับอัตราค่าแรงตามหลังอัตราเงินเฟ้อที่ 1.7%

โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ส่งผลต่อเงินเฟ้อบางส่วน

โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า กมลา แฮร์ริส มีส่วนรับผิดชอบจากการโหวตสนับสนุนกฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการแจกเงิน 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับชาวอเมริกันผู้เสียภาษีซึ่งมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็น 85% ของคนทั้งประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจทั้งฝั่งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมต่างวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า โครงการดังกล่าวมีส่วนก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เมื่อชาวอเมริกันมีเงินมากกว่ากำลังการผลิตสินค้าที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ จนอุปสงค์เหนือกว่าอุปทาน ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้กำลังการผลิตชะลอตัว และปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กระตุ้นให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น คือ 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

โดยวิเคราะห์ว่า โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ของ โจ ไบเดน และ กมลา แฮร์ริส ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ประมาณ 1-4%

ดีน เบคเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ Center for Economic and Policy Research วิเคราะห์ว่า กฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 ส่งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพราะการแจกเงินช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน แต่ก็ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แม้จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วขณะก็ตาม

รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อเช่นกัน

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลยในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วง 4 ปีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.6% หรือเฉลี่ย 1.9 ต่อปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่สหรัฐฯ มีอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ตั้งแต่สมัยรัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช (2.4% ต่อปี) และ บารัค โอบามา (1.8% ต่อปี)

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เติบโตสูงสุดในรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุดในช่วงที่เขาเป็นผู้นำประเทศ แต่เมื่อสำรวจการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) กลับพบว่า ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยทำให้สหรัฐฯ มี GDP เติบโตสูงสุดที่ประมาณ 3% ในปี 2018 แต่เคยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP สูงกว่า 3% มาแล้วหลายครั้งเช่นกัน

โดยนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930s เป็นต้นมา นอกจาก บารัค โอบามา และ เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ทุกรายต่างเคยช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% คนละ 1 ปีเป็นอย่างต่ำ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2024/sep/08/donald-trump/fact-checking-donald-trump-on-the-scale-and-causes/
https://www.factcheck.org/2024/09/factchecking-the-harris-trump-debate
https://www.snopes.com/fact-check/biden-worst-inflation-in-us-history/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]