ชัวร์ก่อนแชร์: “ไบเดน-แฮร์ริส” ทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุด จริงหรือ?

29 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2024 โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน โจมตี กมลา แฮร์ริส ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครต ว่ามีส่วนร่วมมือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายชาวอเมริกันครอบครัวละ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 924,000 บาท ต่างจากสมัยที่เขาเป็นผู้นำประเทศ ที่สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลย เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุด


บทสรุป :

  1. ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
  2. รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตสูงสุดตามที่อ้าง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี – แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์


ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 เป็นต้นมา ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะของเงินเฟ้อภายในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น 19.4% ในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยเพิ่มสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน 2022 ที่เพิ่มถึง 9.1%

อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาล โจ ไบเดน จะเพิ่มสูงที่สุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่ได้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวอ้าง เพราะในช่วงทศวรรษที่ 1970s และต้นทศวรรษที่ 1980s สหรัฐฯ เคยเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่านี้ อาทิ 1981 (10.3%) 1980 (13.5%) 1979 (11.3%) 1975 (9.1%) และ 1974 (11.1%)

หลังจากปี 2022 อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็ชะลอตัวลง โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคมพบว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 2.5%

ส่วนการอ้างว่าแต่ละครอบครัวในสหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากอัตราเงินเฟ้อ ก็เป็นตัวเลขที่ยังไม่นำอัตราค่าแรงมาคำนวณ

ในช่วง 3 ปีครึ่งที่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 19.4% ส่วนอัตราค่าแรงเพิ่มขึ้น 17.7% เท่ากับอัตราค่าแรงตามหลังอัตราเงินเฟ้อที่ 1.7%

โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ส่งผลต่อเงินเฟ้อบางส่วน

โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า กมลา แฮร์ริส มีส่วนรับผิดชอบจากการโหวตสนับสนุนกฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการแจกเงิน 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับชาวอเมริกันผู้เสียภาษีซึ่งมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็น 85% ของคนทั้งประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจทั้งฝั่งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมต่างวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า โครงการดังกล่าวมีส่วนก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เมื่อชาวอเมริกันมีเงินมากกว่ากำลังการผลิตสินค้าที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ จนอุปสงค์เหนือกว่าอุปทาน ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้กำลังการผลิตชะลอตัว และปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กระตุ้นให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น คือ 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

โดยวิเคราะห์ว่า โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ของ โจ ไบเดน และ กมลา แฮร์ริส ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ประมาณ 1-4%

ดีน เบคเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ Center for Economic and Policy Research วิเคราะห์ว่า กฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 ส่งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพราะการแจกเงินช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน แต่ก็ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แม้จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วขณะก็ตาม

รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อเช่นกัน

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลยในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วง 4 ปีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.6% หรือเฉลี่ย 1.9 ต่อปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่สหรัฐฯ มีอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ตั้งแต่สมัยรัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช (2.4% ต่อปี) และ บารัค โอบามา (1.8% ต่อปี)

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เติบโตสูงสุดในรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุดในช่วงที่เขาเป็นผู้นำประเทศ แต่เมื่อสำรวจการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) กลับพบว่า ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยทำให้สหรัฐฯ มี GDP เติบโตสูงสุดที่ประมาณ 3% ในปี 2018 แต่เคยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP สูงกว่า 3% มาแล้วหลายครั้งเช่นกัน

โดยนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930s เป็นต้นมา นอกจาก บารัค โอบามา และ เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ทุกรายต่างเคยช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% คนละ 1 ปีเป็นอย่างต่ำ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2024/sep/08/donald-trump/fact-checking-donald-trump-on-the-scale-and-causes/
https://www.factcheck.org/2024/09/factchecking-the-harris-trump-debate
https://www.snopes.com/fact-check/biden-worst-inflation-in-us-history/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]