ชัวร์ก่อนแชร์: นักสิ่งแวดล้อมวางแผนลดประชากรโลก ก่อนโควิด-19 ระบาด จริงหรือ?

30 กรกฎาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทาง Instagram ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 คือแผนการลดประชากรโลกของ World Economic Forum เพราะ เจน กูดดอลล์ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งร่วมงานประชุม World Economic Forum เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 กล่าวว่า หากประชากรโลกมีจำนวนเท่ากับเมื่อ 500 ปีก่อน ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่โลกต้องเผชิญอยู่ในทุกวันนี้จะหมดไป จนมีการนำข้อความไปบิดเบือนว่า การจะทำให้ประชากร 8 พันล้านคนลดลงเหลือเพียง 500 ล้านคนเหมือนเมื่อ 500 ปีก่อน เป็นการลดจำนวนประชากรลงถึง 95% และคิดว่าการใช้ไวรัสเพื่อสร้างโรคระบาดน่าจะเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถลดประชากรได้มากขนาดนั้น


บทสรุป :

  1. เจน กูดดอลล์ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของประชากรโลกเมื่อปี 2020 หรือหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปแล้ว
  2. เจน กูดดอลล์ เชื่อว่ายิ่งผู้หญิงมีการศึกษามากเท่าไหร่ โอกาสการมีลูกเกินความจำเป็นก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

เจน กูดดอลล์ คือนักวานรวิทยาและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวอังกฤษวัย 90 ปี ผู้รณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมมานานหลายปี


ในงานประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมกราคม 2020 เจน กูดดอลล์ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ การปกป้องอนาคตที่ยั่งยืนเพื่อผืนป่าแอมาซอน โดยเล่าถึงโครงการ Trillion Trees Project ที่เธอก่อตั้งเพื่อฟื้นฟูผืนป่าและเยียวยาปัญหาสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำภารกิจ 4 ด้านที่นักเคลื่อนไหวและรัฐบาลของแต่ละประเทศ ต้องให้ความสำคัญ คือ การแก้ปัญหาความยากจน รณรงค์ให้ประชาชนบริโภคเนื้อสัตว์ลดลง กวาดล้างคอร์รัปชัน และควบคุมการเพิ่มประชากรโลก

เจน กูดดอลล์ มองว่า ปัญหาการเพิ่มประชากรโลกอย่างไร้การควบคุม คือต้นเหตุของปัญหาหลาย ๆ อย่างที่โลกต้องเผชิญในขณะนี้ หากประชากรโลกมีเท่ากับเมื่อ 500 ปีก่อน ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรากังวลอยู่ในวันนี้คงไม่เกิดขึ้น

แม้ เจน กูดดอลล์ ต้องการให้สังคมเล็งเห็นถึงปัญหาการขยายตัวของประชากรโลกอย่างไร้การควบคุม แต่เนื้อหาที่เธอกล่าวในงาน World Economic Forum ไม่ได้พูดถึงแผนการลดประชากรโลกตามที่กล่าวอ้าง

นอกจากนี้ World Economic Forum ที่ เจน กูดดอลล์ ไปร่วมประชุมก็จัดขึ้นเมื่อปี 2020 ซึ่งเกิดหลังจากที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศจีนไปตั้งแต่ปี 2019 ดังนั้นการอ้างว่ามีแผนลดประชากรโลกด้วยไวรัสโควิด-19 จึงไม่เป็นความจริง

เจน กูดดอลล์ ย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างการขยายตัวของประชากรโลกอย่างไร้การควบคุมกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมานานนับทศวรรษ โดยในงานประชุม Population Matters เมื่อปี 2019 เธอได้กระตุ้นให้องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมและรัฐบาลของทุกประเทศ รวมกันยับยั้งการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อแหล่งทรัพยากรของโลกที่มีอย่างจำกัด เพราะในบางพื้นที่มีการใช้ทรัพยากรในอัตราที่รวดเร็วเกินกว่าธรรมชาติจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ ดังนั้นปัญหาการขยายตัวของประชากรโลกอย่างไร้การควบคุมควรเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างจริงจัง

เจน กูดดอลล์ ได้เริ่มโครงการเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้ด้านการวางแผนครอบครัว และโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กหญิงในประเทศแทนซาเนีย จุดประสงค์เพื่อให้เด็กหญิงยังคงเรียนหนังสือต่อหลังจากพวกเธอเข้าสู่วัยสาวแล้ว

เจน กูดดอลล์อ้างอิงการศึกษาในหลายประเทศที่พบว่า ยิ่งระดับการศึกษาของสตรีสูงขึ้น ขนาดของครอบครัวก็จะยิ่งลดลง และช่วยให้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติไม่สมดุลต่อขนาดประชากรลดลงอีกด้วย

แม้สาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังเป็นปริศนา แต่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างยืนยันว่าไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือมีเจตนาเพื่อลดประชากรโลก

รายงาน World Populations Prospects Report ประจำปี 2022 ของสหประชาชาติยืนยันว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการขยายตัวของประชากรโลกอย่างชัดเจน โดยระบุว่าการระบาดของโรคส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากรทุกส่วน ทั้งความผันผวนของอัตราการเกิด อัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการโยกย้ายถิ่นฐานที่ชะลอตัวลง

รายงานระบุว่า อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกเมื่อปี 2019 อยู่ที่ 72.8 ปี แต่ปี 2021 ลดลงเหลือ 71 ปี โดยมีสาเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญ

แม้โควิด-19 จะคร่าชีวิตผู้คนทั่วไปโลกไปกว่า 7 ล้านคน และทำให้อัตราการขยายตัวของประชากรโลกลดต่ำลงมากที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950s เป็นต้นมา แต่การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกก็ยังคงอยู่ในอัตราที่รวดเร็วเช่นเดิม โดยประชากรโลกเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านคนตั้งแต่ปลายปี 2022 เป็นต้นมา

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2022/jul/27/instagram-posts/no-jane-goodalls-population-comments-didnt-spark-p/
https://apnews.com/article/fact-check-jane-goodall-population-299442560681
https://www.reuters.com/fact-check/jane-goodall-did-not-advocate-forced-depopulation-wef-speech-2024-01-24/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ

สระแก้ว 12 มิ.ย. – ทหารชายแดนสระแก้วซ้อมรบด้วยกระสุนจริง พร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยกองกำลังเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 (ฉก.ร.12) กองพันที่ 2 ได้ทำการจัดการฝึกยิงอาวุธประจำกายของกำลังพล ด้วยกระสุนจริง บริเวณพื้นที่เขาอีด่าง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อยกระดับความชำนาญในการใช้อาวุธประจำกายของแต่ละบุคคลตามตำแหน่งหน้าที่ พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมในการปกป้องดินแดนอธิปไตยของชาติ และการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน โดยเน้นการเพิ่มทักษะและความแม่นยำในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประจำอยู่กับแต่ละกำลังพล หากมีคำสั่งจากหน่วยเหนือก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีทุกเวลาเพื่อความสงบสุขของประชาชนคนไทย.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เรียกถกด่วน หลังพบการรุกป่าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

บ้านพิษณุโลก 12 มิ.ย.- นายกฯ เรียกปลัด ทส.-เสนาธิการทหารบก ประชุมด่วน หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ แม่ทัพภาค 2 รายงานพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน-อุทยานฯ เป็นปัญหาตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายแดน เร่งเพิ่มเส้นทางตรวจการณ์อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ภายหลังเรียกประชุมด่วนเมื่อช่วงเช้า กับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก และหัวหน้าเขตอุทยาน 5 เขตแนวชายแดน ว่า เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ดิฉันและคณะได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ท่านแม่ทัพภาคที่2 ได้รายงานอีกเรื่องที่สำคัญค่ะ คือการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่อุทยาน ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่ตามแนวชายแดน และไม่มีเส้นทางทำให้การปฏิบัติงานเป็นได้ด้วยความยากลำบากและล่าช้า วันนี้ดิฉันจึงขอประชุมด่วน โดยมีท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หัวหน้าเขตอุทยานทั้ง 5 เขตแนวชายแดน และเสนาธิการทหารบกร่วมพูดคุยกัน แผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การเพิ่มเส้นทางในการตรวจการณ์พื้นที่อุทยาน การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติบริเวณชายแดนให้อยู่ในสภาพดี เพียงพอสำหรับการอำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ รวมถึงแผนเร่งพัฒนาระบบการสื่อสารและไฟฟ้าให้มีความเสถียร เพื่อให้การประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น การปฏิบัติงานตามแนวชายแดนมีหลายสิ่งที่ต้องเร่งจัดการ เพื่อเตรียมความพร้อม […]

หนุ่มออสเตรียชักเกร็งหมดสติ หามส่ง รพ. เจอยาบ้าเต็มท้อง

กทม. 12 มิ.ย. – หนุ่มออสเตรีย ปวดท้อง ถูกส่งตัวจากสนามบินดอนเมืองไปโรงพยาบาลรักษาตัว ขณะรักษาเจอยาบ้า 255 เม็ด หลุดออกมาจากลำไส้ คาดกลืนยาเสพติดเข้าไปแล้วถุงยาแตก ทำให้ปวดท้องหนัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจหัวหมากได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสวนหลวง ว่าได้รับตัวชายชาวต่างชาติมาจากสนามบินดอนเมือง เนื่องจากชายคนดังกล่าวมีอาการชักเกร็ง เมื่อถึงโรงพยาบาลประเมินอาการก่อนการรักษา แพทย์พบมีน้ำสีชมพูออกมาทางทวารของผู้ป่วย จึงทำการ CT SCAN พบวัตถุก้อนกลมๆ จำนวนหนึ่ง อยู่ภายในท้อง และวัตถุดังกล่าวจำนวน 1 ก้อน ได้หลุดออกมาจากทวาร มีลักษณะคล้ายห่อสิ่งเสพติด แพทย์จึงแจ้งตำรวจตรวจสอบ ผลปรากฏว่า ห่อดังกล่าวบรรจุยาบ้าชนิดกลม-แบน สีแดง มีตัวอักษร WY ปั๊มอยู่ เมื่อนับจำนวนพบมีทั้งหมด 255 เม็ด ไม่นับรวมที่เหลืออยู่ในท้องของผู้ป่วยซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ส่วนผู้ป่วย ตรวจสอบแล้ว ชื่อว่า นายกานท์เนอร์ อายุ 43 ปี สัญชาติออสเตรีย ขณะทำการตรวจยึดผู้ป่วยไม่ได้สติ รอการผ่าตัด ทำให้คาดว่าผู้ป่วยกลืนถุงยาบ้า […]