ชัวร์ก่อนแชร์ : วิตามินที่ควรและไม่ควรกินคู่กัน จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เกี่ยวกับคู่วิตามินที่ควรกินและไม่ควรกินด้วยกัน เรื่องนี้จริงหรือไม่ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ภกญ.ดร.กรกช กังวาลทัศน์ ผู้จัดการร้านยาโอสถโดม​ คณะเภสัชศาสตร์​ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คู่วิตามินที่ควรกินและไม่ควรกินด้วยกัน ส่วนใหญ่จริง และอาจจะตีกันจริง แต่การตีกันนั้นก็อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากมาย


วิตามิน “แฝดดี” 5 กลุ่ม ได้แก่

แฝดดีคู่ที่ 1. วิตามินซี : คอลลาเจน ?

ด้วยกลไกการสร้างคอลลาเจน จะมีตัววิตามินซีเข้าไปช่วย เพราะฉะนั้นคู่นี้พอฟังขึ้นอยู่ แต่ว่าตัวคอลลาเจนเองก็จะมีหลายรูปแบบ ซึ่งคอลลาเจนตัวเต็มเขาบอกว่าจะไม่ค่อยดูดซึม จะย่อยกลายเป็นกรดอะมิโน เหมือนกับอาหารที่เป็นโปรตีนทั่วไป แต่ถ้าเป็นไตรเพปไทด์ (Tripeptide) ก็มีงานวิจัยที่ค่อนข้างจะแน่ชัดกว่าเรื่องเกี่ยวกับผิวพรรณ


แฝดดีคู่ที่ 2. ธาตุเหล็กควรกินคู่กับวิตามินซี ?

เรื่องธาตุเหล็กกินคู่กับวิตามินซีจริง เพราะวิตามินซีเป็นตัวที่ปรับให้โครงสร้างธาตุเหล็กเหมาะสมกับการดูดซึม ซึ่งตัวที่เป็นวิตามินส่วนใหญ่จะทำรูปแบบที่เหมาะสมกับการดูดซึมอยู่แล้ว มักจะมาคู่กันกับวิตามินซี ส่วนที่เป็นจากอาหารก็จะเป็นรูปแบบที่ดูดซึมได้ดีกว่าพวกอยู่ในยาเม็ด

แฝดดีคู่ที่ 3. แคลเซียมและแมกนีเซียม ?

แคลเซียมคู่กับแมกนีเซียม… ไม่จริง

เรื่องของแคลเซียมกับแมกนีเซียม หรือธาตุเหล็ก ถ้ากินด้วยกันจะแย่งกันดูดซึม ทำให้แต่ละตัวจะดูดซึมได้ไม่ดี

สิ่งที่แนะนำก็คือให้กินแยกกัน และ/หรือ กินคนละมื้อ

แฝดดีคู่ที่ 4. วิตามินซี เอ และ อี ควรกินด้วยกัน ?

วิตามินซี เอ อี เป็นวิตามินที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

เรื่องวิตามินมีสิ่งที่ควรรู้ก็คือ วิตามินละลายในน้ำ และวิตามินละลายในไขมัน

วิตามินละลายในน้ำ เช่น วิตามินบี (B) วิตามินซี (C) จะถูกขับออกทางปัสสาวะได้ง่าย และต้องกินค่อนข้างบ่อย เพราะร่างกายสะสมได้ไม่มาก

วิตามินละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ (A) ดี (D) อี (E) เค (K) วิตามินเหล่านี้อาจสะสมในร่างกาย ถ้ากินมากย่อมไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย

แฝดดีคู่ที่ 5. น้ำมันปลาที่มีดีเอชเอ และอีพีเอ ?

ปกติแล้ว น้ำมันปลาที่อยู่ในตัวเม็ดยาแคปซูล จะวิตามิน 2 ชนิดคู่กันเลยคือ ดีเอชเอ (DHA : Docosahexaenoic Acid) และ อีพีเอ (EPA : Eicosapentaenoic Acid) ไม่สามารถแยกกินได้

วิตามิน “แฝดร้าย” 5 กลุ่ม ได้แก่

แฝดร้ายคู่ที่ 1. “น้ำมันปลา” กับ “ยาแอสไพริน” ?

ในแคปซูลน้ำมันปลา (Fish oil) มีวิตามิน 2 ชนิดคือ ดีเอชเอ (DHA) และ อีพีเอ (EPA) มีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า

แอสไพริน (Aspirin) ยาต้านเกล็ดเลือด สำหรับคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และ/หรือ มีหลอดเลือดอุดตันแล้ว

เรียกว่าผลของน้ำมันปลาและยาแอสไพรินจะเสริมกันได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

แฝดร้ายคู่ที่ 2. “วิตามินอี” กับ “น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส” ?

วิตามินอี (Vitamin E) สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสมอง ดวงตา ผิวหนัง และเซลล์ในร่างกาย

อีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose) เป็นพืชพื้นเมืองในแถบอเมริกาเหนือ นิยมนำเมล็ดมาสกัดเป็นน้ำมัน และนำมาทำเป็นอาหารเสริมชนิดแคปซูลหรือชนิดที่ใช้ทาภายนอก

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) พบได้ในอาหารหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ และมีความเชื่อในอดีตที่ใช้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสรักษาแผลฟกช้ำ อาการเจ็บคอ หรือบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยด้วย

วิตามินอีมีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสอยู่แล้ว ถ้าเสริมวิตามินอีเข้าไปอีกก็อาจจะมีการสะสมวิตามินอีในร่างกาย ทำให้เกิดพิษได้

กรณีกินอีฟนิ่งพริมโรสแล้วกินวิตามินอีร่วมด้วย ก็อาจจะทำได้แต่ต้องเป็นวิตามินอีขนาดต่ำ ๆ และกินระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

แฝดร้ายคู่ที่ 3. “แคลเซียมเสริม” กับ “อาหารที่มีแคลเซียม” ?

ถ้าบอกว่าแคลเซียมที่มาจากอาหาร ไม่สามารถกินคู่กับแคลเซียมที่เป็นเม็ดได้ คิดว่าไม่จริง เพราะถ้ากินจากอาหารไม่พอก็กินแคลเซียมชนิดเม็ด กลายเป็นว่าจะต้องละทิ้งแคลเซียมจากอาหารทั้งหมดก็ไม่ใช่

สิ่งสำคัญก็คือต้องกินอาหารที่มีแคลเซียมเป็นหลัก ถ้าไม่พอจริง ๆ ถึงจะเสริมแคลเซียมชนิดเม็ด

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย ร้อยละ 99 ของแคลเซียมอยู่ในกระดูกและฟัน ส่วนที่เหลืออยู่ในกระแสเลือดและเนื้อเยื่อต่าง ๆ แคลเซียมมีหน้าที่หลักในการรักษาความแข็งแรงของกระดูกและเป็นตัวส่งสัญญาณไปยังเซลล์และเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย เพื่อให้หลอดเลือดและกล้ามเนื้อหดหรือคลายตัว รวมทั้งเกี่ยวข้องกับกระบวนการแข็งตัวของเลือดและช่วยในการส่งสัญญาณของระบบประสาท

ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับในแต่ละช่วงวัยสำหรับคนไทย ตามคำแนะนำปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 ได้แนะนำปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับจำแนกตามอายุและเพศ

เด็กอายุ 1-3 ขวบ ควรได้รับแคลเซียม 500 มิลลิกรัม/วัน

เด็กอายุ 4-8 ขวบ ควรได้รับแคลเซียม 800 มิลลิกรัม/วัน

เด็กวัยเรียนและวัยรุ่น อายุ 9-18 ปี ควรได้รับแคลเซียม 1,100 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีการสร้างกระดูก ร้อยละ 40 ของกระดูกจะถูกสร้างในช่วงวัยนี้ ดังนั้นจึงเป็นช่วงสำคัญที่ต้องได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ

ผู้ใหญ่อายุ 19-50 ปี ควรได้รับแคลเซียม 800 มิลลิกรัม/วัน สำหรับผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศลดลง เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้การสลายกระดูกเกิดมากกว่าการสร้างกระดูก ในเพศหญิงจึงพบการเกิดกระดูกบางหรือกระดูกพรุนสูงมากขึ้นวัยนี้ ในเพศหญิงจึงมีโอกาสเสี่ยงกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชาย เนื่องจากเพศชายไม่มีช่วงที่ฮอร์โมนเพศลดลงอย่างรวดเร็ว การลดลงของมวลกระดูกจึงเกิดขึ้นช้ากว่าที่พบในเพศหญิง

ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 51 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัม/วัน

ดังนั้น ควรได้รับแคลเซียมให้เพียงพอ แต่ไม่ควรเกิน 1,500 มิลลิกรัม/วัน

แฝดร้ายคู่ที่ 4. “แคลเซียมเสริม” กับ “กาแฟ” ?

กาแฟ (Coffee) เครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดกาแฟคั่ว นิยมดื่มทั้งร้อนและเย็น บางครั้งใส่นมหรือครีมลงในกาแฟด้วย และในกาแฟ 1 ถ้วยมีกาเฟอีนอยู่ประมาณ 80-140 มิลลิกรัม

การดื่มกาแฟ 1 แก้ว ขนาด 180 มิลลิกรัม จะทำให้เสียสมดุลแคลเซียมไป 4.3 มิลลิกรัม กาเฟอีนในกาแฟจะลดการดูดซึมแคลเซียมทางลำไส้ และมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอ่อน ๆ เพิ่มการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ ซึ่งจะดึงแคลเซียมออกทางปัสสาวะตามไปด้วย

สำหรับผู้ที่ได้รับแคลเซียมไม่ต่ำกว่า 600-800 มิลลิกรัม/วัน ไม่พบว่าการดื่มกาแฟมีผลเสียต่อการเสียสมดุลแคลเซียม

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ดื่มกาแฟมักหลีกเลี่ยงการดื่มนม ดังนั้นการดื่มกาแฟมาก ๆ แต่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อาจมีผลทำให้เสียสมดุลของแคลเซียมได้

แฝดร้ายคู่ที่ 5. “ธาตุเหล็ก” กับ “ผู้ที่มีอาการเลือดจางทาลัสซีเมีย” ?

ถ้าพูดว่าเลือดจางเฉย ๆ จะไม่จริง แต่ถ้าบอกว่าคนที่เป็นทาลัสซีเมียห้ามกินธาตุเหล็ก เรื่องนี้จริง

“ทาลัสซีเมีย” เป็นโรคเลือดชนิดหนึ่งที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ทำให้เกิดอาการซีด (เลือดจาง) โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม (รับยีนทาลัสซีเมีย) มาจากทั้งบิดาและมารดาและสามารถถ่ายทอดพันธุกรรม (ยีน) นี้ไปสู่ลูกหลานต่อไปได้

ทาลัสซีเมีย มี 2 แบบ คือ เป็นพาหะ และเป็นโรค

1. เป็นพาหะ มียีนทาลัสซีเมียเพียง 1 ยีน ซึ่งสามารถถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้ พาหะไม่มีอาการและมีสุขภาพแข็งแรง แต่สามารถตรวจวินิจฉัยได้โดยการตรวจเลือดวิธีพิเศษทางห้องปฏิบัติการ

2. เป็นโรค โดยรับยีนทาลัสซีเมียมาจากทั้งพ่อและแม่ ทำให้แสดงอาการของโรค

ผู้ป่วยโรคทาลัสซีเมีย มีอาการมากน้อยต่างกันคือ

ชนิดรุนแรงที่สุด ทารกตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือหลังคลอดไม่นาน

ชนิดรุนแรง แรกเกิดไม่มีอาการ จะสังเกตเห็นอาการซีด เมื่ออายุประมาณ 3-6 เดือน อาการสำคัญ คือ ซีด อ่อนเพลีย ท้องป่อง ม้ามโต ตับโต ตัวเล็ก เติบโตไม่สมอายุ มักซีดมากจนต้องได้รับเลือดเป็นประจำ

ชนิดปานกลางและชนิดรุนแรงน้อย ตับม้ามโตไม่มาก ซีดไม่มากแต่เมื่อมีไข้จะซีดลง

ทาลัสซีเมียเกิดจากเม็ดเลือดแดงแตกง่าย ไม่ได้ขาดธาตุเหล็ก ในเม็ดเลือดจะมีธาตุเหล็กอยู่ พอแตกมาปุ๊บ ธาตุเหล็กก็จะมาอยู่ในเลือด แล้วก็อาจทำให้เกิดพิษ การกินธาตุเหล็กเสริมเข้าไปอีกก็จะยิ่งไม่ส่งผลดี

สรุปว่าวิตามินแฝดดี แฝดร้ายที่แชร์กันนี้เป็นอย่างไร ?

ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรแชร์ต่อ เพราะการกินคู่กัน หรือห้ามกินคู่กัน อาจจะไม่เกิดผลดีหรือผลเสียที่มากมาย ขนาดที่เขียนให้เข้าใจก็อาจทำให้คนมีความคาดหวังที่มากเกินไป

สัมภาษณ์โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : วิตามินที่ควรและไม่ควรกินคู่กัน จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย