Plandemic 2 : ภาคต่อสารคดีปลอม กับข้ออ้าง “แผนแพร่ระบาดไวรัสมรณะ”

23 เมษายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ความอื้อฉาวของ Plandemic : The Hidden Agenda Behind Covid-19 ทำให้ มิกกี วิลลิส เดินหน้าผลิตผลงานภาคต่อในรูปแบบสารคดีขนาดยาวในชื่อ Plandemic : Indoctornation เพื่อเผยแพร่ในอีก 4 เดือนต่อมา

มิกกี วิลลิส อ้างว่าผลงานสารคดีความยาว 84 นาทีชิ้นนี้ เปรียบเสมือนผลงานฉบับเต็มของ Plandemic 1 เนื่องจากมีเนื้อหาที่เจาะลึกยิ่งกว่าเดิม จุดประสงค์เพื่อตอบโต้สื่อมวลชนและ Fact Checker ที่จับผิดผลงานก่อนหน้านี้ของเขา


แต่การที่ผู้สร้าง Plandemic 2 ประกาศวันเผยแพร่ผลงานอย่างชัดเจนในวันที่ 18 สิงหาคม 2020 ส่งผลให้สำนักข่าวและแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ มีเวลาวางแผนรับมือมากกว่า Plandemic 1 ทำให้ผลกระทบจากการเผยแพร่ Plandemic 2 น้อยกว่าสารคดีฉาวเรื่องก่อนอย่างมาก

แม้ผู้สร้างจะอ้างว่า Plandemic 2 ทำยอดผู้ชมในวันเปิดตัวถึง 1.2 ล้านครั้ง แต่การวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อพบว่า Plandemic 2 ล้มเหลวด้านการสร้างผลกระทบบนสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากถูกจำกัดการนำเสนอเกือบทุกช่องทาง ทั้ง YouTube Twitter และ TikTok

Plandemic 2 ไปสร้างการตอบรับในแพลตฟอร์ม เช่น BitChute แพลตฟอร์มของกลุ่มทฤษฎีสมคบคิด โดยทำยอดวิวทาง BitChute ในช่วงเปิดตัวไปได้ 40,000 วิว


Plandemic : Indoctornation ยังได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบยิ่งกว่าภาคก่อน โดยมองว่าวิธีการเล่าเรื่องของ Plandemic 2 ขาดความชัดเจน เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาแต่ไม่อาจนำไปสู่ข้อสรุปใด ๆ ได้เลย

CDC ถือสิทธิบัตรไวรัสโคโรนาเพื่อวางแผนการแพร่ระบาด – ไม่จริง

เนื้อหาของ Plandemic : Indoctornation เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐาน อาทิ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้จดสิทธิบัตรสารพันธุกรรมและวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา หลังการระบาดของโรคซาร์สในสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 2003 เพื่อหวังควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต

แม้ CDC จะได้ถือสิทธิบัตรสารพันธุกรรมและวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในปี 2007 ตามที่กล่าวอ้าง แต่จุดประสงค์ของ CDC คือการรับประกันว่าข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาจะเป็นสาธารณสมบัติ และการวิจัยเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาจะไม่ตกเป็นลิขสิทธิ์ทางการค้าของหน่วยงานใด

โครงการวัคซีนโปลิโอของ บิลล์ เกตส์ ทำให้เด็กอินเดียเป็นอัมพาตนับแสน – ไม่จริง

มีการอ้างงานวิจัยที่พบว่า โครงการรณรงค์วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอของ บิลล์ เกตส์ ระหว่างปี 2000-2017 เป็นสาเหตุทำให้เด็กชาวอินเดียป่วยเป็นอัมพาตจากวัคซีนกว่า 490,000 ราย

ข้ออ้างดังกล่าว นำมาจากงานวิจัยปี 2018 ที่พบความสัมพันธ์ระหว่างโรคกล้ามเนื้ออัมพาตอ่อนปวกเปียกเฉียบพลัน (Acute Flaccid Paralysis : AFP) กับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอในประเทศอินเดียระหว่างปี 2000-2017

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวถูกวิจารณ์เรื่องความบกพร่องในระเบียบวิธีวิจัย โดยเฉพาะการนำเสนออาการอัมพาตของเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี ทั้ง ๆ ที่โครงการวัคซีนโปลิโอเน้นให้วัคซีนแก่เด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบลงไป

นอกจากนี้ การติดเชื้อไวรัสโปลิโอยังเป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยเป็นอัมพาตอีกด้วย

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานถึงความเป็นไปได้ของการติดเชื้อโปลิโอจากการฉีดวัคซีน แต่โอกาสเกิดน้อยมากหรือมีเพียง 1 รายต่อวัคซีนโปลิโอ 2.7 ล้านโดสเท่านั้น โดยระหว่างปี 2000-2017 มีการพบผู้ป่วยโปลิโอจากการฉีดวัคซีนเพียง 17 รายเท่านั้น

โดยปี 2014 WHO ยังได้ยกย่องมูลนิธิ Gates Foundation ในฐานะที่มีส่วนสำคัญทำให้โรคโปลิโอถูกกำจัดให้หมดไปจากภูมิภาคเอเชียใต้ ยกเว้นแค่ปากีสถานและอัฟกานิสถานเท่านั้น

Event 201 คือการประชุมเพื่อวางแผนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 – ไม่จริง

รวมถึงข้ออ้างที่ว่า มีการประชุมลับ ๆ โดยตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำของโลก เพื่อวางแผนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือที่รู้จักในชื่อ Event 201

แม้การประชุมที่เรียกว่า Event 201 จะมีอยู่จริง แต่การประชุมดังกล่าวไม่ใช่การวางแผนเพื่อการแพร่ระบาดไวรัสตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

Event 201 คือโครงการวิจัยรูปแบบการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน (Tabletop Exercise) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2019 หรือเพียง 2 เดือนก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

งานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน Johns Hopkins Center for Health Security (CHS) หน่วยงาน World Economic Forum และมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation เพื่อจำลองการรับมือภัยจากเชื้อโรค หากเกิดการแพร่ระบาดในอนาคต

เนื้อหาในงานประชุม Event 201 ได้จำลองสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เริ่มแพร่ระบาดจากค้างคาวสู่สุกร และจากสุกรและสู่มนุษย์ เริ่มพบเชื้อจากฟาร์มสุกรในประเทศบราซิล ก่อนแพร่ระบาดไปยังหลายประเทศในลาตินอเมริกาและยุโรป การไม่มีวัคซีนป้องกันโรคในช่วงปีแรก ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงสาธารณรัฐประชาชนจีน การระบาดจะดำเนินเป็นเวลา 18 เดือน คร่าชีวิตผู้คนไป 65 ล้านคน สั่นคลอนระบบเศรษฐกิจหลายประเทศ จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เมื่อผู้คนเริ่มยอมรับแนวทางการป้องกันการแพร่เชื้อ และเข้ารับการฉีดวัคซีนในอัตรา 80-90% ของจำนวนประชากร

แม้เนื้อหาของงาน Event 201 จะถูกกลุ่มเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดนำไปสร้างความเข้าใจผิดว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสิ่งที่ถูกวางแผนเอาไว้ แต่จุดประสงค์ของ Event 201 คือการรวบรวมคำแนะนำและการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ มาจำลองวิกฤตการณ์โรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพร้อมในการรับมือก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง

ก่อนหน้านี้ Johns Hopkins Center for Health Security เคยได้จัดโครงการวิจัยรูปแบบการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วหลายครั้ง ทั้ง Dark Winter ในปี 2001 Atlantic Storm ในปี 2005 และ Clade X ในปี 2018

World Economic Forum ย้ำว่าแต่ละปีจะมีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทั่วโลกกว่า 200 ชนิด การเตรียมพร้อมรับมือก่อนเหตุการณ์จริงจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/article/2020/aug/18/fact-checking-plandemic-2-video-recycles-inaccurat/
http://www.mythdetector.ge/en/myth/what-bible-believing-christians-prediction-about-future-pandemic-based
https://en.wikipedia.org/wiki/Plandemic

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย