Plandemic 2 : ภาคต่อสารคดีปลอม กับข้ออ้าง “แผนแพร่ระบาดไวรัสมรณะ”

23 เมษายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ความอื้อฉาวของ Plandemic : The Hidden Agenda Behind Covid-19 ทำให้ มิกกี วิลลิส เดินหน้าผลิตผลงานภาคต่อในรูปแบบสารคดีขนาดยาวในชื่อ Plandemic : Indoctornation เพื่อเผยแพร่ในอีก 4 เดือนต่อมา

มิกกี วิลลิส อ้างว่าผลงานสารคดีความยาว 84 นาทีชิ้นนี้ เปรียบเสมือนผลงานฉบับเต็มของ Plandemic 1 เนื่องจากมีเนื้อหาที่เจาะลึกยิ่งกว่าเดิม จุดประสงค์เพื่อตอบโต้สื่อมวลชนและ Fact Checker ที่จับผิดผลงานก่อนหน้านี้ของเขา


แต่การที่ผู้สร้าง Plandemic 2 ประกาศวันเผยแพร่ผลงานอย่างชัดเจนในวันที่ 18 สิงหาคม 2020 ส่งผลให้สำนักข่าวและแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ มีเวลาวางแผนรับมือมากกว่า Plandemic 1 ทำให้ผลกระทบจากการเผยแพร่ Plandemic 2 น้อยกว่าสารคดีฉาวเรื่องก่อนอย่างมาก

แม้ผู้สร้างจะอ้างว่า Plandemic 2 ทำยอดผู้ชมในวันเปิดตัวถึง 1.2 ล้านครั้ง แต่การวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อพบว่า Plandemic 2 ล้มเหลวด้านการสร้างผลกระทบบนสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากถูกจำกัดการนำเสนอเกือบทุกช่องทาง ทั้ง YouTube Twitter และ TikTok

Plandemic 2 ไปสร้างการตอบรับในแพลตฟอร์ม เช่น BitChute แพลตฟอร์มของกลุ่มทฤษฎีสมคบคิด โดยทำยอดวิวทาง BitChute ในช่วงเปิดตัวไปได้ 40,000 วิว


Plandemic : Indoctornation ยังได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบยิ่งกว่าภาคก่อน โดยมองว่าวิธีการเล่าเรื่องของ Plandemic 2 ขาดความชัดเจน เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาแต่ไม่อาจนำไปสู่ข้อสรุปใด ๆ ได้เลย

CDC ถือสิทธิบัตรไวรัสโคโรนาเพื่อวางแผนการแพร่ระบาด – ไม่จริง

เนื้อหาของ Plandemic : Indoctornation เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐาน อาทิ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้จดสิทธิบัตรสารพันธุกรรมและวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา หลังการระบาดของโรคซาร์สในสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 2003 เพื่อหวังควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต

แม้ CDC จะได้ถือสิทธิบัตรสารพันธุกรรมและวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในปี 2007 ตามที่กล่าวอ้าง แต่จุดประสงค์ของ CDC คือการรับประกันว่าข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาจะเป็นสาธารณสมบัติ และการวิจัยเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาจะไม่ตกเป็นลิขสิทธิ์ทางการค้าของหน่วยงานใด

โครงการวัคซีนโปลิโอของ บิลล์ เกตส์ ทำให้เด็กอินเดียเป็นอัมพาตนับแสน – ไม่จริง

มีการอ้างงานวิจัยที่พบว่า โครงการรณรงค์วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอของ บิลล์ เกตส์ ระหว่างปี 2000-2017 เป็นสาเหตุทำให้เด็กชาวอินเดียป่วยเป็นอัมพาตจากวัคซีนกว่า 490,000 ราย

ข้ออ้างดังกล่าว นำมาจากงานวิจัยปี 2018 ที่พบความสัมพันธ์ระหว่างโรคกล้ามเนื้ออัมพาตอ่อนปวกเปียกเฉียบพลัน (Acute Flaccid Paralysis : AFP) กับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอในประเทศอินเดียระหว่างปี 2000-2017

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวถูกวิจารณ์เรื่องความบกพร่องในระเบียบวิธีวิจัย โดยเฉพาะการนำเสนออาการอัมพาตของเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี ทั้ง ๆ ที่โครงการวัคซีนโปลิโอเน้นให้วัคซีนแก่เด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบลงไป

นอกจากนี้ การติดเชื้อไวรัสโปลิโอยังเป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยเป็นอัมพาตอีกด้วย

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานถึงความเป็นไปได้ของการติดเชื้อโปลิโอจากการฉีดวัคซีน แต่โอกาสเกิดน้อยมากหรือมีเพียง 1 รายต่อวัคซีนโปลิโอ 2.7 ล้านโดสเท่านั้น โดยระหว่างปี 2000-2017 มีการพบผู้ป่วยโปลิโอจากการฉีดวัคซีนเพียง 17 รายเท่านั้น

โดยปี 2014 WHO ยังได้ยกย่องมูลนิธิ Gates Foundation ในฐานะที่มีส่วนสำคัญทำให้โรคโปลิโอถูกกำจัดให้หมดไปจากภูมิภาคเอเชียใต้ ยกเว้นแค่ปากีสถานและอัฟกานิสถานเท่านั้น

Event 201 คือการประชุมเพื่อวางแผนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 – ไม่จริง

รวมถึงข้ออ้างที่ว่า มีการประชุมลับ ๆ โดยตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำของโลก เพื่อวางแผนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือที่รู้จักในชื่อ Event 201

แม้การประชุมที่เรียกว่า Event 201 จะมีอยู่จริง แต่การประชุมดังกล่าวไม่ใช่การวางแผนเพื่อการแพร่ระบาดไวรัสตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

Event 201 คือโครงการวิจัยรูปแบบการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน (Tabletop Exercise) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2019 หรือเพียง 2 เดือนก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

งานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน Johns Hopkins Center for Health Security (CHS) หน่วยงาน World Economic Forum และมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation เพื่อจำลองการรับมือภัยจากเชื้อโรค หากเกิดการแพร่ระบาดในอนาคต

เนื้อหาในงานประชุม Event 201 ได้จำลองสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เริ่มแพร่ระบาดจากค้างคาวสู่สุกร และจากสุกรและสู่มนุษย์ เริ่มพบเชื้อจากฟาร์มสุกรในประเทศบราซิล ก่อนแพร่ระบาดไปยังหลายประเทศในลาตินอเมริกาและยุโรป การไม่มีวัคซีนป้องกันโรคในช่วงปีแรก ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงสาธารณรัฐประชาชนจีน การระบาดจะดำเนินเป็นเวลา 18 เดือน คร่าชีวิตผู้คนไป 65 ล้านคน สั่นคลอนระบบเศรษฐกิจหลายประเทศ จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เมื่อผู้คนเริ่มยอมรับแนวทางการป้องกันการแพร่เชื้อ และเข้ารับการฉีดวัคซีนในอัตรา 80-90% ของจำนวนประชากร

แม้เนื้อหาของงาน Event 201 จะถูกกลุ่มเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดนำไปสร้างความเข้าใจผิดว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสิ่งที่ถูกวางแผนเอาไว้ แต่จุดประสงค์ของ Event 201 คือการรวบรวมคำแนะนำและการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ มาจำลองวิกฤตการณ์โรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพร้อมในการรับมือก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง

ก่อนหน้านี้ Johns Hopkins Center for Health Security เคยได้จัดโครงการวิจัยรูปแบบการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วหลายครั้ง ทั้ง Dark Winter ในปี 2001 Atlantic Storm ในปี 2005 และ Clade X ในปี 2018

World Economic Forum ย้ำว่าแต่ละปีจะมีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทั่วโลกกว่า 200 ชนิด การเตรียมพร้อมรับมือก่อนเหตุการณ์จริงจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/article/2020/aug/18/fact-checking-plandemic-2-video-recycles-inaccurat/
http://www.mythdetector.ge/en/myth/what-bible-believing-christians-prediction-about-future-pandemic-based
https://en.wikipedia.org/wiki/Plandemic

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” นักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความตำรวจพลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกทำร้ายและได้รับบาดเจ็บ […]

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย