ชัวร์ก่อนแชร์: ขับรถน้ำมันคันเก่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าซื้อ EV คันใหม่ จริงหรือ?

06 เมษายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทางสื่อสารมวลชนในต่างประเทศ เมื่อ เจเรมี วอร์เนอร์ ผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Daily Telegraph, ปีเตอร์ สวีเดน นักเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด และ โรแวน แอตกินสัน นักแสดงตลกชื่อดังชาวอังกฤษ ต่างเผยแพร่ความเชื่อว่า การขับรถยนต์น้ำมันคันเดิม สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ เนื่องจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์ขึ้นมาใหม่ จะสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า


บทสรุป :

แม้การปลดปล่อยคาร์บอนจากการผลิตรถยนต์ EV คันใหม่ จะสูงกว่าการขับรถยนต์น้ำมันคันเก่าต่อไป แต่เมื่อเริ่มขับรถยนต์ EV นานกว่า 4 ปีหรือระยะทางมากกว่า 35,000 กิโลเมตร ปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากรถยนต์ EV จะน้อยกว่าการขับรถยนต์น้ำมันคันเก่าในที่สุด

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


เทียบการปล่อยแก๊ซเรือนกระจกระหว่างรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า (สีฟ้าด้านล่างคือปริมาณคาร์บอนจากการผลิตรถยนต์)

หากวัดความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ การขับรถยนต์น้ำมันคันเดิมต่อไป น่าจะให้ความคุ้มค่าแก่เจ้าของรถยนต์มากกว่า

แต่หากคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้ง การปล่อยไอเสียจากรถยนต์น้ำมันคันเก่าต่อไป อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่รถยนต์คันใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่มีการใช้รถยนต์ต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 4-5 ปีขึ้นไป

ผลการสำรวจโดย Carbon Brief เว็บไซต์หน่วยงานของสหราชอาณาจักร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่า แม้ขั้นตอนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์ จะสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการขับรถยนต์น้ำมันคันเดิมในช่วงแรก แต่หากนำปริมาณการสร้างมลพิษของรถยนต์ทั้ง 2 ชนิดมาเปรียบเทียบในระยะทางการใช้งานช่วง 32,000-50,000 กิโลเมตร มลพิษต่อสิ่งแวดล้อมของการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ จะเริ่มน้อยกว่าการใช้รถยนต์สันดาปภายในคันเดิม หรือเทียบได้กับการใช้งานในเวลาประมาณ 4-5 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นขนาดของรถยนต์และแบตเตอรี่ ระยะทางที่ใช้รถยนต์ ประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานของรถยนต์ ฯลฯ

ผลการทดลองเปรียบเทียบสรุปได้ว่า ขนาดของรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้ามีผลต่อระยะเวลาความคุ้มค่าต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับการซื้อรถยนต์คันใหม่อย่างชัดเจน หากเดิมใช้รถยนต์น้ำมันคันเล็ก แล้วเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าคันใหญ่ จุดคุ้มค่าจะต้องใช้เวลานานกว่า ในทางตรงกันข้าม หากเดิมใช้รถยนต์น้ำมันคันใหญ่ แล้วเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าคันเล็ก จุดคุ้มค่าจะมาถึงในเวลาไม่นาน

แต่เดิมรัฐบาลสหราชอาณาจักรมีนโยบายแบนการขายรถยนต์สันดาปภายในภายในปี 2030 และอนุญาตให้จำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริดได้ถึงปี 2035 แต่ภายหลังได้เลื่อนการแบนการขายรถยนต์น้ำมันออกไปเป็นปี 2035

เมื่อประเมินว่ารถยนต์ 1 คันมีอายุการใช้งานเฉลี่ยไม่เกิน 15 ปี การแบนการขายรถยนต์น้ำมันภายในปี 2035 ถือเป็นการรับประกันว่าจะไม่มีรถยนต์น้ำมันถูกนำมาวิ่งบนถนนในสหราชอาณาจักรในปี 2050 ซึ่งเป็นปีแห่งการตั้งเป้าให้การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกพุ่งสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นจุดที่วงการวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเตือนว่าจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://climatefeedback.org/claimreview/eu-not-passing-law-seize-scrap-cars-under-climate-agenda-contrary-peter-sweden-claim/
https://www.carbonbrief.org/factcheck-21-misleading-myths-about-electric-vehicles/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น