ชัวร์ก่อนแชร์: ญี่ปุ่นไม่รับบริจาคโลหิตจากผู้รับวัคซีนโควิด-19 จริงหรือ?

28 มีนาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทาง Facebook ในสหรัฐอเมริกาว่า ประเทศญี่ปุ่นไม่รับบริจาคโลหิตจากผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย

บทสรุป :

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุให้ผู้รับวัคซีนโควิด-19 ควรเว้นจากบริจาคโลหิตเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบอาการข้างเคียงและยืนยันความพร้อมก่อนการบริจาคโลหิต

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ฮิโตชิ ฮัตตะ โฆษกสถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อธิบายต่อ Factcheck.org ว่า ขณะนั้นญี่ปุ่นไม่ได้ปฏิเสธการรับบริจาคโลหิตจากผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่ขอให้ระงับการบริจาคโลหิตในระหว่างที่รัฐบาลกำลังสรุปแนวทางการบริจาคโลหิตสำหรับผู้รับวัคซีนโควิด-19

ข้อเสนอแนะจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไม่ควรบริจาคโลหิตเป็นเวลา 48 ชั่วโมง

ฮิโตชิ ฮัตตะ ย้ำว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้มาจากข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน แต่ต้องการให้ผู้รับวัคซีนตรวจสอบอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการปวดศีรษะหรือเป็นไข้ เพื่อยืนยันความพร้อมก่อนการบริจาคโลหิต

ดร.จูลี แคทซ์ คาร์ป ผู้อำนวยการแผนกเวชศาสตร์บริการโลหิต โรงพยาบาล Thomas Jefferson University Hospital ยืนยันว่าผู้รับวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯ เช่น Pfizer–BioNTech และ Moderna สามารถบริจาคโลหิตได้ทันที

ดร.จูลี แคทซ์ คาร์ป อธิบายว่านโยบายเว้นช่วงบริจาคโลหิตในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันมาก ปัจจัยมีทั้งจากเหตุผลทางการแพทย์ ประเด็นทางวัฒนธรรม จนถึงปัญหาการขาดแคลนโลหิต

สหรัฐฯ มีการเว้นช่วงบริจาคโลหิตที่สั้นมาก โดยประชาชนสามารถบริจาคโลหิตได้ทุก ๆ 56 วัน

ส่วนประเทศญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ผู้ชายบริจาคโลหิตได้ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง หรือ 1,200 มิลลิลิตร ส่วนผู้หญิงสามารถบริจาคโลหิตได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง หรือ 800 มิลลิลิตร