ชัวร์ก่อนแชร์: “น้ำส้มสายชูหมัก” ลดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19 จริงหรือ?

18 มีนาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในไต้หวัน โดยอ้างว่าผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Astrazeneca ควรดื่มน้ำส้มสายชูหมัก (Vinegar) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้หรือน้ำส้มสายชูหมักจากกระเทียมดำ เนื่องจากมีสรรพคุณลดการหดตัวของหลอดเลือด (Vasoconstriction)

บทสรุป :

1.ปัจจุบันไม่ยังพบวิธีป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากการฉีดวัคซีนโควิด-19
2.การอ้างว่าดื่มน้ำส้มสายชูหมักช่วยลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19 จึงไม่เป็นความจริง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

อู๋ยี่หมิง แพทย์จากแผนกโภชนบำบัด โรงพยาบาล Chang Gung Memorial Hospital อธิบายว่า ส่วนประกอบของน้ำส้มสายชูหมักที่ขายในท้องตลาด ประกอบไปด้วย กรดน้ำส้ม, กรดอินทรีย์ และ โพลีฟีนอล

ผลวิจัยพบว่า กรดอินทรีย์และโพลีฟีนอลในน้ำส้มสายชูหมัก ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่กรดน้ำส้มอาจสร้างความระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารและหลอดอาหาร ผู้มีแผลในระบบทางเดินอาหารจึงไม่ควรดื่มน้ำส้มสายชูหมัก ส่วนประชาชนทั่วไปควรเจือจางน้ำส้มสายชูหมักก่อนดื่ม และควรดื่มไม่เกินวันละ 50 มิลลิลิตรต่อวัน

การวิจัยในหลอดทดลอง พบว่ากรดอินทรีย์ช่วยให้หลอดเลือดและเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนกรดน้ำส้มและกรดอินทรีย์มีคุณสมบัติยับยั้งการแข็งตัวของเกล็ดเลือด แต่เนื่องจากยังไม่มีการทดลองในมนุษย์ จึงไม่อาจยืนยันได้ว่าน้ำส้มสายชูหมักจะช่วยลดโอกาสการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้มากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ การเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19 ชนิดอะดีโนไวรัส เช่นวัคซีน Astrazeneca ยังแตกต่างจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตันประเภทอื่น ๆ โดยประเภทของลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19 ที่พบได้แก่ภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน (Cerebral Venous Thrombosis) และ ภาวะหลอดเลือดดำในลำไส้อุดตัน (Intestinal Venous Thrombosis)

ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ปัจจุบันไม่ยังพบยาหรือวิธีป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 การอ้างว่าดื่มน้ำส้มสายชูหมักช่วยลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19 จึงไม่เป็นความจริง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/5799