09 กุมภาพันธ์ 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2021 สมัยที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าระบาดอย่างหนัก โดยอ้างว่าทางการรัฐโคโลราโดออกคำสั่งให้โรงพยาบาลมีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เพื่อให้ความสำคัญกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ฉีดวัคซีนแล้ว เนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งกำลังประสบปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาล
บทสรุป :
- เมื่อปี 2021 ที่ไวรัสเดลต้าระบาดหนัก รัฐโคโลราโดอนุมัติคำสั่งฉุกเฉินให้โรงพยาบาลมีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วย หากพบว่าโรงพยาบาลกำลังเข้าสู่สภาวะขีดจำกัดด้านการบริการ
- สหรัฐอเมริกามีกฏหมายห้ามไม่ให้โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาจากสถานะทางการเงินของคนไข้ เช่นเดียวกับสถานะการฉีดวัคซีน
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
การแพร่ระบาดของไวรัสเดลต้าในช่วงเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาเผชิญวิกฤตผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล รวมถึงสถานการณ์ในรัฐโคโลราโด โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2021 พบว่า จำนวนเตียงในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในรัฐโคโลราโดเหลืออยู่เพียง 5% เท่านั้น
จาเรด โพลิส ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดได้อนุมัติคำสั่งฉุกเฉินเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2021 อนุญาตให้โรงพยาบาลมีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษาและสามารถส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ หากมีหลักฐานยืนยันได้ว่าโรงพยาบาลกำลังเข้าสู่สภาวะขีดจำกัดด้านการบริการ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี การอ้างว่ารัฐโคโลราโดใช้คำสั่งดังกล่าวเพื่อเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่ฉีดวัคซีนไม่เป็นความจริง
ในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายที่ชื่อว่า Emergency Medical Treatment and Active Labor Act (EMTALA) มีข้อห้ามไม่ให้โรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าผู้ป่วยจะทำประกันสุขภาพหรือไม่ หรือมีสถานะทางการเงินเช่นไร
แมทธิว ไวเนีย ผู้อำนวยการศูนย์ชีวจริยธรรมและมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด ชี้แจงว่า แพทย์จะไม่คัดแยกผู้ป่วยจากสถานะการฉีดวัคซีน ผู้ป่วยจะไม่ถูกลงโทษเพราะการตัดสินใจทางการแพทย์ที่ไม่ถูกต้อง แม้การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องนั้น จะส่งผลเสียต่อทั้งตัวคนไข้และผู้คนรอบข้างก็ตาม
แมทธิว ไวเนีย ซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาล UCHealth Internal Medicine – Anschutz Medical Campus เล่าถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าเมื่อปี 2021 ว่า หากเป็นสถานการณ์ปกติ นักบำบัดทางเดินหายใจ 1 คนจะดูแลผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 5 คน แต่ในช่วงที่เชื้อเดลต้าระบาด นักบำบัดทางเดินหายใจ 1 คนต้องดูแลผู้ป่วยถึง 15 คนในเวลาเดียวกัน
มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยต้องถูกส่งกลับไปรักษาที่บ้าน แม้พวกเขาจะยังไม่ถึงกำหนดออกจากโรงพยาบาล เพื่อความจำเป็นในการมอบเตียงคนไข้ให้กับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มว่าจะเสียชีวิตหากไม่ได้รักษาตัวในโรงพยาบาล
แมทธิว ไวเนีย ย้ำว่าตอนนั้นมีโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งทั้งในรัฐไอดาโฮและอะแลสกา ที่ส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า หรือแบ่งสัดส่วนบุคลากรทางการแพทย์ตามความจำเป็น แม้จะไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เลี่ยงไม่ได้
กระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 เมื่อครั้งที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้อนุมัติให้ชาวอเมริกันที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ของบริษัท Pfizer/BioNTech และ Moderna เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป หลังเคยจำกัดการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เฉพาะผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีโรคประจำตัวเท่านั้น ทำให้สภาวะผู้ป่วยโควิด-19 ล้นโรงพยาบาลดีขึ้นตามลำดับ
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.factcheck.org/2021/11/scicheck-colorado-order-addresses-surge-in-hospitalizations-not-vaccination-status/
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter