ชัวร์ก่อนแชร์: มีคนตายจากวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 10 ล้านราย จริงหรือ?

25 มกราคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดย สตีฟ เคิร์ช นักธุรกิจชาวอเมริกัน อ้างว่าที่ประเทศนิวซีแลนด์พบผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ถึง 1 รายต่ออัตราวัคซีน 1,000 โดส เทียบได้ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19ให้กับประชากรทั่วโลก เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ล้านราย


บทสรุป :

1 ปีหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 นิวซีแลนด์มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากยกเลิกการล็อกดาวน์ พร้อมกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


สตีฟ เคิร์ช เป็นนักธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกา สร้างชื่อจากการคิดค้นเมาส์แบบใช้แสง (Optical Mouse) สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 1980

แต่ปัจจุบัน สตีฟ เคิร์ช เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะ Misinformation Superspreader จากการอ้างถึงผลกระทบของวัคซีนโควิด-19 โดยไม่มีหลักฐานยืนยัน

ข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช กล่าวอ้างถูกนำไปเผยแพร่ทั้งทางเว็บไซต์ Substack และในงานเสวนา MIT Students for Open Inquiry ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา โดยมียอดรับชมวิดีโอย้อนหลังทางแพลตฟอร์ม Rumble เกือบ 3 แสนครั้ง

เนื้อหาในงานเสวนาอ้างถึงข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขนิวซีแลนด์ (Health New Zealand) ที่พบว่า หลังประชาชนนิวซีแลนด์ได้รับวัคซีนไปแล้วเป็นเวลา 6 เดือน ประเทศนิวซีแลนด์กลับมีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) เพิ่มขึ้น

สตีฟ เคิร์ช จึงสรุปว่า สาเหตุของการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น มีปัจจัยจากวัคซีนโควิด-19 โดยคาดว่าวัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิต 1 ครั้งต่อการฉีดวัคซีนทุก ๆ 1,000 โดส เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนทั่วโลกจะเท่ากับว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีนมากกว่า 13 ล้านราย

เผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย

นอกจากข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช เผยแพร่จะถูกวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญเรื่องบทสรุปอย่างไม่ถูกต้องแล้ว ตัวข้อมูลที่นำมาจาก Health New Zealand ยังเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกด้วย

หนังสือพิมพ์ New Zealand Herald รายงานว่า ข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช ใช้ในการวิเคราะห์ เป็นข้อมูลที่ แบร์รี ยัง ผู้ดูแลฐานข้อมูลของเว็บไซต์ Health New Zealand นำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนไข้ ส่งผลให้ แบร์รี ยัง ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ด้วยเจตนามิชอบ โดย Health New Zealand ได้ขออำนาจศาลบังคับให้ยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลทางออนไลน์ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคนไข้

ไม่มีข้อมูลยอดเสียชีวิตของคนไม่ฉีดวัคซีน

เจฟฟรีย์ มอร์ริส ผู้อำนวยการศูนย์ชีวสถิติ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่โต้แย้งข้อกล่าวอ้างของ สตีฟ เคิร์ช ชี้แจงว่า การจะอ้างได้ว่าวัคซีนคือมีส่วนก่อให้เกิดอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) จำเป็นจะต้องนำอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของผู้ที่ฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีนมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งสถิติดังกล่าวไม่มีอยู่ในข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช กล่าวอ้าง จึงไม่อาจสรุปได้ว่า วัคซีนคือสาเหตุของอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินหรือเป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ

Excess Deaths ในนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นเพราะสังคมสูงวัย

Fact Checker ของ Health Feedback ได้ตรวจสอบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) ของนิวซีแลนด์กับทางเว็บไซต์ Stats NZ พบว่า มีเพียงกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 60 ปีที่มีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในปี 2022 มากกว่า 2020 อย่างมีนัยยะสำคัญ ตรงข้ามกับข้ออ้างของ สตีฟ เคิร์ช ที่พบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในประชากรนิวซีแลนด์ทุกช่วงวัย

Stats NZ ชี้แจงว่า แม้อายุขัยของชาวนิวซีแลนด์จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตของผู้สูงอายุจะมากกว่ากลุ่มประชากรหนุ่มสาว เนื่องจากการขยายตัวของสัดส่วนประชากรสูงวัยในประเทศ โดยปี 2022 ชาวนิวซีแลนด์ที่เสียชีวิตถึง 4 จาก 5 รายที่เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยครึ่งหนึ่งมีอายุมากกว่า 80 ปี

นิวซีแลนด์เสียชีวิตในช่วงโควิดน้อยเพราะการล็อกดาวน์

ข้อมูลจาก Our World in Data พบว่า อัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) ของนิวซีแลนด์ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นหลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 แท้จริงแล้วเป็นอัตราการเสียชีวิตที่กลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังอัตราการเสียชีวิตลดต่ำลงอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19

ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ The Lancet พบว่า ในปี 2020 นิวซีแลนด์มีประชากรเสียชีวิตลดลงจากปี 2019 โดยมีอัตราการเสียชีวิตเพียง 439.4 รายต่อประชากร 1 ล้านราย

สาเหตุที่การเสียชีวิตลดลงอย่างมากในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก มาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดของนิวซีแลนด์ นอกจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะน้อยแล้ว ผู้ติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน

นอกจากนี้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ยังส่งผลให้อุบัติเหตุทางรถยนต์ลดลง อุบัติเหตุในที่ทำงานลดลง ปัญหามลพิษทางอากาศลดลง รวมถึงผลกระทบหลังการผ่าตัดที่ลดลงอีกด้วย

แต่เมื่อมาตรการป้องกันโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลงในปี 2022 ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เชื้อได้ง่ายและส่งผลให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง ทำให้อัตราการเสียชีวิตของชาวนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นเป็น 662.4 รายต่อประชากร 1 ล้านราย

ข้ออ้างเรื่องวัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมาก เคยถูกตรวจสอบมาแล้วบ่อยครั้ง

เมื่อเดือนธันวาคม 2023 มีข้อความทาง X อ้างว่า มีชาวนิวซีแลนด์ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เสียชีวิตถึงร้อยละ 20

การตรวจสอบโดย Fact Checker ของเว็บไซต์ USA Today พบว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2023 มีชาวนิวซีแลนด์รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อย่างน้อย 2 โดสกว่า 4 ล้านคน ถ้าข้ออ้างดังกล่าวเป็นจริง จะต้องมีชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิตเพราะวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกว่า 8 แสนราย แต่ระหว่างปี 2020 ถึงเดือนมิถุนายน 2023 มีชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิตไปเพียง 125,000 รายเท่านั้น

นอกจากนี้ การสำรวจในหลายประเทศ เช่น ฮังการีและสหรัฐอเมริกา ก็ไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีนจำนวนมากเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/steve-kirschs-claim-new-zealand-data-shows-covid-vaccines-killed-millions-flawed-analysis/
https://www.factcheck.org/2023/12/scicheck-flawed-analysis-of-new-zealand-data-doesnt-show-covid-19-vaccines-killed-millions/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]

ฝนตกหนักบางแห่ง กลางตอนล่าง-ตะวันออก-ใต้

กทม. 7 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย […]

รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 7 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย พร้อมหนุนกองทัพทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง ยืนยันให้การประชุม JBC เป็นเวทีหาทางออกโดยสันติวิธี และขอให้ทั้งสองฝ่ายปรับกำลังกลับสู่ที่ตั้งเดิม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ระบุเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ผมได้หารือร่วมกับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ณ พื้นที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ภายหลังจากการหารือ มีข้อมูลบางประการที่เผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนจากเนื้อหาที่ได้หารือกันในที่ประชุม เป็นที่น่าเสียดายที่ข้อเสนอที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การลดการเผชิญหน้าและสันติภาพถูกปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้น กลับมีการเพิ่มกำลังทางการทหารที่ยิ่งเพิ่มความตึงเครียด ทั้งนี้ ทางเราเองจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการและเสริมกำลังด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผมขอเน้นย้ำจุดยืน ตามที่ได้หารือกับท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น และพร้อมปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างสุดกำลัง 2.ผมขอยืนยันสนับสนุนกองทัพให้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง และให้กำลังใจแก่กำลังพลทุกนาย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย ขอย้ำว่า ทุกการดำเนินการของฝ่ายไทยจะคำนึงถึงชีวิต ความปลอดภัย ความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน […]

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]