25 มกราคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลที่ถูกแชร์ :
มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดย สตีฟ เคิร์ช นักธุรกิจชาวอเมริกัน อ้างว่าที่ประเทศนิวซีแลนด์พบผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ถึง 1 รายต่ออัตราวัคซีน 1,000 โดส เทียบได้ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19ให้กับประชากรทั่วโลก เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ล้านราย
บทสรุป :
1 ปีหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 นิวซีแลนด์มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากยกเลิกการล็อกดาวน์ พร้อมกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
สตีฟ เคิร์ช เป็นนักธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกา สร้างชื่อจากการคิดค้นเมาส์แบบใช้แสง (Optical Mouse) สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 1980
แต่ปัจจุบัน สตีฟ เคิร์ช เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะ Misinformation Superspreader จากการอ้างถึงผลกระทบของวัคซีนโควิด-19 โดยไม่มีหลักฐานยืนยัน
ข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช กล่าวอ้างถูกนำไปเผยแพร่ทั้งทางเว็บไซต์ Substack และในงานเสวนา MIT Students for Open Inquiry ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา โดยมียอดรับชมวิดีโอย้อนหลังทางแพลตฟอร์ม Rumble เกือบ 3 แสนครั้ง
เนื้อหาในงานเสวนาอ้างถึงข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขนิวซีแลนด์ (Health New Zealand) ที่พบว่า หลังประชาชนนิวซีแลนด์ได้รับวัคซีนไปแล้วเป็นเวลา 6 เดือน ประเทศนิวซีแลนด์กลับมีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) เพิ่มขึ้น
สตีฟ เคิร์ช จึงสรุปว่า สาเหตุของการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น มีปัจจัยจากวัคซีนโควิด-19 โดยคาดว่าวัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิต 1 ครั้งต่อการฉีดวัคซีนทุก ๆ 1,000 โดส เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนทั่วโลกจะเท่ากับว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีนมากกว่า 13 ล้านราย
เผยแพร่ข้อมูลผิดกฎหมาย
นอกจากข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช เผยแพร่จะถูกวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญเรื่องบทสรุปอย่างไม่ถูกต้องแล้ว ตัวข้อมูลที่นำมาจาก Health New Zealand ยังเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกด้วย
หนังสือพิมพ์ New Zealand Herald รายงานว่า ข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช ใช้ในการวิเคราะห์ เป็นข้อมูลที่ แบร์รี ยัง ผู้ดูแลฐานข้อมูลของเว็บไซต์ Health New Zealand นำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนไข้ ส่งผลให้ แบร์รี ยัง ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ด้วยเจตนามิชอบ โดย Health New Zealand ได้ขออำนาจศาลบังคับให้ยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลทางออนไลน์ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคนไข้
ไม่มีข้อมูลยอดเสียชีวิตของคนไม่ฉีดวัคซีน
เจฟฟรีย์ มอร์ริส ผู้อำนวยการศูนย์ชีวสถิติ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่โต้แย้งข้อกล่าวอ้างของ สตีฟ เคิร์ช ชี้แจงว่า การจะอ้างได้ว่าวัคซีนคือมีส่วนก่อให้เกิดอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) จำเป็นจะต้องนำอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของผู้ที่ฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีนมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งสถิติดังกล่าวไม่มีอยู่ในข้อมูลที่ สตีฟ เคิร์ช กล่าวอ้าง จึงไม่อาจสรุปได้ว่า วัคซีนคือสาเหตุของอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินหรือเป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ
Excess Deaths ในนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นเพราะสังคมสูงวัย
Fact Checker ของ Health Feedback ได้ตรวจสอบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) ของนิวซีแลนด์กับทางเว็บไซต์ Stats NZ พบว่า มีเพียงกลุ่มประชากรอายุมากกว่า 60 ปีที่มีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในปี 2022 มากกว่า 2020 อย่างมีนัยยะสำคัญ ตรงข้ามกับข้ออ้างของ สตีฟ เคิร์ช ที่พบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในประชากรนิวซีแลนด์ทุกช่วงวัย
Stats NZ ชี้แจงว่า แม้อายุขัยของชาวนิวซีแลนด์จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตของผู้สูงอายุจะมากกว่ากลุ่มประชากรหนุ่มสาว เนื่องจากการขยายตัวของสัดส่วนประชากรสูงวัยในประเทศ โดยปี 2022 ชาวนิวซีแลนด์ที่เสียชีวิตถึง 4 จาก 5 รายที่เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยครึ่งหนึ่งมีอายุมากกว่า 80 ปี
นิวซีแลนด์เสียชีวิตในช่วงโควิดน้อยเพราะการล็อกดาวน์
ข้อมูลจาก Our World in Data พบว่า อัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน (Excess Deaths) ของนิวซีแลนด์ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นหลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 แท้จริงแล้วเป็นอัตราการเสียชีวิตที่กลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังอัตราการเสียชีวิตลดต่ำลงอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19
ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ The Lancet พบว่า ในปี 2020 นิวซีแลนด์มีประชากรเสียชีวิตลดลงจากปี 2019 โดยมีอัตราการเสียชีวิตเพียง 439.4 รายต่อประชากร 1 ล้านราย
สาเหตุที่การเสียชีวิตลดลงอย่างมากในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก มาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดของนิวซีแลนด์ นอกจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะน้อยแล้ว ผู้ติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน
นอกจากนี้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ยังส่งผลให้อุบัติเหตุทางรถยนต์ลดลง อุบัติเหตุในที่ทำงานลดลง ปัญหามลพิษทางอากาศลดลง รวมถึงผลกระทบหลังการผ่าตัดที่ลดลงอีกด้วย
แต่เมื่อมาตรการป้องกันโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลงในปี 2022 ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เชื้อได้ง่ายและส่งผลให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง ทำให้อัตราการเสียชีวิตของชาวนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นเป็น 662.4 รายต่อประชากร 1 ล้านราย
ข้ออ้างเรื่องวัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมาก เคยถูกตรวจสอบมาแล้วบ่อยครั้ง
เมื่อเดือนธันวาคม 2023 มีข้อความทาง X อ้างว่า มีชาวนิวซีแลนด์ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เสียชีวิตถึงร้อยละ 20
การตรวจสอบโดย Fact Checker ของเว็บไซต์ USA Today พบว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2023 มีชาวนิวซีแลนด์รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อย่างน้อย 2 โดสกว่า 4 ล้านคน ถ้าข้ออ้างดังกล่าวเป็นจริง จะต้องมีชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิตเพราะวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกว่า 8 แสนราย แต่ระหว่างปี 2020 ถึงเดือนมิถุนายน 2023 มีชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิตไปเพียง 125,000 รายเท่านั้น
นอกจากนี้ การสำรวจในหลายประเทศ เช่น ฮังการีและสหรัฐอเมริกา ก็ไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีนจำนวนมากเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง :
https://healthfeedback.org/claimreview/steve-kirschs-claim-new-zealand-data-shows-covid-vaccines-killed-millions-flawed-analysis/
https://www.factcheck.org/2023/12/scicheck-flawed-analysis-of-new-zealand-data-doesnt-show-covid-19-vaccines-killed-millions/
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter